พระผู้พระคุณคู่แผ่นดิน – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

วันนี้ “วันแม่”
วันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๙ พรรษา ณ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔ นี้

แม้มีหมื่นแสนคำกล่าว ว่ามากแล้ว….
ที่จะใช้กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง อันทรงมีด้วยพระพากเพียรต่อไทยประเทศและพสกนิกร
แต่กับศักดิ์ศรีประเทศที่ดำรงและแผ่นดินสร้างสุขพสกสู่สากลยั่งยืนถึงวันนี้
หมื่นแสนคำที่ว่านั้น กลับน้อยเกินไปทันที!

ในการถวายพระพรชัยมงคลวันนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ได้รับรู้และนำไปคิดใคร่ครวญกัน
จึงขอนำที่ “ดร.สมเกียรติ โอสถสภา” สรุปบันทึกไว้เมื่อ ๑๓ ตุลา.๖๑ มาเพื่อแสดงถึงความระลึกรู้ด้วยภักดี ดังนี้
…………………………
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พาไทยพ้นวิกฤตสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดย ดร.สมเกียรติ โอสถสภา
………………………….
“พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กับการต่างประเทศ บุญวาสนาของคนไทยและประเทศไทยในสถานการณ์ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒
เมื่อนักข่าวต่างชาติถามในหลวงว่า ทำไมจึงไม่ค่อยยิ้ม ทรงชี้ไปที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ แล้วบอกว่า That is my Smile”
…………………………
สงครามโลกครั้งที่สองจบลง
หลังจากนั้น ก็เป็นเวลาซ่อมเศรษฐกิจและจ่ายหนี้มหาศาลของคนไทย
หนี้สงครามเยอะมาก ต้องจ่ายข้าวให้อังกฤษ ๓ ล้านตัน
มีสัญญาห้ามขุดคอคอดกระด้วย

ค่าเงินก็อ่อน ไม่มีรายได้ ญี่ปุ่นมาพิมพ์เงินฟรีไปมาก สมัย ร.๔ หนึ่งบาทเท่ากับหนึ่งปอนด์เชียวนาครับ
เอาว่าก่อนปี ๒๕๐๐ ประเทศไทยจนมาก แร้นแค้น ไม่มีถนน ไฟฟ้า น้ำประปา โรงพยาบาล หมอ พยาบาล โรงเรียน
คือมีบ้างเป็นบางที่ คนส่วนใหญ่อาศัยกระต๊อบหลังคามุงจาก
มีปัญหาว่าข้าวจะไม่พอกิน ไก่ หมู เป็นของหายาก ใช้หนี้กันยาวนาน
………………………..
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ในปี ๒๔๘๙ ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
อันตรายจากคนในรัฐบาล บ้างก็แนวฮิตเลอร์ บ้างก็แนวบอลเชวิก
ทรัพย์สิน เช่น ที่ดินของพระมหากษัตริย์แถวรอบวังสวนจิตร สามเสน ศาลาแดง สีลม ถูกเอาไปขายแบ่งกัน

สถิติปี ๒๕๐๓ ที่ฝรั่งมาสำรวจให้ UN Escap ไทยมีรายได้ต่อหัวต่ำสุดในเอเชีย ต่ำกว่ามาเลย์ ๔ เท่า
ต่ำกว่าเวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์
แค่ ๒,๐๐๐ บาทต่อคนต่อปี
ต่ำกว่าญี่ปุ่น ๘ เท่า ญี่ปุ่นสร้างเครื่องบิน เรือรบ เหล็ก เป็นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๑ แล้ว
……………………….
รัชกาลที่ ๙ ในหลวงของเรา ทรงพลิกฟื้นสถานะไทยกับต่างประเทศ
………………………
สถานการณ์ยุคนั้น คือ
………………………
ไทยต้องการมิตรประเทศเพื่อมาป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามรอบบ้าน
ไทยต้องการเงินเพื่อมาลงทุนสร้างถนน น้ำ ไฟฟ้า เขื่อนกันน้ำท่วม การศืกษา โรงพยาบาล
ไทยต้องการให้มีการลงทุนสร้างอุตสาหกรรม และบริการ ขยายการเกษตร สร้างงานให้คน

ไทยต้องการการยอมรับนับถือจากต่างชาติ ให้คนลืมสงครามโลกครั้งที่สอง
ไทยต้องการพัฒนาให้เท่าเทียมประเทศเพื่อนบ้าน
ในหลวงเสด็จประพาสประเทศในตะวันตก ๑๔ ประเทศ หกเดือนเต็ม พร้อมพระราชินี มี มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นแม่กองจัดการ

ท่านผู้นี้ เป็นแม่กองจัดการเสด็จต่างจังหวัดด้วย
โชคดีของคนไทย
……………………..
พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ตรัสได้หลายภาษาอย่างดีมาก ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน เข้าใจขนบ วัฒนธรรม และทรง witty แบบฝรั่ง ทั้งความสง่างาม ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แพ้ใครในโลก
………………………
ทรงน่าเกรงขาม แต่นุ่มนวล และเป็นมิตร ไม่มีคนไทยคนไหนทำได้ขนาดนั้น
……………………….
การที่ทรงศึกษาที่สวิสนั้น คนยุโรปและอเมริกาถือว่าสุดยอดแห่งอารยธรรม, เป็นสังคมที่สร้างคนที่เข้าใจอารยธรรมหลากหลาย
……………………….
ทั้งสองพระองค์มีพระบุคลิกภาพที่เป็นที่ชื่นชมของคนในทุกประเทศ สมเด็จพระนางเจ้านั้น ได้ชื่อว่าเป็นพระราชินีที่สวยที่สุดในโลก
รูปถ่ายลงปกหนังสือพิมพ์ ออกทีวีกันมากมาย ตอนนั้นผมเป็นเด็ก ภูมิใจมาก
……………………….
ทั้งสองพระองค์นั้นทรงเป็นนักการต่างประเทศ และนักการทูตที่ยอดเยี่ยมมากที่สุด ประสบการณ์นะครับ
ทรงมีพระ nobility มาก การเสด็จเยือนจึงได้ความเคารพนับถือจากประมุขประเทศ หัวหน้ารัฐบาล รัฐบาล ต่างประเทศ

และที่สำคัญประชาชนของประเทศนั้นๆ ออกมารอรับกันเนืองแน่น ต้อนรับใหญ่โตมากๆ ข่าวกระจายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
ในยุคนั้นสถาบันกษัตริย์ในยุโรปสูงส่งมาก นี่เป็นคุณต่อประเทศไทยที่มีสถาบันกษัตริย์
……………………..
จากการเสด็จเยือนของทั้งสองพระองค์ ต่อมาประมุข และหัวหน้ารัฐบาลเหล่านั้นก็มาเยือนประเทศไทยอีก ชื่อประเทศไทยปักสง่างามบนแผนที่โลก
……………………..
ต่อมา ทรงเสด็จเยือนประเทศในเอเชีย เมื่อทรงได้รับมาตรฐานระดับสูงลิ่วนั่น แถวเอเซียก็ต้อนรับยิ่งใหญ่มาก เชิงแข่งนิดๆ
………………………
คนไทยภูมิใจกันสุดๆ นี่คือการทูตที่ดีที่สุดของไทย
………………………
ยุคโลกสองขั้ว พระองค์ท่านช่วยให้ประเทศไทยยืนถูกข้าง ไม่ล้ม
สมัยพวกผมเรียนมหาวิทยาลัย ประธานาธิบดี กษัตริย์ หัวหน้ารัฐบาลต่างๆ จะมา เมืองไทยกันถี่ยิบ

สมเด็จพระนางเจ้าจะทรงตรัสในหอประชุมว่า “ข้าพเจ้าจะมีแขกมาเยือน ช่วยกันหน่อยนะ”
พวกผมก็ได้ทำประโยชน์เช่นไปยืนเข้าแถวรับบ้าง แปรอักษรบ้าง นั่งปรบมือในหอประชุมบ้าง

ใครมากล่าวหาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแบบไม่รู้เรื่อง คนไทยโกรธ เพราะพวกเราถือว่าเป็นงานของเราคนไทยทั้งชาติ ที่ช่วยกันทำ
………………………….
ประเทศไทยได้อะไร
…………………………
ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เรื่องไทยเป็นประเทศแพ้สงครามโลกครั้งที่สองร่วมกับญี่ปุ่น เยอรมัน อิตาลี หายไป
มีเงินช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา พร้อมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เขื่อนเจ้าพระยายุคนั้น ๓,๕๐๐ ล้านเอง ทุนเรียนนอกเยอะมาก

ตลาดสินค้าเปิด มีการลงทุนเข้ามามาก ตั้งแต่นั้น
การท่องเที่ยวก็เริ่มจากราว ๑ ล้านคน มาจนปัจจุบัน

เป็นยุคของการฟื้นฟูอารยธรรม วัฒนธรรม อวดแขกเมือง แพร่ไปทั่วโลก
เป็นยุคที่ประมุขต่างประเทศเสด็จเยือนต่างจังหวัด เช่นเชียงใหม่ จนกลายเป็นเมืองระดับโลก
เป็นจุดเริ่มต้นของการมาทำข่าวประเทศไทยไปทั่วโลกครับ
…………………………..
คนรุ่นผม เรียนรู้จากการช่วยงานพระองค์ท่านกันทั้งประเทศ
เราจึงภูมิใจมาก ที่พระประมุขของเราทรงฉลาด เยี่ยมยอด เปี่ยมความสามารถ
วันนี้ สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเป็นพระราชินีผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลกนะครับ
ความลับที่ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี เกิดอาเซียน ๑๐ มั่นคงมานาน เพราะในหลวงครับ

จีนบอกว่า ทรงเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองแผ่นดิน
พระจักรพรรดิญี่ปุ่นนั้น ใกล้ชิดกับพระราชวงศ์ไทยมาก การลงทุนญี่ปุ่นจึงมากันเพียบ
ประธานบริษัทใหญ่ๆของญี่ปุ่นตัดสินใจลงทุนทันทีที่ได้เข้าเฝ้า
ทรงปิดทองหลังพระให้คนไทยมากมายจริงๆ
……………………….
ผู้ที่กระทำการชั่วร้ายให้สถาบันเสียหายคือ การทำลายชาติครับ
เห็นทำกันมาหลายปี

กราบขอพระอภัยโทษพระองค์ท่านน่ะ ถูก แต่ความเสียหายต่อประเทศและประชาชน เอาคืนมาไม่ได้แล้ว
ที่น่าประหลาด คือ ทั้งสองพระองค์ไม่เคยพูดว่าทรงทำอะไรให้ประเทศมากมายมหาศาลขนาดไหน
ทรงปิดทองหลังพระ
…………………………….
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กับการต่างประเทศ บุญวาสนาของคนไทยและประเทศไทย ในสถานการณ์ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒
เมื่อนักข่าวต่างชาติถามในหลวงว่า ทำไมจึงไม่ค่อยยิ้ม
ทรงชี้ไปที่สมเด็จพระนางเจ้า แล้วบอกว่า
That is my Smile.
……………………………….
ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง” ๑๒ สิงหาคม นี้
ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองคทรงพระเจริญ มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า เปลว สีเงิน หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์.

Written By
More from plew
คราถึงบท “หนุมานคลุกฝุ่น”
“ข่าวลือ-ข่าวลวง-ข่าวดรามา” คือ “อาหารประจำชาติ” ของคนยุค “สื่อสารโซเชียล” นิยมบริโภค นายกฯ วางเบ็ดราวไว้ ๒-๓ วลี เมื่อวาน(๘ สค.๖๒)...
Read More
0 replies on “พระผู้พระคุณคู่แผ่นดิน – เปลว สีเงิน”