4 ธันวาคม 2564 – นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหนีคดี อยู่ต่างประเทศ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “ประเทศไทยเป็นสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยข่าวลือ ชอบมีการปล่อยข่าวลือกัน และบางทีข่าวลือก็ขับเคลื่อนประเทศไทยได้เสียด้วย เพราะว่าเราเป็นคนไทยที่อ่อนไหวต่อข่าวลือ และก็นึกว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ความจริงข่าวลือ แปลว่า ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง มีคนปล่อยข่าวว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จะถูกยุบ โดยอ้างว่าผมไปสนับสนุนขบวนการล้มเจ้าบ้าง ไปอ้างว่ามีเงินไหลมาจากต่างประเทศมาสู่ขบวนการล้มเจ้าบ้าง
สรุปแล้วก็จะพาดพิงผมเป็นคนทำ ผมเลยต้องขออนุญาตออกมาเล่าให้พี่น้องฟังว่า ถ้าใครมีหลักฐานว่ามีโอนเงินมาจากผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอนเงินเข้าสู่ขบวนการล้มเจ้า ผมจะให้รางวัลอย่างงาม เรื่องที่ผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการล้มเจ้านั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ตลกและไม่มีมูลแม้แต่นิดเดียว
เพราะผมเป็นคนที่จบโรงเรียนเตรียมทหาร จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และได้ทุนเล่าเรียนจาก ก.พ. ตามความต้องการของกรมตำรวจไปศึกษาต่อทั้งปริญญาโทและปริญญาเอกที่อเมริกา เพราะฉะนั้นโดยธรรมชาติของผม นอกเหนือจากระบบสถาบันที่ต้องดำรงอยู่ด้วยความจงรักภักดีแล้ว ยังเป็นเรื่องความกตัญญูรู้คุณที่เป็นจุดแข็งในชีวิตผม ทำให้ชีวิตผมมีความสำเร็จมาทุกวันนี้ เพราะผมมีความกตัญญูรู้คุณ”
นายเสกสกล ระบุว่า การที่นายทักษิณ จะโพสต์อะไรก็โพสต์ได้ แต่สิ่งที่โพสต์นั้น จะตรงกับสิ่งที่กระทำหรือไม่เป็นอีกเรื่อง และคนไทยจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เป็นอีกประเด็น เพราะเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างแล้ว และ เข้าใจชัดเจนว่าตัวตนของนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร ต่อให้นายทักษิณ อมพระประธานในโบสถ์ มาพูดเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่เขาก็ไม่เชื่อนายทักษิณอีกต่อไป
เพราะอะไร ก็เพราะการพูดกับการกระทำของนายทักษิณ นั้นเป็นคนละเรื่องกัน บอกว่าเป็นคนกตัญญู รู้คุณแผ่นดิน แต่โกงชาติ โกงแผ่นดิน อันนั้น ชัดเจนว่าพูดอย่างทำอย่าง คนที่เขากตัญญูรู้คุณแผ่นดิน เขาไม่คดโกงชาติบ้านเมือง ไม่ทำผิดกฎหมาย หรือถ้าทำผิดเขาสำนึกได้ก็ต้องกลับตัวกลับใจ
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า นี่นายทักษิณ แก่จะลงโลงอยู่แล้ว ก็ยังคงเป็นคนแก่กะโหลกกะลา แก่แต่ตัว แต่สมองยังคิดไม่ได้ ว่าได้ทำร้าย ทำลายประเทศเอาไว้อย่างไร หรือเป็นเพราะนายทักษิณแก่ จนสมองเลอะเลือน จำไม่ได้ว่าทำสิ่งที่ชั่วร้ายกับประเทศไว้อย่างไรบ้าง แต่อาจจะเป็นสันดานนายทักษิณ เพราะ ได้ชื่อว่าเป็นประเภทสู้ไปกราบไป พอกระแส ไม่เอาด้วย ก็บอกกตัญญูแผ่นดิน จงรักภักดีสถาบัน แต่พอคนไทย เริ่มเงียบ นายทักษิณ ก็ออกลาย เรื่องความจงรักภักดี นั้นต้องทำให้เห็นเป็นประจักษ์ ไม่ใช่ดีแต่ปากพูด
“นายทักษิณคงจะลืมไปแล้วว่า เดอะไทมส์ ของอังกฤษ เคยเผยแพร่ข่าวคำให้สัมภาษณ์ของ “ทักษิณ” ที่ดูไบ เมื่อปี 2552 มีข้อความจำนวนมากที่พาดพิง และล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ของไทยอย่างรุนแรง แต่นายทักษิณออกแถลงการณ์อ้างว่ามีการบิดเบือนคำให้สัมภาษณ์ เดอะไทมส์ จึงนำบทสัมภาษณ์ตัวเต็ม ยาว 12 หน้า เผยแพร่ในเว็บไซต์
นอกจากนั้น ยังมีกรณีบทสนทนากับ ราล์ฟ บอยซ์ อดีตทูตสหรัฐฯ ที่ปรากฏในวิกิลีกส์ทั้งสองกรณียังเป็นประเด็นค้างคามาจนถึงทุกวันนี้นำไปสู่ความคลางแคลงใจว่านายทักษิณ มีความจงรักภักดีจริงหรือไม่ หรือดีแต่ปากพูด แต่การกระทำเป็นอีกอย่าง หรือเป็นการเล่นเกมสองหน้า
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าส่วนเรื่องพรรคเพื่อไทย เห็นชัดเจนว่าคิดอย่างไร เมื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ออกจดหมายเปิดผนึกว่าพรรคเพื่อไทย พร้อม ที่จะนำเอาเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ม.112 เข้าสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่สอดรับ สอดคล้องกับขบวนการล้มล้างสถาบัน ที่กำลังเดินหน้าอยู่ แต่พอคนไทยทั้งประเทศ ออกมาประณามนายทักษิณ ก็กลับลำ เป็นอีกอย่าง
ดังนั้นการอ้างความจงรักภักดี ใครก็อ้างได้ แต่การกระทำนั้นน่าจะชัดเจนว่า นายทักษิณคิดอย่างไร พรรคเพื่อไทย คิดอย่างไร และ นายชัยเกษม คิดอย่างไร นายทักษิณ อย่าบอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ถึงการกระทำของนายชัยเกษม เพราะ ก่อนหน้านี้ ลูกสาวนายทักษิณ อย่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เข้าไปนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ของพรรคเพื่อไทย พูดชัดว่าตัวเองนั้นแยกไม่ออกกับพ่อ คือนายทักษิณ ดังนั้น การกระทำต่าง ๆ ในพรรคเพื่อไทย จะบอกว่านายทักษิณ ไม่รู้ไม่เห็นเลยสักนิด มันก็อาจจะเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ประชาชนคนไทย เขากินข้าว ไม่ได้กินหญ้า
“นายทักษิณ ควรหยุดหลอกตัวเองเสียที หัดทำดีโดยการหยุดพูดมากเพื่อชาติ ยิ่งพูดมาก ยิ่งสร้างความแตกแยกในชาติ ยิ่งทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ดังนั้นก่อนที่นายทักษิณ จะสิ้นอายุขัย ก่อนจะจากโลกนี้ไป ต้องคิดดี ทำความดีไว้บ้าง เพราะก่อนจะสิ้นลมหายใจไป คนไทยอาจจะอโหสิกรรมให้ ดีกว่าที่จะให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องมาสาปแช่งจนวันตายด้วยคำว่าตายได้เสียก็ดี นายทักษิณคงไม่อยากให้โดนเช่นนั้นแน่นอน” นายเสกสกล กล่าว