ผักกาดหอม
เฉือนกันเลือดไหลซิบๆ
ไม่รู้แผนใคร
แต่มาเหนือเมฆจริงๆ
เกจิ กูรู กูรู้ พากันฟันธงแลกขี้หมากอง เลือกตั้งคราวหน้าพลังประชารัฐ ยากที่จะขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อนใคร
เพราะพรรคแตก!
มีคนบอกว่า อย่าไว้ใจ “เสกสกล-แรมโบ้อีสาน” เพราะเคยหักหลังคนเสื้อแดงมาแล้ว คราวนี้ “ลุงตู่” ระวังให้ดี “แรมโบ้” อาจแผลงฤทธิ์อีกรอบ
ก็ฟังหูไว้หู เพราะการเมืองเปลี่ยนโฉมหน้าไปพอควร
หลังจากนี้จะเปลี่ยนอีกเยอะ
เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ “แรมโบ้” เองก็พเนจรลำบาก ถึงเวลาต้องหาที่ปักหลัก และเป็นที่มาว่าทำไมต้องมี “พรรครวมไทยสร้างชาติ”
จับสัญญาณจากพรรคการเมืองหลายพรรค ที่กำลังจะเกิดใหม่ หรือเพิ่งเกิดเห็นพ้องต้องกันว่า ชื่อ “ลุงตู่” ยังขายได้
ย้อนกลับไปเดือนตุลาคมปีที่แล้ว “ลุงป้อม” ก็ยังยืนยันพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแน่นอน
แต่ข้ามปีสถานการณ์เปลี่ยน พลังประชารัฐ พรรคใหญ่อันดับสอง อาจถึงจุดจบก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายในต้นปีหน้า
แล้วจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน?
ก๊วนธรรมนัส คือฟางเส้นสุดท้าย ที่คนในพลังประชารัฐส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า ต้อง “จบ” ให้ได้ก่อนเลือกตั้ง
“ลุงป้อม” จะเล่นบท พระเวสสันดร ผู้มีความโอบอ้อมอารีบำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่ ยอมพลีชีพเพื่อให้น้องๆ ได้ไปต่อ
แต่จับตาดูดีๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอีกไม่นาน
นั่นคือหมากที่วางไว้
วันนี้ “กลุ่มธรรมนัส” ยังห้าวจัด
มีรายงานข่าวบอกว่าการหารือของพรรคเศรษฐกิจไทยเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีข้อสรุปสำคัญคือ จะเปิดการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อแลกกับการสนับสนุนรัฐบาล
พร้อมกับชู “ลุงป้อม” ขึ้นมาชน “ลุงป๊อก” อนุพงษ์ เผ่าจินดา เจ้าของเก้าอี้คนปัจจุบัน
ให้เหตุผลว่า “ลุงป้อม” มีศักยภาพ สามารถตอบสนอง ส.ส.ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเป็นการขยายฐานทางการเมืองรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกด้วย
เกมนี้จึงลามไปถึง “ลุงป๊อก”
ที่แน่ๆ งานนี้ “ลุงป้อม” จุกอก!
ก็น่าจะประเมินได้แล้วว่า กลุ่มธรรมนัสหลุดจากการคอนโทรลไปแล้ว 
ใครจะเป็นคนกดรีโมตแทนยังน่าฉงนอยู่
จะเป็นดูไบหรือไม่ คนในเพื่อไทยน่าจะระแคะระคายบ้างแล้ว
นี่คือเกมเสี้ยม 3 ป.แตกคอ ในสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายถูกบีบให้ต้องตัดสินใจ
การโผล่มาของ “รวมไทยสร้างชาติ” มีที่มาที่ไป
มีการวางแผนละเอียดลออมากทีเดียว
เดินหมากล่วงหน้าหลายชั้น
จนอดคิดไม่ได้ว่า มันคือการจัดแถวรอบใหม่ใช่หรือไม่
ถอดรหัสจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐกว่า ๑๐๐ คน ยื่นคำร้องต่อ กกต. ตามมาตรา ๔๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๐
อ้างว่า มติขับ กลุ่มธรรมนัส ๒๑ คน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานฯ ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนเสนอ กกต.พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะเข้าที่ประชุม กกต.ในวันวาเลนไทน์
อีกด้านหนึ่ง “ศรีสุวรรณ จรรยา” ยื่น กกต.ให้ตรวจสอบประเด็นเดียวกัน
ให้เหตุผลว่าหากพบฝ่าฝืนอาจเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ (๒)
เป็นเหตุให้ กกต.อาจเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือสั่งยุบพรรคได้
ถึงขั้นยุบพลังประชารัฐหรือไม่?
ตั้งตุ๊กตาเลวร้ายสุด ถ้ามีหลักฐานว่า “ลุงตู่” ไปบอก “ลุงป้อม” ให้ไปขับ ๒๑ ส.ส.ออกจากพรรค ก็จะเข้าข่ายครอบงำพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๒๘ และมีความผิดตามมาตรา ๙๒
ยุบพรรคพลังประชารัฐชัวร์ๆ
ผลที่ตามมากรรมการบริหารพรรคนำโดย “ลุงป้อม” อาจถูกตัดสิทธิทางการเมือง ๕ ปี ๑๐ ปี
ส.ส.พลังประชารัฐก็ย้ายเข้าบ้านใหม่ ”รวมไทยสร้างชาติ”
แต่หากไม่มีอะไรในกอไผ่ กกต.แค่สั่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐประชุมกันใหม่ เพื่อลงมติว่าขับหรือไม่ขับกลุ่มธรรมนัสอีกครั้ง
กรณีนี้พลังประชารัฐก็ยังอยู่
แต่จะอยู่สภาพไหนนั้นอีกเรื่อง
ครับ…ประเด็นในตอนนี้คือ ทำไม “แรมโบ้อีสาน” ถึงออกมาเปิดประตู “รวมไทยสร้างชาติ” ในสถานการณ์เช่นนี้
นอกจากความขัดแย้งกับ กลุ่มธรรมนัส ซึ่งน่าจะจบไปแล้วจากการขับ ๒๑ ส.ส.แล้ว ยังมีความขัดแย้งกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ ด้วยหรือไม่
หรือ “รวมไทยสร้างชาติ” โผล่ขึ้นมาแค่เป็นเงื่อนไขต่อรองอะไรบางอย่างในพลังประชารัฐ
เมื่อตรวจสอบสถานการณ์ของพลังประชารัฐในวันที่ไม่มี “ธรรมนัส” พบว่าน้ำนิ่งพอสมควร
“สันติ พร้อมพัฒน์” รัฐมนตรีช่วยคลัง หนึ่งใน “๓ ช.” ที่มีความแนบแน่นกับ “ลุงตู่” มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค
ทุกอย่างลงตัวแบบนี้ “ลุงตู่” จะทิ้งพลังประชารัฐไปทำไม?
นี่คือคำถามตัวโตๆ
หรือเกรงกันว่า มีความเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐจริงๆ
แต่ถ้าจริงเช่นนั้นก็ยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกลร่วมปี แล้วทำไมต้องมาตีเกราะเคาะกะลากันตอนนี้
วานนี้ “แรมโบ้อีสาน” พูดอยู่ประโยคหนึ่ง
“อย่าคิดว่าคนอย่างนายกฯ ไม่มีที่ไปหรือไม่มีที่ยืน ยังมีพรรคการเมืองใหม่อีกหลายพรรคที่พร้อมสนับสนุนนายกฯ
ผมในฐานะที่อยู่เคียงข้างนายกฯ มาตลอด จะไม่ยอมให้นายกฯ โดดเดี่ยวเดียวดายแน่นอน”
ใครในพลังประชารัฐไปทำให้ “ลุงตู่” ไร้ที่ยืน
หรือความขัดแย้งมันร้าวลึก ไม่เฉพาะก๊วนธรรมนัส
แต่ยังมีกลุ่มอื่นที่เริ่มแสดงท่าที ไม่สนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ สมัยหน้า
การเมืองปีเสือดูลึกลับดุดัน สมชื่อจริงๆ
