7 ธันวาคม 2564 – ที่กระทรวงการคลัง นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรมและ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ตัวแทนรวบรวมหนังสือคำไปร้องของกลุ่มผู้ค้าโครงการเราชนะกว่า 100 คน เดินทางเข้าให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาผลอุทธรณ์ของโครงการเราชนะ โดยมี นายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมารับเรื่อง
หลังถูกกระทรวงการคลังส่งหนังสือเรียกเก็บเงิน โดยระบุว่าผู้ค้าที่เข้าร่วมโครงการเราชนะต้องชำระหนี้ภายใน 30 วัน ซึ่งกลุ่มผู้ค้ามองว่า เป็นการเอาเปรียบ เพราะของที่ขายออกไปล้วนเป็นเงินต้นทุนที่จะต้องสำรองจ่ายซื้อไปก่อน
โดยนายสามารถ เปิดเผยว่าโครงการเราชนะเป็นโครงการที่รัฐบาลคิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน เงินก็เป็นของประชาชน ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่ภาระของผู้ค้าที่จะต้องมาแบกรับ แม้รัฐหวังจากกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็ไม่ได้คิดถึงคนที่ค้าขายในช่วงวิกฤตโควิด ทั้งการสแกนข้ามเขต และ ขายออนไลน์ ซึ่งทุกคนได้ส่งของให้ลูกค้าทุกคน
ในช่วงที่ผ่านมา วิกฤติโควิด 19 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ตกงาน ไม่เงินใช้จ่าย ไม่มีค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเทอมลูก จึงอยากได่เงินสดไว้ใช้จ่าย ได้ทำผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ก็พร้อมที่จะรับผิด ชดใช้ แต่ไม่อยากให้เหมารวม เงินส่วนไทยที่เป็นความผิดจากโครงการเราชนะก็ใช้รืนรัฐไป เงินส่วนไหนที่ไม่ใช่ต้องแยกออกจากกัน จึงเป็นตัวแทนร้องขอความเป็นธรรมให้กับประชาชน โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีก็กำชับให้ช่วยพ่อแม่พี่น้องประชาชน
โดยหนึ่งในผู้ประกอบกิจการร้านปิ้งย่างในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ถูกเรียกเก็บหนี้ 17.9 ล้านบาท บอกว่าตั้งแต่เปิดร้านมาได้ 12 ปีครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีหนี้มากที่สุดในชีวิต ตอนแรกที่เข้าร่วมโครงการก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดกติกา และไม่ได้โกงเงินในโครงการ รวมถึงได้เตรียมเอกสารหลักฐานการซื้อวัตถุดิบเข้าร้านไว้แล้ว เพื่อที่จะยื่นเรื่องอุทธรณ์ หากการมาขอความเป็นธรรมครั้งนี้ไม่ได้รับการเหลียวแล รัฐบาลยังจะผลักภาระให้ประชาชน ทั้งนี้ตนยอมรับว่าเครียดมาก ที่ร้านไม่มีเงินรายได้ส่วนอื่นเข้ามาหากเข้ามาใช้หนี้ 17 ล้านจะเอาไหนกิน
โดยวันนี้ทางกระทรวงการคลังได้รับเรื่อง และได้แบ่งปัญหาออกเป็น 3 กลุ่ม
1.ประชาชนที่ยื่นอุทรณ์และเรื่องยังดำเนินการอยู่
2.ประชาชนที่ยื่นอุทรณ์ไม่ผ่าน
3.ประชาชนที่ไม่ได้ยื่นอุทรณ์
และ มีร้านค้าที่โดนเรียกภาษีทั้งที่ถูกอายัดเงินอยู่ ทางกระทรวงการคลังก็จะรับปัญหาไป ซึ่งกระทรวงการคลังจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยแก้ปัญหาปลดล็อคไปได้ร้อยกว่าร้านค้าแล้ว ทั้งนี้ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเข้ารับข้อมูลในการประสานงานให้กับร้านค้าอีกทางนึง