รมว.ยุติธรรม แย้มยังไม่โยกย้าย ผบ.เรือนจำ จนกว่าจัดการสถานการณ์โควิดเรียบร้อย กำชับรีบให้ยาฟ้าทะลายโจรนักโทษติดโควิด-กลุ่มเสี่ยง เตรียมสต็อกของให้พร้อม มอบโรงพยาบาลราชทัณฑ์ศึกษาการผลิตฟ้าทะลายโจร-ขอใบอนุญาต พร้อมทำคู่มือการใช้แบบเข้าใจง่าย
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำ โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข รักษาการแทน ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และผู้บริหารเข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การรักษาและป้องกันผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดขอให้ทุกท่านเอาใจใส่ทุกอย่างจะจบเพราะเรามีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว เราต้องให้ยาฟ้าทะลายโจรแก่ผู้ต้องขังทันทีหากมีความเสี่ยงหรือสงสัยว่าจะติดเชื้อ เพราะขณะนี้เรามียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในสต็อกเพียงพอในการใช้ รวมถึงการเพาะปลูกในเรือนจำต่างๆ ที่รอการเก็บเกี่ยว วันนี้ต้องควบคุมให้ดีเราเหนื่อยกันมามากพอแล้ว และเราจะยังไม่มีการโยกย้ายตำแหน่งผู้บัญชาการเรีอนจำต่างๆ ในช่วงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอีก 1-2 เดือนนี้ จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง การทำงานต้องสัมฤทธิ์ผลต้องทำให้ดีทั้งหมด หากโยกย้ายคนที่ทำงานเรียบร้อยไปในที่ไม่เรียบร้อยจะถือว่าไม่เป็นธรรม ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าตนไม่อยากให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเยอะ ตรงนี้ไม่ใช่ว่าตนให้ปกปิดข้อมูล แต่ความต้องการคือไม่อยากให้คนติดเชื้อเยอะ ใครเสี่ยงเราต้องรีบให้ยาทันที
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนขอให้หน่วยงานแพทย์จัดทำคู่มือการใช้ยาและการรักษาให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย สั้นกระชับ เพื่อให้เรือนจำต่างๆปฏิบัติได้โดยเร็ว นอกจากนี้ในส่วนของการผลิตยาฟ้าทะลายโจร ตนขออยากให้ทำในนามโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขอให้ ผอ. ไปศึกษาวิธีการและขออนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนการปลูกขณะนี้ได้รับรายงานว่า ปลูกทั้งหมด 207 ไร่ มียาฟ้าทะลายโจร รวมทุกเรือนจำ 8 ล้านกว่าแคปซูล ซึ่งตนได้รับรายงานจาก ป.ป.ส. ว่าจะใช้กองทุนแม่ของแผ่นดินหมู่บ้านละ 9,000 บาท ซึ่งช่วงสถานการณ์โควิดไม่ได้ใช้กองทุนนี้ดำเนินการ มาช่วยดำเนินการให้มีการปลูกฟ้าทะลายโจร 1,000 หมู่บ้าน ๆ ละ 1 ไร่ เพื่อเป็นการเสริมและเป็นการนำร่องให้หมู่บ้านต่างๆ โดยกรมราชทัณฑ์มีแม่พิมพ์และแคปซูล อาจจะช่วยบรรจุแล้วแบ่งให้ชาวบ้านใช้ด้วย
จากนั้นที่ประชุมได้วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเกษมศานต์ บุญญจินดา นิลวงศ์ ผบ.เรือนจำ เข้าร่วมประชุม โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดศึกษารายกรณี (Case Study) เพราะขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งตนคิดว่าในช่วงแรกที่เชื้อแพร่ระบาดยาฟ้าทะลายโจรอาจจะมีไม่เพียงพอ แต่ทุกอย่างถือว่าทำดีแล้วแต่ให้ยากับผู้ติดเชื้อช้าไป ซึ่งยาฟ้าทะลายโจรต้องรีบกินทันที ไม่เหมือนกับยาฟาวิฟิลาเวียร์ที่ต้องกินภายใน 3-5 วัน ดังนั้นหากใครมีอาการและสุ่มเสี่ยงจะติดเชื้อให้กินยาฟ้าทะลายโจรทันที และทางหมอ พยาบาลต้องสั่งการให้ชัดให้ง่ายต่อผู้ปฏิบัติ และหากเรือนจำไหนพบกลุ่มเสี่ยงแปลกๆให้รีบดำเนินการให้เร็ว
ด้านนายเกษมศานต์ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดทำตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ ส่วนข่าวลือที่ว่าเราปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ โควิดออกไปไม่เป็นความจริง ยังกักตัวไว้ที่สถานพยาบาลรักษาตัวรอให้หายก่อน และดำเนินการตามมาตรฐานสาธารณสุข เรื่องนี้เป็นเฟคนิวส์เราจะดำเนินการเอาผิดในเรื่องนี้ด้วย
ต่อมานายสมศักดิ์และคณะได้รับมอบยาฟ้าทะลายโจร โดยมี นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการบริษัทยาอินไทย ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยันฮี จำนวน 20,000 กระปุก หรือ 1.2 ล้านเม็ด เพื่อนำไปใช้รักษาอาการโควิดแก่ผู้ต้องขังทั่วประเทศ