เปลว สีเงิน
อืมมม…
มนุษย์เรานี่ก็แปลก บางคน เป็น “แม้ว” อยู่ดีๆ ก็ไม่ชอบ
ชอบเป็นหมา หรือไม่ก็ “คนเลี้ยงหมา”
มีความสุขอยู่กับการพูดจาประสาหมาๆ ให้พวกหมาจนตรอกที่นั่งเฝ้าหน้า “คลับเฮาส์” ฟัง
ทำไม มนุษย์ถึงไม่ชอบ “เป็นตัวของตัวเอง”?
นอกจากไม่ชอบแล้ว ยังเที่ยวยัดเยียดให้คนโน้น-คนนี้ “เป็นนั่น-เป็นนี่” ตามไปด้วยอีกตะหาก?
เช้าวาน (๑๗ กพ.๖๕) ฝนตกซุยซาย ผมก็อาการ “ไข้ซึมกระทือ” เหมือนทุกครั้ง
แต่อยากฟังฝ่ายค้านเขา “ด่าฟรี” รัฐบาล แบบตีหัวเข้าบ้านส่งท้ายสมัยประชุม ก็เปิดโทรทัศน์ดูหน่อย
ท่านผู้นำฝ่ายค้าน “ชลน่าน ศรีแก้ว” เพ้อพก ๗ ปี ด้วยประเด็นซ้ำซาก หาเนื้อหนังที่เป็นสาระไม่ได้ เลยงัวเงียง่วงหงับหลับไปใหม่
มาตื่นอีกที ตอนนายกฯ ประยุทธ์ชี้แจง ตอบโจทย์ได้ไวนะ เรียกว่าแจงได้ทุกดอก ตอกกลับได้ทุกเม็ด เป็นนักการเมืองเจนสนามแล้ว
สุ้มเสียง ลีลา จังหวะจะโคน มีพลัง แจ่มใส ชัดเจน เว้นแต่ตอนท้ายๆ พูดๆไป “ของขึ้น” บ้างเท่านั้น
อภิปรายของฝ่ายค้าน ๑๗-๑๘ กุมภา.เป็นการ “ซ้อมใหญ่” เพื่อไปถล่มนัด “ตัดเชือก” ตอนเปิดสมัยประชุมหน้าปลายพฤษภา.
ตอนนั้น อภิปรายแล้วมีโหวต “ไว้วางใจ” ด้วย
ไม่ต้องการพูด “ถ้ามีการหักหลังกัน” เกิดขึ้น เพียงสมมุติ ถ้าตอนนั้น นายกฯ ได้รับเสียงโหวต “ไว้วางใจ” ไม่ถึงครึ่ง มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
นอกจากต้อง “พ้นสภาพ” นายกฯ สถานเดียว!
ฝ่ายค้าน “แอบหวัง” ตรงนี้
เพราะตอนนี้ ฝ่ายรัฐบาล “เอกภาพ” ไม่ลงตัว นับตามหัว จะมากกว่าฝ่ายค้านไม่ถึงสิบหัวมั้ง?
นั่นแค่หัว ส่วนมือที่จะโหวต จะมีเท่าหัวหรือไม่ ตอนนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย บอกว่าชัวร์
แต่ตอนโหวต จากเหตุการณ์จริงแต่ละครั้ง โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ สส.ส่วนหนึ่ง “ตายตัว” ไม่โหวตให้เลย
หัวหน้าพรรค ก็พูดได้เพียง……
“เลี้ยงได้แต่ตัว ส่วนหัวใจเลี้ยงเขาไม่ได้” เป็นพระเอกประชาธิปไตยง่ายๆ แบบนี้
แต่ประเมินน้ำเสียงจากการตอบโต้ของนายกฯ ในสภาเมื่อวาน ดูเหมือนท่านไม่กังวลตรงนั้น แถมจะมีความมั่นใจด้วยซ้ำ
“ทหารเขาจะไม่รบ ในสถานการณ์ที่รู้ว่าแพ้”
น่าจะจริงแฮะ ไม่อย่างนั้น คงไม่แอ่นอกสู้อย่างนี้ เพราะทั้งฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายเจ้าของคอกคนเลี้ยงหมาหน้าคลับเฮาส์ ยังซูฮกยกให้นายกฯ อยู่ในสภาพ “เหนือกว่า-ประเสริฐกว่า” ทุกด้าน
ในหลักการ…….
คำพูดคนย่อมสะท้อนความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ก้นบึ้งหัวใจ วันก่อน “คนเลี้ยงหมา” ต้องการจะหยามเหยียดนายกฯ แต่ด้วยจิตสยบ คำหยามจึงกลายเป็นคำยกนายกฯ ขึ้นเหยียบตัวเองซะงั้น
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตัวเหมือนพญาหงส์ ไม่กล้าลงหนองเล็ก”
แน่ะ…
คนเลี้ยงหมาคอกเพื่อไทย ด้วยใจถูกบารมีนายกฯ สยบ ยังต้องยกนายกฯ เป็น “หงส์” ซึ่งสูงศักดิ์
เท่ากับยอมรับว่าเขาเป็นแค่ “เห้….” เท่านั้น ซึ่งต่ำสัตว์ ต่ำสกุลกว่าหงส์ลิบลับ!
ในขณะเดียวกัน กับแรมโบ้ “ดร.เสกสกล” คนเลี้ยงหมาเปรียบแรมโบ้เป็นแค่ “กิ้งกือ-ไส้เดือน” ที่เลื้อยไปตั้งพรรคใหม่เท่านั้น
นี่คือภาวะสะท้อน “จิตใต้สำนึก” ของคนเลี้ยงหมา ที่สยบยอมต่อบารมีกดทับต่างกัน จากคนที่ตัวเอง “ฝังลึก” ในริษยา
ก็ถูกต้องนะ…….
หงส์น่ะ ไม่ลงหนองเล็กหรอก ขึ้นชื่อว่าหงส์ มีแต่ร่อนลง “สระอโนดาด” เท่านั้น
ไม่เพียงคนเลี้ยงหมาเท่านั้น กระทั่งหมาในคอก ทำฮึ่มแฮ่ กระชากโซ่ปลอกคอเหย็งๆ ทำท่าจะกัดนายกฯ แต่ด้วยจิตสยบ ถึงปากแข็ง ก็ยังต้องยกนายกฯ ขึ้นเหนือตน
ก็ไม่รู้สินะ ได้ยินนายกฯ พูดเมื่อวาน หลังจากผู้นำฝ่ายค้านพูดจบ ว่า….
“ผมเคยคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่า “ผมเข้ามาในสภาฯ ควรจะวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์”
ให้ผมเล่นบทบาท “พระราม-พระลักษณ์” อะไรประมาณนี้อีกฝ่ายก็ต้องเล่นเป็นบท “ทศกัณฐ์”
ผมคิดว่า ประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายสุดรามเกียรติ์ ก็รู้อยู่แล้วว่า “ทศกัณฐ์เป็นอย่างไร” ในตอนท้าย”
แถมนายกฯ ยัง “ตบตูด” ได้แสบคลาสสิก
“………ทุกเรื่อง “แพงจนพังทั้งแผ่นดิน” ที่ฝ่ายค้านกล่าวมา รัฐบาลรับไว้หมด เพื่อดำเนินการดูแลแก้ไข ต่างคนต่างเล่นคนละบทบาท
จะให้ผมเล่นเป็น “พระลักษณ์-พระราม” ก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็น “ทศกัณฐ์” ก็แล้วแต่ ดูหนังดูละครก็ขอให้ “ย้อนดูตัวคนเล่นละคร” ด้วย
ผมก็โดนพวกท่านดูอยู่ ฉะนั้น ต้องดูตัวละครอื่นด้วย มันถึงจะสำเร็จ ประเทศไทย “ใหญ่กว่ารามเกียรติ์” มาก”
เห็นมั้ย…….
ปากจะเข่นฆ่ารัฐบาล เข่นฆ่านายกฯ แต่ด้วยจิตสยบ ต้องยกให้คนที่ตัวเองหมายฆ่า ให้เป็น “พระลักษณ์-พระราม”
ส่วนตัวเอง ขอเป็น “ทศกัณฐ์”!?
ก็เรียน”รามเกียรติ์”มาด้วยกันทั้งนั้น ย่อมรู้ ไหนพระเอก ไหนตัวโกง และทศกัณฐ์ นั้น ถึงเป็นหัวหน้ายักษ์ ก็ต่ำศักดิ์-ต่ำชั้นกว่า “พระลักษณ์-พระราม”
และลงท้าย ทศกัณฐ์ก็ต้องชักแหงกๆ ตายด้วยถูกพระราม “แผลงศรพรหมาสตร์”!
ด้วยคำพูดบอกเหตุเหล่านี้กระมัง นายกฯ จึงมั่นใจ “ข้ามช็อต” ไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดือนพฤษภา.โน่นแล้ว
“อย่าให้พระรามต้องแผลงศรบ่อยแล้วกัน”
ก่อนออกจากสภาไปทำงานต่อที่ทำเนียบ นายกฯ ยังสำทับประโยคนี้กับนักข่าว
แล้วแบบนี้ ท่านผู้นำฝ่ายค้าน ท่านเจ้าของคอกหมา ยังคิดว่าจะฆ่าพระรามได้อยู่หรือ?
ทางที่ดี ขอแนะนำ……
ย้ายคอก ยกคลับเฮาส์ ไปแย่งหมานอนตากแอร์หน้าเซเว่น “หลบศรพระราม” จะเป็นสิริมงคลกับชีวิตกว่านะ อย่าคิดสะเออะมาเป็นรัฐบาลเลย
จะอภิปรายด่านายกฯ ด้วยเรื่องอะไร ก็ด่าไป แต่เพื่อไม่ให้ “เข้าเนื้อ-เข้าตัว” เพื่อไทย “ฝ่ายค้าน” ควรเลี่ยงการกล่าวหานายกฯ ในประเด็น “ทุจริตคอร์รัปชัน”
ตรงนั้น ไม่ใช่ “จุดอ่อน-จุดตาย” ของนายกฯ
หากแต่มันเป็น “จุดตาย” ของเพื่อไทยแท้ๆ มาทุกยุค-ทุกสมัย จำพฤติกรรมรัฐบาลตัวเองไม่ได้เลยเชียวหรือ?
ในความเป็นผู้นำบริหารประเทศของนายกฯ ถ้าตัวท่านมีทุจริตคอรัปชั่น จะรอดจากการตรวจสอบของฝ่ายค้านมาได้นานถึง ๗ ปีหรือ?
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นได้กี่ปีล่ะ ก็ท้องแตกตายด้วยโกงจำนำข้าว
กระทั้งรัฐบาลพี่ชายยิ่งลักษณ์ก็เถอะ กวาดต้อนเสียงจนเป็นรัฐบาล “รัฐสภาเบ็ดเสร็จ”
แล้วไง….
ระหว่าง “เสียงมาก” กับ “โกงเอามาแบ่งกันกินมาก” อยู่ได้ยาวเท่านายกฯ ประยุทธ์ ที่ยกเรื่องคอรัปชั่นมากล่าวหามั้ย?
ที่ดร.เสกสกลออกมาสาวไส้ “หัวหน้าคอกหมา” นั่นแค่ฉบับย่อที่สอดคล้องต้องตามฉบับใหญ่
ฉบับใหญ่ ก็ที่ “นายเสนาะ เทียนทอง” ผู้ปั้นทักษิณเป็นนายกฯ เคยแฉ “กลโกง-กลกิน” ไว้ในเรื่อง “รู้ทันทักษิณ” นั่นแหละ เคยนำมาให้อ่านหลายครั้งแล้ว
ถ้าฝ่ายค้านต้องการตรวจสอบการโกงกินเพื่อชาติจริงๆละก็ ไปค้นตามเว็บไซต์ เอามาลากไส้ไอ้ตัวกินเมืองให้เห็นซักทีเถอะ
แล้วจะเชื่อว่า “ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย” สุจริต-จริงใจ โปร่งใส-เที่ยงธรรม ในมาตรฐานธรรมาภิบาล สมหน้าที่ฝ่ายค้าน “เพื่อบ้าน-เพื่อเมือง” จริงๆ
เพราะสภาพ “วัวสันหลังหวะ” เช่นนั้นแหละ
เมื่อยกประเด็นทุจริตใส่นายกฯ จึงถูกนายกฯ ยันหน้าหงาย ว่า
“ในเรื่องการบริหารที่ส่อไปในทางทุจริต ส่งผลกระทบต่องบประมาณนั้น
“อย่าพูดคำนี้กับผม”
หากไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความ ที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ผมยืนยัน ผมเข้ามาตรงนี้ จากวันนี้ และวันต่อๆ ไป
ถ้าผมยังอยู่ ผมจะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบายเจตนารมณ์ตัวผม”
จบดีกว่า……
เมื่อวานฟังอภิปรายนิดเดียวเอง ไม่รู้จะคุยอะไรมากกว่านี้
ขอหลบ “นอนตากแอร์” ก่อนละกัน!