“ทราบแล้ว…เปลี่ยน”
ในแวดวงการสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคงได้ยินกันประจำ
แต่ใครจะไปคิดว่าทราบแล้วเปลี่ยน พอเอามาปรับมุมมองแล้วมันจะทำให้เข้าใจในอีกด้านหนึ่ง
ต้องยอมรับเลยว่าทีมทำงานเกี่ยวกับครีเอชั่นสมัยนี้ มีความคิดสร้างสรรค์ดีสุด ๆ
เพราะทราบแล้วเปลี่ยน ในบริบทนี้ มันไม่ใช่เปลี่ยนให้อีกคนพูด
แต่ดันเอามาใช้เป็นคำถาม ?
ว่าเมื่อทราบแล้ว จะเปลี่ยนไหม
…จากปัญหาด้านพลังงาน การประหยัดพลังงานมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันเสมอ
ไฟฟ้าแพง น้ำมันแพง ทุกคนก็ต้องออกมาพูดกันตลอดว่า “ก็ประหยัดพลังงานสิ”
และส่วนใหญ่ก็จะยกแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบาย พร้อมลงท้ายว่า “ช่วยชาติ”
ผ่านมาไม่รู้กี่ปีก็ต้องช่วยชาติ มันเลยเกิดคำถามว่า
“ช่วยชาติแล้วลำบากตัวเอง จะยังอยากช่วยอยู่หรือไม่”
แต่กับแคมเปญรณรงค์ให้ประหยัดพลังงานครั้งนี้ที่สร้างสรรค์จากทีมงานของ “Salmon House”
ที่ผลิตสื่อรณรงค์เรื่องประหยัดพลังงานตัวใหม่ขึ้นมา
โดยนำแนวคิดแบบเก่ามาวิเคราะห์ใหม่ ภายใต้เงื่อนไขหากเป็นสื่อสารแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป
ซึ่งหลังจากดูวิดีโอโฆษณาตัวนี้แล้วก็รู้สึกขำออกมาเหมือนกันนะ
แต่เป็นความขำที่สร้างความเข้าใจ
ตัวโฆษณาใช้มุกตลกหน้าตายแบบหนังสมัยใหม่
แทรกประสบการณ์ร่วมจากการยกตัวอย่างของหนัง เป็นแนวตลกๆ ที่ทำให้แอบยิ้มได้
ผ่านการเล่าเรื่องจาก “ผี” ในบ้าน
ที่คอยตั้งคำถามและแทรกความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของการประหยัดพลังงาน
“ผีและแม่ย่านาง” ซึ่งเป็นเหลี่ยมที่ค่อนข้างใกล้ตัวมากๆ แล้วก็ไม่เคยมีใครพูดเหลี่ยมนี้มาก่อน
การหยิบเรื่องนี้มาใช้ในการสื่อสาร
มันเลยมองว่าเป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยเข้าใจง่ายจริงๆ
แคมเปญ “ทราบแล้วเปลี่ยน” เป็นแคมเปญที่ต้องการรณรงค์ให้ทุกคนรู้จักใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า
และคุ้มค่าให้มากที่สุด โดยมีกลยุทธ์ 4 ป. 3 ช. ให้ทุกคนนำกลับไปปรับใช้กัน
“ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก เปลี่ยนเป็นเบอร์ 5”
“เช็กรถ ชัวร์เส้นทาง ใช้รถสาธารณะ”
“เพื่อตัวเอง” ไม่ใช่เพื่อใคร…
น่าจะเป็นคีย์หลักของการสื่อสารครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ถ้าใครทำ คนนั้นก็ได้”
แถมมีการหยิบมุกของการแก่งแย้งกันใช้โค้ดช้อปปิ้งออนไลน์
มาสะท้อนมุมมองของส่วนลดพลังงานที่พอฟังแล้วก็ “เออ จริงว่ะ”
ด้าน พิสุทธิ์ เพียรมนกุล คณะกรรมการจัดการทำยุทธศาสตร์ชาติ และเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน
ก็ออกมาบอกว่า “ก็ไม่ได้คาดหวังมากนะ”
“แค่ประมาณ 5 – 10% ของพฤติกรรมที่คุณเปลี่ยน แต่เชื่อไหมว่า การลดลงแค่ประมาณ 5 – 10% เซฟเงินประเทศได้เป็นหลายแสนล้านนะ”
ก็เลยยิ่งเข้าใจไปใหญ่เลยว่าพอทำวิดีโอรณรงค์วิธีนี้ออกมา คนก็จะเอ๊ะได้ง่ายขึ้น
ว่าจริงๆ มันไม่ยาก ประหยัดพลังงานมันก็แค่นี้เอง
แต่ที่ผ่านมา มันกลับมองข้ามไปเพราะความเคยชิน หรือความเชื่อที่เคยมีสะสมมา
ซึ่งจริงๆ แล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอนี้
เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้จริง นำไปสู่การปรับเปลี่ยน
เหมือนจุดประสงค์ของแคมเปญนี้ คือ “เมื่อทราบแล้ว จะต้องเปลี่ยน” ด้วย
เพื่ออนาคตด้านพลังงานที่ดีขึ้น