23 สิงหาคม 2565-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐและอดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. จอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง บทพิสูจน์นายกรัฐมนตรี 8 ปี กับการปฏิรูปการเมืองไทย ว่า
เป็นแถลงการณ์ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด มีการให้เหตุผลทางกฎหมายที่คลาดเคลื่อน น่าสงสัยว่าเป็นแถลงการณ์ที่มีเจตนาต้องการชี้นำสังคมและก้าวล่วงอำนาจวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
ดังนั้น หากจะให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่พรรคเพื่อไทยนำมากล่าวอ้างนั้น พรรคเพื่อไทยควรหยุดกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกสภาที่ต้องการปั่นป่วนสังคม ขอให้ยึดหลักการและปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและหยุดการกระทำที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่ประเทศชาติ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตั้งแต่ย่อหน้าแรกที่ขึ้นต้นในแถลงการณ์ที่กล่าวว่า “การที่มีการจำกัดระยะเวลาดำรงตำแหน่งของผู้นำประเทศโดยให้เหตุผลว่าคนที่มีอำนาจเด็ดขาดเป็นระยะเวลายาวนานเกินไปเท่ากับปล่อยให้ผู้ใช้อำนาจสามารถทุจริตโดยไม่มีข้อจำกัด” นั้นไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง
เพราะผู้มีอำนาจจะทุจริตหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ยกตัวอย่างที่พรรคเพื่อไทยรู้จักดีคือ อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างนายทักษิณ ดำรงตำแหน่ง 5 ปี 222 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งเพียง 2 ปี 275 วัน ก็มีคำพิพากษาศาลเกี่ยวข้องการทุจริตบ้านเมืองเพียบแล้ว
การให้ข้อมูลและเหตุผลทางกฎหมายในแถลงการณ์ก็ไม่ครบถ้วน ที่สรุปว่าพล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 ส.ค. 2565 ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญโดยเริ่มนับการเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2557 นั้นไม่ถูกต้อง ดังนี้
1. ประกาศแต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทรฺโอชา นายกรัฐมนตรี ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 25 ส.ค. 2557 นั้น ระบุชัดเจนว่า “อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557”
2. ประกาศแต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทรฺโอชา นายกรัฐมนตรี ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 11 มิ.ย. 2562 นั้น ระบุชัดเจนว่า “แต่งตั้ง…ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (2560)”
ดังนั้นหากจะกล่าวอ้างถึงการจำกัดระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคท้ายก็ควรต้องอ้างอิงที่มาของการเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ตามมาตรา 158 วรรค 2 ซึ่งเป็นที่มีการประกาศแต่งตั้งตามมาตรา 158 ในวันที่ 11 มิ.ย. 2562 ให้ครบถ้วนด้วย
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ส่วนการกล่าวอ้างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ไม่มีประกาศแต่งตั้งเผยแพร่ฝนราชกิจจานุเบกษานั้น เพราะเป็นไปตามบทบัญญัติที่ว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที”
ซึ่งมาตรานี้บัญญัติขึ้นเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหารเป็นไปโดยต่อเนื่องเท่านั้น จึงไม่ใช่การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 ที่จะเอาการจำกัดระยะเวลา 8 ปี ตามมาตรา 158 วรรคท้ายมาปรับใช้ได้
“พรรคเพื่อไทยที่เป็นถึงพรรคแกนนำฝ่ายค้านควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพ มากกว่าการออกแถลงการณ์ที่อาจก้าวล่วงอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและมีเจตนาบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศชาติ”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน ทิ้งท้ายว่า พรรคเพื่อไทยควรเคารพและรอฟัง ศาล รธน. วินิจฉัย ไม่ใช่การที่พรรคเพื่อไทยต้องการคะแนนเสียงของประชาชนโดยการชี้นำก้าวล่วงอำนาจศาล และทำให้สังคมสับสน ดังนั้นในห้วงเวลานี้ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยควรทำ คือช่วยกันประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล ให้ถึงพี่น้องประชาชน เช่น โครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี อย่างตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนนั่นเอง
