ก็ว่าแล้ว…..
ลองพี่เลี้ยง “ออกอาการ” ซะขนาดนั้น
เท่ากับกลิ่นแพ้โชยมาก่อนเปิดหีบ!
แล้วผลเป็นไงล่ะ……?
ปิดหีบปุ๊บ “เพื่อไทย” ของสมพงษ์และสุดารัตน์ก็แหกโค้งปั๊บ “สมศักดิ์ คุณเงิน” เบอร์ ๒ พรรค “พลังประชารัฐ”
“เข้าป้าย” ขึ้นแท่นเป็น สส.เขต ๗ ขอนแก่น เรียบร้อยโรงเรียนลุงไปแล้ว!
“เพื่อไทย” แพ้เลือกตั้งให้ “พลังประชารัฐ” ในอีสาน
นั่นบ่งบอกถึงอะไร?
ถ้าถาม “แปลกใจ” มั้ย?
สำหรับผม “ไม่แปลก” เหมือนกับ “ไม่แปลก” ที่เห็น “ธนาธร” ปลุกเร้า “ลงถนน” จนเกรงว่าความเครียดจะลงหำ
ก็คงจนตรอกเต็มที และคิดว่า…….
ดิ้นก็ตาย ไม่ดิ้นก็ตาย ฉะนั้น ดิ้นดีกว่า เผื่อฟลุ๊ค!?
แต่ดูแล้วปฏิบัติการจงใจ “หยามกฎหมาย” ครั้งแล้ว-ครั้งเล่าของทอนกับคณะ
บวกอหังการท้าหมิ่นทั้ง ๑๐ ทิศ ด้วยวางตำแหน่งตัวเองเป็น “พ่อทุกสถาบัน”
“ฟลุ๊คยาก” นะทอน!
ที่ตำรวจเรียกไปรับทราบข้อหาคดี “แฟลชม็อบ” ๒๗ ธันวา.นั่นสิวๆ
แต่ที่เป็นสิวหัวช้าง จน “อนาคตใหม่” ต้องโพสต์เฟซ ป่าวร้องไปยังบรรดาอสุราฤทธิ์เป็นการด่วนเมื่อวาน (๒๒ ธค.๖๒)
นั่นแสดงว่า “เริ่มหวั่นไหว” จนอาการออก
จะลอกจากเพจอนาคตใหม่มาให้อ่าน ดังนี้
“มาแรงแซงทางโค้งอีกคดี ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมให้เปิดไต่สวน-เตรียมนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี “อิลลูมินาติ” ยุบพรรคอนค.
โดยคดีนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องของ ณฐพร โตประยูร ได้ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตัดสิทธิ์และยุบพรรคอนาคตใหม่
เนื่องจากเป็นปฏิปักษ์-ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่เรียกกันว่า “คดีอิลลูมินาติ”
โดยล่าสุด 19 ธันวาคม 2562 ศาลมีคำสั่งไม่รับคำร้องของพรรคอนค.ผู้ถูกร้อง ที่ขอให้เปิดไต่สวนพยาน
และหลังจากนี้ จะเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย คือศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวันอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว ร่วมจับตาการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
บางท่านคงงง………..
ว่ามันเป็นคดีอะไร หนักหนาถึงขั้นอนาคตใหม่ต้องตีเกราะเคาะไม้ระดมพลขนาดนี้เชียวหรือ?
ตอบแทนก็ได้ว่า คดีนี้ ค่อนข้าง “หนัก” และ “หนา” เอาการ!
ลำดับความกันหน่อย……
คือเมื่อเดือนกรกฏา.๖๒ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรมนูญ ขอให้ศาลฯวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙
ว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล และกรรมการบริหารพรรค
เข้าข่ายใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขหรือไม่?
ศาลฯ พิจารณาคำร้องแล้ว มีมติ “เสียงข้างมาก” ๕ ต่อ ๔ ให้รับคำร้องไว้พิจารณา
พร้อมแจ้งให้อนาคตใหม่ ธนาธร,ปิยบุตร และกก.บห.พรรค ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน ๑๕ วัน
๒๒ พย.๖๒ อนาคตใหม่ ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๙
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ บอกว่า………..
“บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง”
ข้อเท็จจริง คือ คดีนี้ ก่อนถึงศาลรัฐธรรมนูญ
นายณฐพรใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญไปร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคสองก่อนแล้ว
แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน ๑๕ วัน
นายณฐพรจึงไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ตามมาตรา ๔๙ วรรคสาม
คำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มีทั้งสิ้น ๓ ข้อ
๑.ผู้ถูกร้องที่ ๑ (พรรคอนาคตใหม่) กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคแรก ประกอบพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๑๔ (๑)
๒.ผู้ถูกร้องทั้ง ๔ กระทำการขัดขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ ประกอบพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๙๒ (๑)(๒) และ
๓.ยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิผู้ถูกร้องที่ ๒-๔ (ธนาธร-ปิยบุตร-กก.บห.) ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๙๒(๑)และ(๒)
และเมื่อ ๑๙ ธค.คือ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี่เอง ศาลฯมีหนังสือตอบพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร,ปิยบุตร และกก.บห.พรรค ว่า
ตามที่เขาทั้ง ๔ ได้ยื่นคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีของผู้ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว
และผู้ถูกร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนพยานและคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ฉบับลงวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ นั้น
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่ส่วน
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง
จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอทั้งสองฉบับดังกล่าว
ครับ…..
จึงตกใจไข่หดกันไปทั้งพรรค เพราะศาลฯบอกว่า
“คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่ส่วน”
หมายความว่า……..
พรรคอนาคตใหม่ นับ ๕..๔..๓..๒..๑ แอคชั่น ไว้ได้เลย!
มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง ของพรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มีว่า……
“หากศาลเห็นว่าคดีใดเป็นปัญหาข้อกฎหมาย หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลอาจประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยโดยไม่ทําการไต่สวนหรือยุติการไต่สวนก็ได้”
นั่นหมายความว่า ถ้าศาลพิจารณาวินิจฉัยแล้ว สมมุติว่าผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ และตามพรป.พรรคการเมือง มาตรา ๑๔(๑)
ก็จะเจอพรป.พรรคการเมือง มาตรา ๙๒(๑)(๒) พรรคอนาคตใหม่ ธนาธร-ปิยบุตร-กก.บห.พรรค รวมทั้งช่อ
“ปิดฉาก” ไปเลย!
พรป.พรรคการเมือง มาตรา ๙๒(๑)(๒)บอกว่า….
เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(๑)กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(๒)กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
…………………………
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทําการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง
และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
เอาหละ………..
รู้เป็นแนวทางไว้พอหอมปาก-หอมคอ ส่วนหวยจะออกอย่างไร ก็ตามดูไปเรื่อยๆ ละกัน
ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจ ที่เห็น ทั้งทอน ทั้งอองตวน ทั้งช่อ เป็นปลาดุกดิ้นอยู่ขณะนี้
ก่อนลงหม้อ……..
ขอยักเงี่ยงซักที-สองที ก็เท่านี้แหละ!