“จุรินทร์” ระบุ “ประชาธิปัตย์” กำลังใจดี เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ เดินหน้า เปิดตัวคนรุ่นใหม่ ทวงคืน ส.ส.ภูเก็ต ยกทีม

“จากการลงพื้นที่ในทุกภาค ทุกคนก็พูดตรงกันว่าวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังเป็นการเดินขึ้น ไม่ใช่เป็นการเดินลง เพราะฉะนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนก็มีกำลังใจ สมาชิกคนเก่าๆ ก็กลับพรรค คนรุ่นใหม่ก็เข้ามาเติม ให้เรามีพลังมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าพาพรรคประชาธิปัตย์ไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มกำลังให้มากขึ้นในอนาคตต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ส่วนเรื่องผลงานประชาธิปัตย์นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่าประชาชนตอบรับมากขึ้น และประชาธิปัตย์มีผลงานเป็นรูปธรรม เป็นที่ประจักษ์ อย่างน้อย 2 เรื่องที่ เราได้กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล คือ 1. การประกันรายได้เกษตรกร 2. เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้อย่างน้อย 2 เรื่องนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการให้เห็นผลสัมฤทธิ์เป็นจริงได้ ซึ่งนโยบายประกันรายได้นั้นสามารถทำได้สำเร็จภายใน 4-5 เดือน ก็สามารถโอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรได้ จึงเป็นที่มาที่มีการพูดกันว่า “ประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ ทันสมัย ทำได้ไวทำได้จริง” ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น แม้จะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่วันนี้ก็ปรากฏชัดเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าอย่างน้อยที่สุดการแก้รัฐธรรมนูญก็สามารถผ่านความเห็นชอบในวาระที่สามไปได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคเล็กจะยื่นตีความรัฐธรรมนูญนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่เป็นไร ซึ่งก็ได้เรียนไปแล้วว่า ถ้าสามารถรวมเสียง ส.ส. ได้ 1 ใน 10 หรือประมาณ 40-50 เสียง หรือรวมเสียง ส.ว. ประมาณ 24-25 เสียง ถ้าเป็น ส.ส. กับ ส.ว. ร่วมกัน 70 กว่าเสียง ก็สามารถยื่นได้ และในส่วนของตนนั้นก็ไม่มีความกังวล เพราะเป็นเงื่อนไข และกระบวนการที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีก็ได้ว่าจะได้ไม่ต้องคาใจว่าจะดำเนินการไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

“สำหรับผมนั้นผมมั่นใจ เพราะทุกประเด็นได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการพิจารณาโดยชอบ ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่การลงมติร่วมกันในวาระที่สามไม่ได้ และระหว่างทางก็มีการเสนอญัตติเพื่อให้ดำเนินการ 1-2-3-4-5 แต่สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่พิจารณาแล้วก็เห็นตรงว่าสามารถดำเนินการได้ และทุกอย่างเป็นโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

สำหรับเรื่องการผลักดันกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของประชาธิปัตย์ได้มีการประชุม ส.ส. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็มีมติในการตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อยกร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ได้มีการผ่านความเห็นชอบวาระสามไป เพื่อที่ว่าเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ก็จะได้เดินหน้ากฎหมายลูกได้ทันที

ส่วนแนวทางการร่างกฎหมายลูกของพรรคเพื่อไทย ที่จะให้ใช้แบบพรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนก็เห็นด้วย จะได้สร้างความสับสน และถ้าบัตร 2 ใบ เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ก็จะง่ายต่อการที่ประชาชนจะเลือก ไม่อย่างนั้นก็อาจจะสับสนได้ เขตนึงก็เบอร์นึง การหาเสียง การชี้แจงกับประชาชนก็ยากลำบาก เพราะจะสับสนกันในแต่ละเขต ซึ่งในอดีตเราก็เคยทำมาอย่างนี้ที่เป็นเบอร์เดียวกันทั่วประเทศ และเป็นการเสริมสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งขึ้น เพราะพรรคจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น พรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นรูปแบบไหนก็ตามที่นำไปสู่การทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่น ปปช. ให้พิจารณาถึงการที่มี 4 รัฐมนตรีอาจพัวพันกับการทุจริตนั้น รองนายก กล่าวว่า ตนไม่กังวลอะไร เพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาก็เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร สามารถชี้แจงได้ชัดเจนครบถ้วนทุกประเด็น ไม่มีประเด็นอะไรที่สภา หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปสงสัย เพราะฉะนั้นการจะยื่นให้ ปปช. ตรวจสอบก็สามารถทำได้ และไม่มีอะไรน่ากังวล