นายกฯ “ยิ่งถูกด่า-ยิ่งเด่น”-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

นี่…
แสดงว่า “หมดท่า” กันแล้วจริงๆ
โดยเฉพาะการเมืองฝ่ายค้าน สารพัดวิชามารที่มี ทั้งในระบบ-นอกระบบ งัดมาใช้จนหมดเกลี้ยง
แต่ก็ล้มประยุทธ์ไม่ลงซักที!
ยิ่งด่า ยิ่งขัดแข้ง-ขัดขา ยิ่งเพิ่มตบะบารมีให้นายกฯ จนถึงวันนี้ บอกตรงๆ ไม่รู้จะชมฝ่ายไหนดี

จะชมฝ่ายประยุทธ์ ว่าเป็นนายกฯ ๘ ปี….
โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม, เศรษฐกิจนวัตกรรมทั้งด้านเกษตรและอุตสาหกรรมก้าวหน้า

คนเฒ่าคนแก่ คนท้อง คนยากคนจน คนพิการ ได้รับการดูแล “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” นายกฯ จัดให้!

หรือจะชมเพื่อไทย…
สร้างประวัติศาสตร์ฝ่ายค้าน ๘ ปี ใช้แค้น “ไล่นายกฯ” ทั้งในสภา-ในถนน ได้ทุกสมัยประชุม แล้วก็ “หน้าแหก” ไปเองทุกสมัยประชุม

ไม่แค่นั้น ยังขยันกว่าฝ่ายค้านใดๆ ในโลก
๘ ปี เท่ากับ ๒,๙๒๐ วัน สรรประเด็น “ด่านายกฯ” ได้มันทุกวันไป ไม่เมื่อย ไม่เหนื่อย ไม่อายใจ

และไม่คิดกระทั่งจะชะโงกดูเงาตัวเองในกระถางล้างเท้าด้วย!

ในเมื่อ “เอตทัคคะ” กันคนละด้านอย่างนี้ จะชมใครฝ่ายเดียว จะเป็นการลำเอียง ก็ต้องอธิบายสรรพคุณแต่ละฝ่ายให้พิจารณากันเองตามเนื้อผ้า

แต่ก็คง “หมดท่า” แล้วจริงๆ นั่นแหละ
ไม่งั้น โฆษกีเพื่อไทย คงไม่โพสต์ด่านายกฯด้วยประเด็นเหล่านี้…….

“ในขณะที่พี่น้องเดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม ไม่มีผู้นำประเทศคนไหนในโลกที่บอกให้ประชาชนแก้ปัญหาด้วยการให้ไปปลูกบ้าน 2 ชั้นเพื่อหนีน้ำ

และยิ่งสร้างนิวโลว์ที่สุด คือการบอกให้ประชาชนสวดมนต์ไล่พายุ ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าท่านโง่ เวรกรรมอะไรของคนไทยที่ต้องมาเจอนายกฯ แบบนี้”

แล้วผลของการด่าด้วยโมหะ เป็นไงล่ะ?
คือ โง่งมจมปลัก เห็นคนอื่นทำได้ ทำดี ตัวเองทำไม่ได้ ก็อิจฉาริษยา หาเรื่องด่าเขาชนิดไม่ลืมหู-ลืมตา นั่นน่ะ

นายกฯ ไม่สึก-ไม่หรอ เพราะถูกด่ามา ๒,๙๒๐ วัน ชิน…จนแข็งเป็นหินไปแล้ว

ท่านไม่ใช่ลูกผู้ดี….
แต่ท่านมีคุณสมบัติผู้ดี ย่อมไม่ด่าตอบใคร โดยเฉพาะหญิงอาภัพ นรลักษณ์ “จมูกตีบ-กระโหลกตัน” คิดอะไรได้แค่นั้น ก็ถือว่าเลิศในทัศนคติเลวแล้ว

ชาวบ้านที่สงสารนายกฯ นั่นตะหาก เห็นท่านงกๆ ทำแต่งานหามรุ่ง-หามค่ำ จนซูบผอม ตาโหล เสื้อ-กางเกงหลวม เมื่อเห็นโฆษกีเพื่อไทย โพสต์ข้อความนั้น ก็สุดจะอดรน-ทนกลั้น

เมื่อวาน ชนชาวโซเชียล จึงมอบกระเช้าประเภทร้อยดอกตอกกลับให้เธอสะพรั่ง พรึ่ดไปทั้งข่าวสารออนไลน์!

สรุปแล้ว ยิ่งด่า คนถูกด่า คือนายกฯ ยิ่งได้
คนด่า ด้วยอิจฉา-ริษยาเขา คือพรรคเพื่อไทย ยิ่งเสีย!

ควรประชุม เพื่อสำรวจบทบาทพรรคกันบ้างนะ อย่าเอาแต่หลงโหนไข่-โหนแคมนายใหญ่-นายหญิง ว่าใช้เรียกคะแนนในการเลือกตั้งได้ตะพึดไป

ในรอบ ๘ ปีนี้ อะไรที่หายไปชนิดสูญพันธุ์ เพื่อไทยเคยสำเหนียกบ้างมั้ย?

จะบอกให้…
คำว่า “บัตร ๓๐ บาทรักษาทุกโรค” คำว่า “กองทุนหมู่บ้าน” ที่ระบอบทักษิณใช้หากินมาตลอดนั้น

ทุกวันนี้ ชาวบ้าน delete ทิ้งไปหมดแล้วจากหัว!
คนยากคนจน ต้องจ่ายทำไมตั้ง ๓๐ บาท จะเป็น-จะตาย ยังจะรีดเอาอีกหรือ?

เดี๋ยวนี้ สลึงนึงก็ไม่ต้องจ่าย…
“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใบเดียว คนยากคนจน คนพิการ คนแก่คนเฒ่า เฟี้ยวไปได้ทุกที่
ฟรี…รัฐบาลลุงตู่จ่ายให้หมด!

นอกจากไม่ต้องจ่ายแล้ว ยังมีเงินให้ซื้อหมากพลู ซื้อขนูกขนมไปฝากแม่อีหนู ไหลมาเข้ากระเป๋าตังทุกเดือนด้วย

ก็เอาแต่สุมหัวประดิษฐ์คำด่าและสรรวิชามารล้มเขาอยู่นั่นแหละ

เวลามันเปลี่ยนโลก
แต่การโอบเอื้อเกื้อกูลชาวบ้านของนายกฯประยุทธ์ มันเปลี่ยนทัศนคติคนฐานราก จากประชานิยมเก่าๆ ไปแล้ว รู้มั้ย

นโยบายดูแลคนแก่-คนเฒ่า-คนยากคนจน กระทั่งคนไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ก็ปลูกให้ในราคาถูก ไม่ตุกติก-กินนอกกินใน อย่างที่ทำกันจนเข้าคุก-เข้าตะราง อย่างที่เห็น
เหล่านี้ ทำให้นายกฯ เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจชาวบ้าน

ถึงไม่ทำให้พวกเขารวยเป็นเศรษฐี
แต่การช่วย ทั้งสร้าง, ทั้งประทังชีวิต ให้เขาอยู่ได้ตามกรอบ “เพียงพอ” ตามอัตภาพ

นั่น “ลุงตู่” ไม่ต่างพระมาโปรด! ก็ออกไปซี…
พวกฝ่ายค้านน่ะ ไปทำความดี “ช่วยชาวบ้าน” แข่งกับรัฐบาลนายกฯ ประยุทธ์เขา

ไม่ใช่เอาแต่สุมหัวจ้องล้ม

อย่าถือว่าการช่วยเหลือชาวบ้าน เป็นหน้าที่รัฐบาล พวกกู..ฝ่ายค้านไม่เกี่ยว

ถ้าคิดอย่างนั้น อีก ๘ ปี ฝ่ายค้านก็ดักดานต่อไปเหอะ

คำว่าช่วยเหลือ คืออะไร?
มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ต้องเอาข้าวของ เอาเงินทองไปแจก ยามทุกข์-ยามยาก มาให้เห็นหน้า-เห็นใจกัน แค่นั้นก็ช่วยเหลือทางใจเหลือเฟือแล้ว

ทีตอนหาเสียง ลุยน้ำ-ลุยโคลน ไหว้กระทั่งหมา ไปกระตุกตีนชาวบ้านขอคะแนนเขาได้

แต่ตอนชาวบ้านมีทุกข์ ไปเยี่ยม ไปให้เห็นน้ำใจกันบ้างก็ไม่ได้ คิดอะไรของพวกมึงวะ?

อย่างนายกฯ ลงไป ท่านก็บอก มาเยี่ยม-มาเยียน มาให้กำลังใจกัน และก็โอภาปราศรัยในคติไทยแบบบ้านๆ ทั่วไป

“พายุมาลูกเดียวก็ท่วมจะตายอยู่แล้ว สวดมนต์ภาวนา ขออย่ามาอีกเลย”

ก็ธรรมดา ฝรั่ง เอะอะก็..มาย ก๊อด คนไทยก็…ตาเถนหก คุณพระช่วย ไม่เห็นเป็นประเด็นต้องเค้นด่า ว่านายกฯโง่ เป็นเวร-เป็นกรรมประเทศขนาดนั้นเลย

การสวดมนต์ คือ “มนัสน้อม-สติมา”
คนเรา เมื่อมีสติ อะไรที่ไม่เห็นทาง ก็จะเห็น ที่ไม่เข้าใจ ก็จะเข้าใจ

มีแต่คนอัปลักษณ์อัปรีย์เท่านั้น เหมือนควายตัวเมีย ไม่มีเขา ก็ใช้เขลา ส่ายขวิด อวดจริต “นางควาย” ไปเรื่อย

ถ้าคนมีความคิด….
อย่างน้ำท่วม เป็นช่วงเวลาที่สส.ควรไปหาชาวบ้าน แบบไปให้เห็นใจกัน ช่วยตรงไหนได้ ก็ช่วยกัน

แต่อย่าไปให้เขาหน่าย กู..ผู้ทรงเกียรติ ตีนลงน้ำไม่ได้ ต้องให้ชาวบ้านหามแห่ แถมยังต้องหาน้ำหาท่า หาข้าวหาปลามาให้แดก แบบนี้ ไม่ต้องไป

แต่เมื่อเห็นนายกฯ ลงไป ตัดคำว่า พรรคเขา-พรรคเรา, ฝ่ายเขา-ฝ่ายเรา ทิ้งไป
ก็พูดกันประจำมิใช่หรือ ผม..ประชาชนเลือกมา

ก็ตอนนี้ คนที่เลือกพวกคุณเขาเดือดร้อน ก็ไปร่วมด้วย-ช่วยกันซี การเป็นฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล มันแค่สมมติ

ในเมื่อประชาชนเป็นของทุกฝ่าย เมื่อเขามีทุกข์ แล้วจะเกี่ยงหน้าที่ฝ่ายมึง ส่วนฝ่ายกู มีหน้าที่ดู และคอยเอาตีนราน้ำอย่างนั้น มันควรหรือ?

คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ คุณเป็นหัวหน้าพรรค มีอำนาจบริหารพรรคตัวจริงหรือเปล่า?

ถ้ามี เพื่อความเป็นสิริมงคลของพรรค เฉดหัวโฆษกีนางนี้จากหน้าที่โฆษกปรกเถอะ!
การปลูกบ้านใต้ถุนสูง ถูกต้องตามลักษณะภูมิศาสตร์ประจำภูมิภาคแล้ว ตั้งแต่โบร่ำ-โบราณ ไม่ว่าเขมร-ไทย ปลูกบ้านแบบนั้นมาตลอด

มาเมื่อ ๕๐-๖๐ ปีหลัง เจริญในโง่ด้วยหยิ่งผยอง ตัดไม้-ตัดป่า พอว่า เปลี่ยนพื้นที่รับน้ำเป็นบ้าน-เป็นเมือง ก็ยังพอทำใจ

แต่แทนที่จะเปลี่ยนแบบเคารพธรรมชาติบ้าง กลับปลูกอาคารบ้านช่องและร้านค้าแบบอหังการ

ทั้งขวางทางน้ำ ทั้งเห็นตะวันตกปลูกราบพื้น ก็ปลูก “แบบนดิน” อย่างเขาบ้าง ของเขาพื้นที่สูง มีหิมะ ไม่มีฤดูฝน แต่ของเรา พื้นที่ราบลุ่ม แถมมีฝน

มันก็ต้อง “มิดหัว” แทบทุกปีอย่างนี้แหละ

คุณสมพงษ์ดีดจมูกสั่งสอนโฆษกีนางนี้ทีเถอะ ปล่อยให้ด่าแบบงั่งๆ แต่ละวัน พรรคที่ตกอยู่แล้ว จะต่ำลงไปอีก

ต้องเข้าใจ…
“กัลยาณี” กับ “กาลกิณี” ลงท้าย ณีๆ เหมือนกันก็จริง

แต่ให้ดอก “คนละดอก” กันนะ!

Written By
More from plew
ข้อคิดคำนึงจาก “คำพิพากษา”
ยุติธรรม “ที่รอคอย” มา ๙ ปี คดีก่อการร้าย ปี ๕๓ ซึ่งมี ๒๔ แกนนำนปช.เป็นจำเลย ที่ชาวบ้านเรียก...
Read More
0 replies on “นายกฯ “ยิ่งถูกด่า-ยิ่งเด่น”-เปลว สีเงิน”