เปลว สีเงิน
ทำไปทำมา….
สส.โรมจะกลายเป็นแมงมุมที่ตายด้วยใยที่ตัวเองชักซะก็ไม่รู้!
ที่ชูเอกสารร่อนๆ ในสภา……
“นี่ไงเอกสารจริง” ใบสมัคร “สนง.นรป.๙๐๔” ที่พล.ต.ต.ปวีณใช้ยื่นเป็นหลักฐานข้อลี้ภัย นั่นน่ะ
ถูก “ดร.ศุภณัฐ อภิญญาน” จับพิรุธด้านเอกสารที่โชว์ว่า “น่าจะปลอมขึ้น” หวังใส่ร้ายสถาบัน
แถม “ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” ท้าให้สส.โรมออกโทรทัศน์ดีเบตกับเขาเรื่องนี้
ถ้ากลัว ให้รุนหลัง-ดันตูดลูกพี่ “ธนาธร-ปิยบุตร” มาด้วย ๓ ต่อ ๑ ไปเลย
เท่านั้นแหละ……
ที่ปากกล้าในสภา เจอท้าถกกันจะๆ ในโทรทัศน์ ก็ออกอาการขาสั่น “เห็นชัด เริ่มโยนลูกให้ไปถามคนโน้น-คนนี้เอาเอง!
ดร.อานนท์ขู่หรือเอาจริงก็ไม่รู้นะ เห็นบอกว่างี้…..
“ก่อนจะถูกดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อหมิ่นเบื้องสูง
อันเป็นส่วนหนึ่งของคดีกบฎล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ลงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มาแล้ว
“คำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์” ให้หยุดการกระทำดังกล่าวในทันที และผมก็ได้เห็นหลักฐานว่า โรมก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายการกระทำผิดนั้น แล้วนี่โรมก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอีก
ผมก็ขอเชิญ รังสิมันต์ โรม มาดีเบตในประเด็นเอกสารปลอมนี้ ออกทางสถานีโทรทัศน์ก่อนให้สาธารณชนประจักษ์ชัดเจน ขอจงมีความกล้าหาญด้วย ขอขอบพระคุณ”
เอาหละ….
เพื่อให้เห็นตามลำดับฉาก จะนำมาฉายให้ดู คือหลังจากถูกดร.ศุภณัฐ “จับพิรุธ” เอกสาร “สนง.นรป.๙๐๔” ว่าปลอมแล้ว สส.โรม ออกมายืนยันเมื่อ ๒๒ กพ.ว่า
ตามที่มีข้อกล่าวหาต่อข้อมูลการอภิปรายทั่วไปของผมเมื่อวันที่ ๑๘ กพ.๖๕ เรื่องคดีการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา และชะตากรรมของ “พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์” โดยมุ่งประเด็นไปยังเอกสารใบสมัคร “สนง.นรป.๙๐๔” ที่ถูกส่งมาให้กับคุณปวีณว่าเป็นเอกสารปลอม
โดยอ้างเหตุผลว่า ตัวอักษรย่อของหน่วยงาน “สนง.นรป.๙๐๔” ที่ปรากฏในเอกสารนั้น เป็นตัวอักษรย่อที่ผิด
ตัวอักษรย่อที่ถูกต้องคือ “สง.นรป.” ซึ่งเป็นตัวอักษรย่อของ “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” นั้น
ผมขอชี้แจงดังนี้
1.ผมได้รับการยืนยันจากคุณปวีณ ว่าเอกสารดังกล่าวที่ระบุชื่อหน่วยงาน “สนง.นรป.๙๐๔” นั้น เป็นเอกสารที่ถูกส่งมาให้กับคุณปวีณจริง
2.เพื่อยืนยันสิ่งนี้ ภาพที่ผมแนบมาด้วยคือเอกสารเดียวกันที่สแกนแบบเต็มหน้า ไม่ตกขอบกระดาษเหมือนฉบับที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้
จะเห็นได้ที่บริเวณท้ายกระดาษ มีระบุชื่อต้นทางที่ส่งโทรสาร (fax) มาว่า “FROM ROYAL POLICE AMPORN”
3.ผมได้ทราบข้อมูลจากบุคคลผู้มีประสบการณ์ในวงการตำรวจมายาวนานด้วยว่าโดยปกตินายตำรวจที่ถูกแต่งตั้งเข้ามาอยู่ในหน่วยงานจำพวกที่มีตัวอักษรย่อว่า “นรป.” นี้ มักถูกมอบหมายให้ไปประจำการอยู่ ณ เขตพระราชฐานต่างๆ
นี่จึงอาจเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดเอกสารดังกล่าวที่ถูกส่งมายังคุณปวีณจึงมีเลข “๙๐๔” ซึ่งอาจเป็นการระบุถึงสถานที่ที่ต้องไปประจำการ หรือบุคคลที่ต้องไปปฏิบัติงานรับใช้ กำกับอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ยังมีข้อที่น่าสงสัยด้วยว่า เอกสารที่ระบุรหัสแบบนี้อาจไม่ได้ถูกส่งมาจากหน่วยงานกลางอย่าง “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” หรือ “สง.นรป.” ที่ผู้กล่าวหาอ้างถึง
4.อันที่จริง ผมมีข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อ. “ส.” หรือ พล.อ. “จ.” แต่คิดว่าทางฝ่ายผู้ที่กล่าวหาผมคงสามารถหาช่องทางติดต่อพวกเขาเหล่านั้นได้ไม่ยาก
ดังนั้น หากยังสงสัยว่าเพราะเหตุใดเอกสารที่ส่งมาจึงพิมพ์ชื่อย่อหน่วยงานว่า “สนง.นรป.๙๐๔” ไม่ใช่ “สง.นรป.” ก็ขอให้ผู้กล่าวหาไปถามหาสาเหตุกับพล.อ.อ. “ส.” หรือ พล.อ. “จ.” ด้วยตัวเอง
5. สุดท้ายนี้ เอกสารดังกล่าว เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ผมได้รับจากคุณปวีณ เพื่อประกอบกับคำให้การที่ได้ให้ไว้ตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับการยอมรับจากทางการออสเตรเลียให้สามารถขอสถานะผู้ลี้ภัยได้
และที่สำคัญ คือคุณปวีณยังคงมีความหวังที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศไทยเสมอ
ซึ่งหากคุณปวีณได้ปลอมแปลงเอกสารดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมมีแต่จะสร้างอุปสรรคไม่ให้ตัวเองสามารถเดินทางกลับประเทศไทย ได้โดยไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
เพราะฉะนั้น คุณปวีณจึงไม่มีมูลเหตุจูงใจที่จะต้องปลอมแปลงเอกสารที่มีรายละเอียดมากมายและมีความเชื่อมโยงต่อบรรดาข้าราชบริพารแต่อย่างใดเลย หากนั่นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง
เอาหละ…..
เอาไว้ไปยืนยันความถูกต้องของเอกสารที่ใช้อภิปรายเอาเองตอนขึ้นศาลละกัน ฟังที่ “ดร.ศุภณัฐ” ตอบกลับบ้าง
………………………
“ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ”
ผมขออนุญาตตอบนาย Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม และถามกลับไปว่า
นายรังสิมันต์ โรม กำลังโกหกแหกตาประชาชนด้วย “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” อยู่หรือไม่?
1.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของ พล.ต.ต.ปวีณไม่ได้มีการระบุถึง “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” แต่อย่างใด
2.ใครๆ ก็สามารถตั้งหัวแฟกซ์ของเครื่องแฟกซ์ต้นทางเป็น FROM ROYAL POLICE AMPORN.ได้ จะตั้งว่าส่งมาจาก THE WHITE HOUSE ก็ยังได้
3.สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (สง.นรป.) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกยุบไปแล้ว เดิมมีที่ตั้งอยู่ที่วังสวนจิตรลดา โดยในเอกสารราชการตำรวจทั่วไป “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” ใช้ตัวอักษรย่อ “สง.นรป.” ไม่ใช่ “สนง.นรป.”
4.เรื่องใบสมัครที่ถูกส่งมาทางแฟกซ์ นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก
แต่ทำไม พล.ต.ต.ปวีณ ถึงไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย?
5.คลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda) ของนายรังสิมันต์ โรม เล่าว่า “…มีสายโทรศัพท์มาเสนอความช่วยเหลือพร้อมกับมีการส่งแฟกซ์ใบสมัคร สนง.นรป.๙๐๔ มาให้เขากรอกข้อมูลและถูกเรียกเข้าไปรับข้อเสนอ…”
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว (ไม่ได้ระบุถึงการส่งแฟกซ์ใบสมัคร สนง.นรป.๙๐๔) เกิดขึ้นในวันที่ 10 พ.ย. 2558 ตามเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของพล.ต.ต.ปวีณใน ข้อ.48
แต่ข้อมูลการส่งแฟกซ์บนใบสมัครดังกล่าวกลับระบุเป็นวันที่ 11 พ.ย. 2558 ซึ่งขัดแย้งกันเองอย่างชัดเจน
6.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย ข้อ.50 ระบุ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เข้าพบทั้ง พล.อ.อ. “ส” กับ พล.ต.อ.”จ” ในวันที่ 10 พ.ย. 2558
7.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย ข้อ.51 ระบุ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เข้าพบ พล.อ.อ.”ส” อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 11 พ.ย. 2558
8.ในเมื่อ พล.ต.ต.ปวีณได้เข้าพบพล.อ.อ. “ส” ในวันที่ 11 พ.ย. 2558 อีกครั้ง แล้วทำไม พล.อ.อ.”ส” ถึงต้องส่งแฟกซ์ใบสมัครดังกล่าวไปให้กับพล.ต.ต.ปวีณ ที่เบอร์ 029382574 เวลา 13.24 น. ในวันเดียวกัน?
ตลอดจนคลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของนายรังสิมันต์ โรม เอง ก็ได้เล่าไว้เองว่า “มีการโทรศัพท์และส่งแฟกซ์ใบสมัครมาให้” ก่อนมีการเข้าพบ มิใช่หรือ?
9.เอกสารที่ถูกนำมาอ้างว่าเป็น “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” น่าจะถูกทำขึ้นในภายหลัง
เพราะไม่ได้ถูกระบุไว้ในเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของพล.ต.ต.ปวีณเอง ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก
อีกทั้งวันที่ 10-11 พ.ย. 2558 พล.ต.ต.ปวีณ มีโอกาสได้เข้าพบ พล.อ.อ. “ส” ด้วยตัวเอง แล้วจะส่งทางแฟกซ์เพื่ออะไร?
10.นายรังสิมันต์ โรม จงใจแอบอ้างเอกสารใบสมัครดังกล่าว ทั้งๆที่ขัดแย้งกับเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของพล.ต.ต.ปวีณเสียเอง
เพื่อกุเรื่องเชื่อมโยงในการบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช่หรือไม่?
#ปลอมไม่เนียนไปเรียนมาใหม่
ดร.ศุภณัฐ
22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ
……………………………..
มีหลายคนสังสัย “ดร.ศุภณัฐคือใคร?” เพราะนอกจากคุณเอ็ดดี้ “อัษฎางค์ ยมนาค” ที่อยู่ออสเตรเลียแล้ว
เรื่องบ้านเมืองและสถาบันถูกถูกใส่ร้าย-โจมตีทุกวันนี้ จะเห็น ๒ ท่านนี้ทำหน้าที่ปกป้องด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องหนักแน่น และชัดเจน ตลอดมา
คุณอัษฎางค์ ก็พอทราบในสายตระกูล “ยมนาค” ส่วนดร.ศุภณัฐ เท่าที่ทราบ เป็นนักวิจัยและนักวิชาการรุ่นใหม่
จบเอกวิศวกรรมเครื่องกลและวิศวกรรมการบินและอวกาศ Nanyang Technological University (NTU) ประเทศสิงคโปร์
ปัจจุบัน เป็นนักวิจัย สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐ
ดร.ศุภณัฐ เคยโพสต์เฟซๆไว้นานแล้ว ดังนี้….
“ตอนเรียนธรรมศาสตร์ พอดีว่าผมไม่ได้ตกเป็นทาสทางความคิดของใคร ไม่ได้ถูกหลอกใช้ทางความคิดโดยอาจมที่บิดเบือนล้างสมองนักศึกษาให้ไปทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเอง
ผมจึงเรียนจบด้วยเกรดสูงสุดในภาควิชา ได้รับพระราชทาน “รางวัลเรียนดีทุนภูมิพล” หรือ “รางวัลเข็มภูมิพล”
ส่วนใครทำตัวเอง เอาตัวเองไปติดคุกติดตะราง ในขณะที่แม้แต่อาจมซึ่งเป็นเจ้าของความคิดชั่วๆ ยังไม่ยอมลงมือกระทำเองเลย
ก็ต้องลองพิจารณาตัวเองและคิดทบทวนดูแล้วแหละว่า อาจมเหล่านั้น เห็นนักศึกษาเป็นอะไรกันแน่?
ครับ….การศึกษาบอกตัวตน “การคิด-การทำ” บอกคุณค่าของคน
“ทุนภูมิพล” มิร้างคนกตัญญู ช่างน่าชื่นใจ