นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้ (4 พฤศจิกายน 2564) ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ.2564 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong – Lancang Cooperation Special Fund 2021) ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันจะนำไปสู่การสร้างชุมชนแห่งการแบ่งปันเพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่งคั่งในอนาคตต่อสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง สำหรับในปี 2564 ไทยได้รับการอนุมัติสนับสนุนเงินงบประมาณภายใต้ร่างบันความเข้าใจจำนวน 7 โครงการ รวมเป็นเงิน 2,396,800 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนี้
1. โครงการแนวทางใหม่เพื่อการเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง วงเงิน 420,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
2. โครงการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความมั่นคงด้านอาหารด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับชีวิตวิถีใหม่ วงเงิน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
3. โครงการยกระดับการเลี้ยงผึ้งของเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในภูมิภาค แม่โขง – ล้านช้าง ครบวงจรและการสำรวจสุขภาพของแมลงผสมเกสร เพื่อความมั่นคงทางอาหาร วงเงิน 416,100 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
4. โครงการเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสัตว์และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มมูลค่า โดยใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อความมั่นคง และความยั่งยืน วงเงิน 339,200 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี)
5. โครงการระบบจัดการฐานข้อมูลดิจิทัลด้านผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ในกลุ่มประเทศสมาชิกแม่โขง – ล้านช้าง สำหรับหนุนเสริมการค้า ข้ามพรมแดน วงเงิน 157,600 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น)
6. โครงการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรสุขภาพที่ให้การดูแล ด้านมารดาทารกกับชนกลุ่มน้อยใน สปป. ลาว และเวียดนาม วงเงิน 184,900 ดอลลาร์สหรัฐ (มหาวิทยาลัยบูรพา)
7. โครงการพัฒนาระบบติดตามและประเมินปริมาณผลผลิต พืชเศรษฐกิจในกัมพูชา สปป. ลาว และเมียนมา ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ วงเงิน 479,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ)