เปลว สีเงิน
“หมากระดิกหาง” ด้วยความไวกว่าวินาทีละ ๒๐ ครั้ง ก็ยังไม่ไวเท่าการเมือง ยุค….
ผู้นำฝ่ายค้าน “อยากเป็นรัฐบาล” จนตัวซี้-ตัวสั่น ถึงขั้นใช้แผน
ทำ “สภาล่ม” ซ้ำซาก ๑๕-๑๖ ครั้ง!
แต่ชาวบ้านยุคนะจ๊ะ ไม่เป็น “ปลาฮุบเบ็ด” ง่ายๆ เหมือนตะก่อน เมื่อฝ่ายค้านจ้องจังหวะ “ทำสภาล่ม” แล้วฟ้องสังคม “แบบนี้ นายกฯต้องยุบสภา”
สังคมก็สงสัยกันว่า ……..
สภาที่ล่มนั้นน่ะ ล่มตามธรรมชาติรัฐบาลใกล้ล้ม หรือมีฝ่ายจงใจทำให้ล่ม ด้วยเจตนาล้มรัฐบาล?
ก็มีการตรวจสอบกันขึ้น และด้วยความไวทางข้อมูลข่าวสาร จึงมีการกางโพย “ทางการ” เป็นรายชื่อพรรค-รายชื่อสส.ทั้งหมดดู
ว่า “ใคร-พรรคไหน” บ้าง ที่หนีประชุมประจำ จนสภาล่ม ๑๕-๑๖ ครั้ง?
ก็ปรากฏว่า เป็นพรรค “เพื่อไทย” ที่มีท่านผู้นำฝ่ายค้านเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งหัวหน้า-ลูกน้อง แทบจะ “ยกพรรค” หนีประชุม ทั้ง ๑๕-๑๖ ครั้ง!
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาล แม้ขาดหายมากบ้าง-น้อยบ้าง สุดแต่สันหลังใครจะยาว-จะสั้น และสุดแต่จะมีสำนึกในความรับผิดชอบระดับไหน
แต่ “จำนวนมาก” ที่เข้าประชุม ก็ยังเป็นสส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรค เช่น ก้าวไกล เท่านั้นเอง!
พรรคเพื่อไทย แกนนำฝ่ายค้านนั่นแหละ มี สส.๑๓๑ คน แต่เข้าประชุมแค่ ๑๔ หนีประชุม ๑๑๗
ล่าสุด ประชุมเมื่อ ๔ กุมภา.โดดประชุม ๑๒๙ เข้าประชุมแค่ ๒ เมื่อถูกแฉ หัวหน้าพรรค “ชลน่าน” ก็อ้างหน้าด้านๆ
“เป็นเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ต้องการให้นายกฯอยู่ต่อ”!?
ก็ฟังได้ แต่ดูเหมือน “สังคมยอมรับไม่ได้” ออกมาถล่มเพื่อไทยกันเละ ถึงขั้น พรรคพวกต้องออกมาช่วยกัน “อุ้มซาก” ท่านผู้นำกลับพรรค
เมื่อวาน (๗ กพ.๖๕) จึงมีข่าว “เบี่ยงกระแส” เพื่อสะดวกในการเก็บซากเกิดขึ้น
ข่าวแรก “ลุงป้อม-ลุงตู่” แตกกันเละ ชนิด who way – who it ถึงขั้นลุงป้อมเรียกประชุมพรรคด่วน
ข่าวที่สอง ลุงตู่เตรียมบ้านใหม่ ให้แรมโบ้ลาออกจากพลังประชารัฐ ไปตั้งพรรคใหม่รอท่าในชื่อ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”
เมื่อวาน ชาวบ้านร้านตลาด จึงถามกันวุ่น
ด้วยสับสนปนเปกับข่าวสารที่แต่ละสื่อสาดใส่ด้วยความไวยุค 5 G ว่าไม่พ้นกุมภา.นี้ รัฐบาลพังพาบแน่
ลุงตู่ไปพรรค “รวมไทยสร้างชาติ”
ส่วนลุงป้อม ตูดนั่งพลังประชารัฐ แต่ขาอีกข้างพาดไปที่พรรค “เศรษฐกิจไทย” ของธรรมนัส!?
ผมก็เหยื่อข่าวสารเหมือนกับคอการเมืองทุกท่านนั่นแหละ คือรู้ตามที่เขาปั่น ส่วนเรื่องจริงๆ เป็นยังไง แล้ว “คนนอกวงแขนการเมือง” อย่างผม จะไปรู้ได้ยังไง?
พรรคพวกโทรมาถาม
“ลุงตู่จะยุบสภาจริงหรือ พลังประชารัฐแตกจริงหรือ ลุงตู่-ลุงป้อม ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ จริงหรือ?”
ผมก็ทำเป็นผู้ทรงภูมิ ตอบไปว่า…….
“จะกินอาหารให้อร่อย ต้องใจเย็นๆ อินทรีน่ะ บินสูง จะโฉบเมื่อเห็นเหยื่อ และโฉบละครั้ง เงียบกริบ แต่ไม่พลาด!
ที่เจี๊ยวจ๊าวกลางตลาดแบบนี้
มัน “นกกระจิบ-กระจอก” ที่เขาจับใส่กรงให้คนซื้อไปปล่อยแก้บนน่ะ”!
ถ้ารู้นายกฯ จะยุบสภาวันนี้-วันพรุ่ง แล้ว ๑๗-๑๘ กุมภา.ที่จะถึง เพื่อไทยยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปให้เมื่อยตุ้มทำไม?
เรื่อง “พี่ใหญ่-น้องเล็ก” จะแตกกันแค่ “แหติดตอ” แล้วนึกว่าปลาใหญ่ จึงทะเลาะกัน
นั่นมันวิสัย “เด็กวัด” สมัยผมโน่น!
พวกทหารที่เขาหล่อหลอมมาด้วยกัน นับเป็นพี่-เป็นน้อง “กินข้าวร่วมหม้อ-นอนร่วมมุ้ง” กันมาครึ่งค่อนชีวิต
เป็นระดับ “ผู้นำกองทัพ” ด้วยกันทั้ง ๓ ป.ด้วยซ้ำ
ด้วยความรู้สึกนึกคิดของคนระดับนั้น ต่อให้ “โลภ-โกรธ-หลง” ขนาดไหน เขาก็ไม่บ้าใบ้ ทำอะไรโง่ๆ ให้เห็นแบบตื้นๆอย่างที่เป็นข่าว “แต่ละวัน” หรอก
การที่คนพลังประชารัฐแยกไปตั้งพรรค นั่นมันธรรมชาติการเมืองประชาธิปไตย “ระบบเลือกตั้ง” ก็ว่ากันไปแต่ละวัน
แต่ที่จะลงตัวจริงๆ ในขั้นสุดท้าย มันคือใคร-พรรคอะไร, ใช่-ไม่ใช่ จะมาทึกทักเอาจากข่าวลมเพ-ลมพัด วันนี้-เดี๋ยวนี้
นั่น “ยี่เก” ไม่ใช่ “การเมือง”!
ก็เห็นพูดกันติดปากมิใช่หรือ “รวมกันอยู่-แยกกันตี” การเมืองก็เหมือนการทัพ
เวลาออกรบ เขาจะไปรบ “นอกป้อมค่าย” แบ่งกำลังแยกกันไปตี แล้วโอบมาบรรจบ
มีใครเขาจะใช้ป้อมค่ายใหญ่เป็นฐานทำศึกตะพึด-ตะพือล่ะ ดูง่ายๆ อย่างสหรัฐอเมริกา เคยรบโดยใช้สหรัฐฯ เป็นฐานทำสงครามมั้ย?
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๑-๒ มาแล้ว แม้ทุกวันนี้ สหรัฐฯ ไปก่อสงคราม โดยใช้ “บ้านอื่น-เมืองอื่น” เป็นสมรภูมิทั้งนั้น!
ในยุโรป ในตะวันออกกลาง ในเอเชีย ในอาเซียน ในแอฟริกา แม้ในบ้านเรา สหรัฐฯ มาใช้เป็นฐานทำสงครามเวียดนาม
นายกฯ ถนอมบอก “รบนอกบ้านดีกว่ารบในบ้าน”
ผลเป็นไป…….
อเมริกาถลกตูดหนีกลับบ้านสบาย แต่เรา รับภาระในความฉิบหายจากผลสงครามถึงทุกวันนี้!
นี่แหละ พวกทหารเขารู้ เมื่อการเมืองในพรรครัฐบาลถูกฝ่ายตรงข้ามส่งมือดีเข้ามาเป็น “ไส้ศึก” บ่อนทำลาย
เขาจะปล่อยให้ “ฐานใหญ่” คือพลังประชารัฐพังไม่ได้หรอก มันเสียศักดิ์ศรี เขาก็แก้ด้วยแผนและวิธีการของเขา
เรื่องที่ “แม่ทัพ” จะทิ้งกองบัญชาการใหญ่ “เอาตัวรอด” ยามมีภัยนั้น เราๆ ท่านๆ ทั่วไปบางคน อาจทำได้
แต่อย่าง “พลเอกประยุทธ์” อย่าง “พลเอกประวิตร” แม้กระทั่ง “พลเอกอนุพงษ์”
เขาไม่ทำหรอก
ใครทำก็ “หมา” นอกจากเสียศักดิ์ศรีชายชาติทหารแล้ว ยังเสียคนด้วยซ้ำ!
เว้นแต่ รบรักษาป้อมค่ายใหญ่จนปลอดภัยแล้ว จากนั้น ใครจะแยกย้ายไปสร้างเมืองบริวารใหม่ ปรึกษาหารือตกลงกันแล้ว ก็ว่ากันไป
และนั่น เป็นการย้ายด้วย “ยุทธศาสตร์ศึก”!
ดังนั้น ประเด็น “ลุงป้อม-ลุงตู่” แตกหัก ด้วยเรื่อง “ชิงอำนาจ” ในพรรคพลังประชารัฐ
อย่าไปคิดให้โง่!
ส่วนประเด็น “ยุบสภา” พูดกันตรงๆ ตามกลไกระบบสภา คำว่า “ยุบสภา” มันคู่มากับ “สภาเกิด” นั่นแล้ว
พฤษภา.เมื่อรัฐบาลครบ ๓ ปีไปแล้ว จากนั้น ค่อยดูกันไปตามเหตุการณ์บ้านเมือง
ส่วนตอนนี้ อย่าไปเพ้อกับพวก “เด็กเลี้ยงแกะ” ให้มากนัก!
เพื่อไทย ก็รู้ว่า “ไม่มีทางยุบ”
ไม่งั้น จะไปยื่นจองกฐิน “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” รัฐบาลในสมัยประชุมหน้าแต่ไก่โห่ทำไม?
ก็เพราะรู้แก่ใจ “ล้มรัฐบาลไม่ลง” ว่ากันตรงๆ ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล “แอบจิต” ตรงกัน ว่ายังไม่ (อยาก) ยุบ ตอนนี้
จนกว่า “กฎหมายลูก” ๒ ฉบับ เลือกตั้งบัตร ๒ ใบ ที่ต้องการด้วยกัน “ผ่านสภา” แล้วนั่นแหละ
ค่อย “เชิดฉิ่ง-รัวกรับ” กันหลังจากนั้น!
ฉะนั้น ช่วงนี้ สภาล่ม ก็ล่มไป ส่วนตอนไหน กฎหมายสำคัญเข้าสภา ก็เกณฑ์มาเป็นองค์ประชุมให้ครบ
เรียกว่า “เลี้ยงสภา” ไว้ใช้เป็น “ตรายาง” สำหรับรับรองผลประโยชน์การเมืองด้วยกันก่อน
ฟังที่ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ “นายดอน ปรมัตถ์วินัย” ตอบกระทู้ “สว.จเด็จ อินสว่าง” ที่วุฒิสภาเมื่อวาน (๗ กพ.)
เรื่อง “การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศซาอุดีอาระเบีย”
“เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด” มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
จะเสด็จมาเยือนไทยเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายกฯประยุทธ์ในเดือน-สองเดือนข้างหน้านี
เราทุกคน……
ทั้งรัฐบาล-ฝ่ายบริหาร ทั้งรัฐสภา-ฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งศาล-ฝ่ายตุลาการ รวมถึงประชาชน คือเจ้าภาพ
เมื่อมี “แขกบ้าน-แขกเมือง” ระดับนี้มาเยือนประเทศคือบ้านของเรา ที่ทะเลาะแตกแยกกัน ก็ต้องวางไว้
แล้วมาทำหน้าที่ “เจ้าบ้าน” เตรียมต้อนรับให้สมบูรณ์ที่สุดและดีที่สุด
ไม่ใช่เพื่อใคร-คนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่ง ได้หน้า ได้ประโยชน์หรอก
หากแต่เราทุกคน ในฐานะเจ้าของประเทศ ได้หน้า ได้ประโยชน์ด้วยกันหมด ทุกคน-ทุกฝ่าย
สรุปเป็นว่า ที่พูดจาตลาดแตกเมื่อวาน ทำนอง
“ไอ้เข้ขึ้นที่ท่าน้ำ” นั้น ไม่ใช่หรอก
แค่ “สวะข่าว” ลอยน้ำน่ะ!
