สันต์ สะตอแมน
วันนี้-19พ.ค. ตั้งแต่ 4 โมงเย็น!
ผมเห็นจะต้องเปิดโทรทัศน์ช่อง 7 HD ดูรายการ “ถกไม่เถียง” เสียหน่อยแล้วล่ะ ไม่เฉพาะความพิเศษกับการเปิดเวทีให้ผู้สมัครทั้ง 31 คนได้แสดงวิสัยทัศน์..
หากแต่ ผู้ดำเนินรายการ “คุณทิน โชคกมลกิจ” ยังได้ติดต่อพระเอกฮอลลีวู้ดคนดัง อย่าง “รัสเซล โครว์” ที่เคยมาเยือนเมืองไทยช่วงที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Greatest Beer Run Ever..
ให้ร่วมตั้งคำถามในมุมของนักท่องเที่ยวที่เขาอยากรู้ด้วยแน่ะ ซึ่งผมจะรอฟังว่านายรัสเซล โครว์แกจะถามเรื่องอะไร (คงไม่ใช่สายไฟหรอกนะ) และผู้สมัครจะตอบกันอย่างไร?
เผื่อ..อาจมีคนที่ตอบได้เข้าหู-โดนใจ จะได้ตัดสินใจกาเบอร์!
อย่างไรเสียก็ห่วงภาพลักษณ์ผู้สมัคร (บางคน) อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะนายวิโรจน์ ช่วยกรุณาตอบด้วยความสุภาพ ทั้งวาจาและกริยา ไม่ต้องใส่อารมณ์ แอ็คติ้งแบบตาถลนเหลือก..
ไม่ว่าคำถามนั้นจะเป็นที่พอใจหรือไม่พอใจ ก็ให้อธิบายความกันอย่างอารยชน!
อ้อ..นอกจากรัสเซล โครว์แล้ว คนดังเมืองไทยอย่าง คุณฮาย อาภาพร คุณบัวขาว คุณไบรอัน ตัน ก็ได้ร่วมตั้งคำถามด้วยเช่นกัน
ว่าแต่..คุณไกรเดช บุนนาค เพื่อนรักผม หมายเลข 19 ที่ศาลปกครองสั่งให้คุ้มครองให้รับเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จะได้รับเกียรติเชิญหรือไม่ไม่ทราบ ถ้ายังจะพอจัดเก้าอี้ลงได้..
ผมก็อยากเห็นเพื่อนได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในรายการพิเศษ “22 พฤษภา ชี้ชะตา กรุงเทพฯ กับถกไม่เถียง” ครั้งนี้ด้วย เพื่อความเป็นธรรม!
ครับ..ส่วนคนนี้ไม่ได้เป็นเพื่อน ไม่สนิทสนมคุ้นชิน แต่เท่าที่สดับตรับฟังกระแสดราม่าที่ชาวเน็ตโวย-แซะ หลังไม่สามารถพา “หมอปลา” ไปออกรายการ “โหนกระแส”
เพื่อเคลียร์กรณีหลวงปู่แสงให้เกิดความกระจ่างแล้ว ก็ให้รู้สึกเห็นอก-เห็นใจคุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย อยู่ไม่น้อย!
ฉะนั้น ที่พิธีกรหนุ่มระบาย.. “ถ้าวันนี้ผมเป็นผู้วิเศษ ผมก็อยากจะดีดนิ้วแล้วก็เนรมิตในสิ่งที่หลายๆ คนต้องการ แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถทำแบบนั้นให้กับทุกคนได้
ปัจจุบันนี้ทุกเรื่องมันถูกมองเป็น 2 มุมเสมอ และแน่นอนเมื่อเราอยู่ตรงกลาง ต่างฝ่ายต่างก็อยากให้เราทำแบบที่เขาต้องการ มันเกิดความคาดหวัง แต่ผมไม่เคยมองมุมลบนะ ผมมอมมุมบวกเสมอ..
ถามว่าท้อไหม ไม่ได้ท้อนะ เพราะเราเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้แล้ว แต่เหนื่อย ไม่ได้เหนื่อยกับการถูกด่า เราไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว เรารับฟังได้ เราเข้าใจความรู้สึกของทุกคน
ผมว่าผมแข็งแรงพอที่จะต้อนรับคำด่าของคน แต่เราเหนื่อยทางร่างกายมากกว่า และพอเราไม่สามารถทำตามความคาดหวังของหลายๆ คนได้ในบางเรื่อง เรายิ่งเหนื่อยเข้าไปอีก เพราะเราพยายามแล้ว
ส่วนเรื่องที่บอกว่าอยากเลิกทำโหนกระแส เรายังไม่คิดจะเลิก..ก็คงยังต้องทำอยู่ เราอยากทำงานตรงนี้ไปเรื่อยๆ แต่วันหนึ่งก็คงต้องหยุดเมื่อถึงเวลา ตอนนี้ไม่ถือว่าเราสูญเสียความเป็นตัวตน
แต่เราแค่พยายามหาวิธีปรับตัว จากคำพูดหรือคำวิจารณ์ของคนอื่นๆ และไม่ทำอีกในครั้งหน้า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครดี 100 อาจจะพลาดพลั้งไปบ้าง เผลอไปบ้าง
เพียงแต่เราต้องกลับมาให้เร็วที่สุด เรามองว่าทุกคนมีมุมมองของตัวเอง ไม่ผิดถ้าเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็น
เราเลือกที่จะมาอยู่จุดนี้แล้ว ก็ต้องรับฟัง ถ้าเราผิดก็ขอโทษ และปรับปรุง เชื่อว่าสังคมก็พร้อมที่จะให้อภัย”
ก็..อยากให้เข้าใจ-ให้อภัยในความพลาดพลั้ง ส่วนผมอ่านแล้วก็ให้นึกชื่นชมในไหวพริบ-ปฏิภาณ สติปัญญาของคุณหนุ่ม ที่รู้จักเลี่ยง-หลบ ออดอ้อน-ถ่อมตน เอาตัวรอดท่ามกลางกระแสดราม่าได้
อย่างงี้..โหนต่อไปเถอะ เหนื่อยหน่อย แต่คุ้ม!