LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติแบบมีเงื่อนไขให้นำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย

www.plewseengren.com

LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติแบบมีเงื่อนไขให้นำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย
ผลการทดลองทางคลินิกบ่งชี้ว่า LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแบบรุนแรงหรือการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ถึง 88% ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาภายใน 3 วันหลังแสดงอาการ

ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม ส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ ทิกซาเกวิแมบ (tixagevimab) และ ซิลกาวิแมบ (cilgavimab) หรือ LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแบบมีเงื่อนไขในประเทศไทยให้นำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ในผู้ใหญ่และวัยรุ่น (ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม) ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง

การอนุมัติยา LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อนำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 เป็นการอนุมัติเพิ่มเติมหลังได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแบบมีเงื่อนไขในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับใช้เพื่อการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ทั้งในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะทำการจัดหาและทยอยส่งมอบยา LAAB จำนวน 257,500 ยูนิต ให้แก่ประเทศไทย ตามสัญญาการจัดซื้อซึ่งแอสตร้าเซนเนก้า และ กรมควบคุมโรค ได้ร่วมลงนามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นก้าวสำคัญที่ยา LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสมเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติให้นำมาใช้ทั้งสำหรับการป้องกันและการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ประชากรจำนวนมากยังคงมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ยา LAAB จึงกลายเป็นทางเลือกที่จําเป็น ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรครุนแรงและการเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อแล้วได้อีกด้วย”

จากผลลัพธ์ของการทดลองแท็คเคิล (TACKLE) การศึกษาระยะที่ 3 ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่แสดงอาการและได้รับยาภายในช่วง 3 วันแรก พบว่า ยา LAAB สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง หรือเสียชีวิต (จากทุกสาเหตุ) ได้ถึง 88% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo) (95% ช่วงความเชื่อมั่น [CI] 9, 98) และยังลดความเสี่ยงถึง 67% (95% ช่วงความเชื่อมั่น [CI] 31, 84) ในกลุ่มที่ได้รับยา LAAB ภายใน 5 วันหลังแสดงอาการ1

จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด2 ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสมสามารถลบล้างฤทธิ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 และ BA.5 (ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศไทย) และสายพันธุ์อื่นๆ ที่มี ณ ปัจจุบัน

LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติใช้ในประเทศญี่ปุ่นและในสหภาพยุโรปทั้งสำหรับการป้องกันและการรักษาโควิด-19 แบบมีอาการ และได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาในสหราชอาณาจักรเพื่อใช้สำหรับการป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ยังได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาเพื่อนำมาใช้ในการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา (อนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉิน) และได้มีการส่งมอบไปยังประเทศอื่นๆ หลายประเทศทั่วโลก

Written By
More from pp
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ศบค. ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานในรูปแบบ New Normal
29 มิ.ย.63 เวลา 12.20 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี...
Read More
0 replies on “LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติแบบมีเงื่อนไขให้นำมาใช้สำหรับการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย”