20 กันยายน 2565 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ขอเถอะ ครับ ….อย่าด้อยค่าเรา ด้วยอคติ อย่าสร้างความสับสนให้สังคม อย่าทำร้ายประชาชน อย่าทำร้ายคนทำงาน อีกเลย อย่าเพียง “อยากดัง” หรือแค่ “หิวแสง”
มีอาจารย์หมอบางท่าน บอกว่า แท้ที่จริงแล้วโควิด-19 คร่าชีวิตคนไทย มากกว่าที่ทางการรายงานออกไป ตอนนี้ ยังออกสื่อเป็นประจำ เอาข้อมูลส่วนน้อย ข้อมูลที่ไม่มีผลกระทบกับสาธารณสุข นำมาออกสื่อ สร้างความสับสน ปั่นกระแส สร้างความกลัวให้ประชาชน
เวลาเราออกมาตรการรับมือโควิด 19 ต้องออกมาค้านทุกเรื่อง บอกว่า “ผิดไปหมด”
แน่นอนครับ ว่าเป็นสิทธิ์ของท่านในการที่จะเชื่อแบบนั้น แต่มันก็เป็นความจริงที่..อาจารย์หมอท่านนั้น “มีอคติต่อการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขไทยอย่างชัดเจน” เราทำอะไรก็ผิดไปหมด และท่านมีประเด็นซ่อนเร้นมากมาย ใช้ความเป็นหมอ ใช้ความเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง …มาสร้างกระแส สร้างความสับสนให้ประชาชน
สิ่งที่หมออยากจะสื่อสารคือ การทำงานอย่างหนัก เสียสละ ทุ่มเทเพื่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้เราประกาศชัยชนะต่อโควิด 19 ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โควิด 19 จะได้รับการปรับเป็น “การสิ้นสุดการระบาดใหญ่ เป็นโรคประจำถิ่น”
เราภูมิใจที่…เราทุกคนช่วยกันคืนรอยยิ้มให้พี่น้องประชาชน กลับมามีความสุขอีกครั้ง ครับ
เราควรเชื่อคนที่สื่อสารแบบมีอคติบังตา คนที่อยากดัง หิวแสง หรือครับ ?
หรือพี่น้องประชาชนควรเชื่อข้อมูลจากผู้ที่เป็นกลาง ในการตัดสินใจ ครับ
ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจากนานาชาติว่าอยู่ในระดับสุดยอดของโลกในการจัดการสถานการณ์โควิด-19
เช่น การที่ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ยกให้ไทยเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และอันดับที่ 1 ของเอเชีย ในเรื่องของความมั่นคงด้านสาธารณสุข แล้วระบบสาธารณสุขไทย ที่ถูกท่านด้อยค่าทุกวัน นี่เอง ที่ได้รับการยกย่องจากนานาชาติ
การที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับ ได้การมอบหมายให้เป็นของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Center for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) พวกเราทุกคนภูมิใจ ครับ
ประเทศไทย คือหนึ่งในประเทศที่องค์การอนามัยโลกยกย่องให้เป็นต้นแบบในการจัดการโควิด-19
นี่คือสายตาจากนานาชาติ ที่มองมายังประเทศไทย ซึ่งสวนทางกับอาจารย์หมอท่านนั้นที่มองเข้ามาอย่างมีอคติ และขยันเพียงแต่สร้างความหวาดกลัว สนองความอยากดังของท่าน
ถ้าหากยังเชื่ออาจารย์หมอท่านนั้น เราจะมองเห็นแต่ความล้มเหลวของระบบสาธารณสุข ระบบสุขภาพไทย และถึงวันนี้ เราคงยังปิดบ้านปิด ปิดเมือง หรือล๊อคดาวน์ กันอยู่เลย ตามที่ท่านเคยแนะนำ
พวกเราชาวสาธารณสุข คนที่ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเท ขอเถอะครับ อย่ามาทำร้ายกันเลย พี่น้องชาวสาธารณสุขทำงานหนักตลอดเกือบ 3 ปี เราเหนื่อยมากๆ แลกมาด้วยทุกสิ่ง ของเรา
คนที่ดีแต่พูดๆ วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ทำอะไรสบายมาก ครับ
พวก NATO คือ No Action Talk Only
อาจารย์หมอลองทบทวนสิ่งที่พูดซิครับ เวลาพูดผิด ท่านรับผิดชอบคำพูดไหม
แต่ผลกระทบ ความเข้าใจผิด ความหวาดระแวง ความกลัว ของพี่น้องประชาชน ของสังคม เกิดขึ้นไปแล้ว
อาจารย์รู้ไหม พี่น้องประชาชนลำบากแค่ไหน ครับ
อาจารย์รู้ไหม ผลกระทบทุกครั้งที่อาจารย์หมอออกมาพูด
ท่านบอกว่า ท่านเป็นนักวิชาการ พูดด้วยความปรารถนาดี
ผมขอถามกลับว่า “อยากดัง” หรือ “หิวแสง” มากกว่าหรือเปล่า ครับ
ถ้าปรารถนาดี ไม่ต้องออกสื่อ ออกโซเชียล หรอกครับ มาช่วยพวกผมทำงานดีกว่า ครับ
ขอเชิญเวที “กระทรวงสาธารณสุข” ที่ประชุมทุกเช้า หรือส่งข้อมูลข้อแนะนำเข้ามา ไม่ต้องออกสื่อหรอกครับ เราเปิดรับฟังอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ทุกท่าน
กรุณาทำอย่างอาจารย์ที่ดีๆ ที่ท่านมาให้ข้อแนะนำโดยสุจริตใจ เถอะครับ
ขอแนะนำด้วยความจริงใจ เลิกพฤติกรรมเช่นนี้ได้แล้ว คนดี คนมีปัญญา คนที่เป็นอาจารย์หมอที่ดี เขาไม่ทำกันครับ !
#อย่าตัดสินกันด้วยอคติ
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ
หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=397841272526059&id=100069005689508
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงระบบการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของไทย ว่าอาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จนน่าจะนำมาสู่การตอบโต้ของนายแพทย์รุ่งเรือง ตามที่เป็นข่าว