“องอาจ” เชื่อ ส.ว. โหวตผ่านแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม

8 ก.ย. 2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ส.ว.บางส่วนจะลงมติไม่ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสามว่า เป็นสิทธิของ ส.ว. แต่ละท่านว่าจะลงมติอย่างไรก็ได้ แต่เชื่อว่า ส.ว.ที่เคยลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 และลงมติเห็นชอบกับการแก้ไขในวาระที่ 2 มาแล้ว จะลงมติในวาระที่สามไปในทิศทางที่เคยลงมติมาแล้ว ยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ จาก ส.ว. ที่เคยลงมติเห็นชอบในวาระที่ 1 และวาระที่ 2 จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น

ส่วนที่ ส.ว. บางท่านกังวลว่าถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจะมีพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคได้เปรียบจะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าแบบแลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอาจจะเป็นไปอย่างที่คาดการณ์หรือไม่ก็ได้ อย่างไรก็ดีทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทุกพรรคก็พยายามชนะเลือกตั้งให้ได้เสียงมากที่สุดอยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกพรรคไหนให้ได้เสียงข้างมากพอจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งในระบอบประชาธิปไตย เราต้องเคารพเสียงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ถ้ามองการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องวิธีการเลือกตั้งโดยคำนึงถึงการได้เปรียบเสียเปรียบ ทุกวิธีจะมีบางพรรคการเมืองได้เปรียบ บางพรรคการเมืองเสียเปรียบกันทั้งนั้น
การที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องวิธีการเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวมาเป็นบัตร 2 ใบ ที่เสียงส่วนมากในรัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 และวาระที่ 2 มาแล้วนั้น เราไม่ได้คำนึงถึงเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบจากการเลือกตั้งแต่เราคำนึงถึงเรื่องแก้ไขแล้วประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นหรือไม่มากกว่า
พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าการเลือกตั้งโดยใช้บัตรใบเดียวทำให้ประชาชนไม่สามารถแสดงออกถึงเจตจำนงในการเลือกตั้งได้อย่างเสรี เพราะในแต่ละเขตเลือกตั้งประชาชนจะถูกบังคับให้ใช้บัตรใบเดียวเลือกทั้ง ส.ส. เขต และเลือกพรรคในครั้งเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ประชาชนบางส่วนอาจชอบพรรคแต่ไม่ชอบคนที่ลงสมัคร หรือชอบคนที่สมัครแต่ไม่ชอบพรรค ก็ต้องจำใจเลือก แต่ถ้าใช้บัตร 2 ใบ ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงได้อย่างเสรีที่จะเลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบได้อย่างอิสระ
เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจากใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวมาเป็นบัตร 2 ใบ จึงไม่ใช่การแก้ไขเพื่อประโยชน์ของพรรค แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชนมากกว่า
ถ้าคิดว่าแค่ประโยชน์ของพรรคในปัจจุบัน การใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มีนัยยะที่จะได้เปรียบอะไร บัตรใบเดียวอาจจะได้เปรียบมากกว่า แต่เราคิดถึงหลักการประชาธิปไตยที่ให้ประชาชนมีทางเลือกอย่างเสรี และสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งเพื่อเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตยต่อไป

Written By
More from pp
เคที ซีมิโก้ รีแบรนด์เป็น “กรุงไทย ซีมิโก้” มีผล 17 มกราคม นี้
ผู้ถือหุ้น บล. เคที ซีมิโก้ มีมติเอกฉันท์ เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็น บล. กรุงไทย ซีมิโก้ และใช้ชื่อย่อเป็น KTZ เพื่อความชัดเจนเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์...
Read More
0 replies on ““องอาจ” เชื่อ ส.ว. โหวตผ่านแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม”