ม็อบบ่อนทำลาย-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ทุบสถิติรายวัน

            ไม่ใช่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดครับ

แต่เป็นเฟกนิวส์

            ม็อบสามนิ้วเมื่อวันอาทิตย์ ได้เกิดปรากฏการณ์ความล่มสลาย ในความเชื่อเรื่องการต่อสู้ด้วยสันติวิธี ของมนุษย์บางกลุ่มไปอย่างถาวร 

            หลายคนพากันชื่นชม โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผมเองก็ชื่นชมครับ

            ไม่ได้ชื่นชมเพราะเข้าทาง

            แต่ชื่นชมเพราะ การแยกแยะถูก-ผิด ไม่ไหลไปตามกันจนสุดท้ายไม่รู้ว่าไหลไปไหนเหมือนอย่างที่ม็อบสามนิ้วเป็นอยู่ในตอนนี้

            เอาเข้าจริงแทบไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะมีการแชร์คลิปการชุมนุม การเผา ว่อนไปหมด

            แต่มีคนทำให้ซับซ้อน ด้วยการเล่าเรื่องไม่หมด

            และ โบว์ เธอเล่าเรื่องนี้จากข้อเท็จจริง ผ่านเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana

            “…..ใครงงเรื่อง Foodpanda ไปดูต้นเรื่องพร้อม VDO คลิปได้ทาง thread นี้ (เป็นบทสนทนาต่อเนื่องของคนที่ไปถามหาความรับผิดชอบจาก lineman และ foodpanda จนถึงคำตอบบริษัทค่ะ)

            คลิป ๑ คนใส่เสื้อติดโลโก้ไลน์แมนเผารูปประดับริมถนน ตำรวจจราจรวิ่งมาห้าม https://twitter.com/enpeespace/status/1416709068220108800…

            คลิป ๒ เผากองสิ่งของข้างรถที่ติดอยู่ https://twitter.com/enpeespace/status/1416709424756891649…

            คลิป ๓ ขึ้นรถที่ถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก มีกล่อง Foodpanda อยู่บนเบาะหลัง ก่อนขับออกไป https://twitter.com/enpeespace/status/1416709979034161153…

            คำตอบจากบริษัท https://twitter.com/foodpan…/status/1416721274743578625…

            ** ขอสนับสนุนให้ใส่ลิงก์ต้นทางทุกครั้งที่แชร์เรื่องราวใดๆ เพื่อให้ทุกคนใช้วิจารณญาณกันได้จากข้อมูลและบริบทที่ครบถ้วนค่ะ **…….”

            นั่นทำให้ เฟซบุ๊กของโบว์ ร้อนฉ่าครับ

            มีคนเข้าไปตำหนิเธอจำนวนมาก

            ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าเป็นคนกลุ่มไหน

            แต่ผมชื่นชมในความพยายามอธิบายให้เห็นข้อเท็จจริง ท่ามกลางเสียงด่าทอ

                “…ตอบคำถามค่ะ ว่า “แล้วจะให้ทำยังไง” นี่คือสเต็ปแรก

                การระดมคนออกไปในยามที่การติดเชื้อสูงระดับนี้ เป็นการบ่อนทำลายตัวเอง การปั่นความเกลียดชังด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เป็นการบ่อนทำลายตัวเอง การสื่อสารด้วยท่าทีและพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงในสายตาสังคม เป็นการบ่อนทำลายตัวเอง เพราะจะทำให้คนที่เขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางแบบนี้ถอยไปไกล เราทุกคนต่างรู้ดีว่าอะไรที่คนในสังคมไทยส่วนใหญ่รับได้และรับไม่ได้ค่ะ ต้องเข้าใจธรรมชาติและวัฒนธรรมของคนด้วย

                การรณรงค์คือการทำให้คนรับฟังเราได้มากขึ้น เห็นด้วยมากขึ้น เข้าร่วมมากขึ้น เพื่อสังคมที่ดีขึ้น “ไม่ใช่การคุยกันเอง เฮกันเอง” ต้องคุยกับคนอื่นรู้เรื่อง ไม่ใช่มาแบบหาเรื่อง

                ถามว่าที่ทำกันอยู่มันจะช่วยให้ไปถึงจุดนั้นได้ยังไง ผลลัพธ์ของการชุมนุมแบบเมื่อวานคืออะไร เอากิโยตินมาตั้ง เอาสีน้ำเงินมาราดที่ใบมีดกิโยติน เอาไพ่ King มาเผา เผาทรัพย์สินสาธารณะ เผาข้าวของข้างรถที่ติดอยู่ แล้วยังเที่ยวไปแบนคนที่เขาตอบว่าไม่สนับสนุนความรุนแรง คำว่าความรุนแรงของแต่ละคนมันไม่เท่ากันหรอก แต่ถ้าคุณรณรงค์เรื่องของสังคม ก็ต้องฟังสังคมด้วย หมายถึงฟังคนที่เหลือ ไม่ใช่ฟังกันเอง

                ลองคิดดูว่าขนาดเราซึ่งเป็นเสรีนิยมพอสมควร ยังคิดแบบนี้ คนที่เหลือที่เค้าเงียบๆ อยู่เค้าจะคิดยังไง รู้สึกยังไง อยากเลือกยังไง

                ถามว่าจะรณรงค์ยังไงให้ได้ผล ก็ต้องเริ่มจากการเข้าใจความหมายและเป้าหมายของการรณรงค์ก่อนค่ะ ว่าไม่ใช่เพื่อความสะใจ ต้องใช้เหตุผล และความอดทนในการคุยกับสังคม

                คุณจะมาอ้างว่าคนหมู่มากย่อมมีการระบายอารมณ์มันไม่ได้ เพราะคนจัดมันออกแบบได้ว่าจะให้คนมีความรู้สึกระดับไหน โทนของการสื่อสารมันปูทางมาก่อนวันชุมนุมแล้ว ลองเทียบม็อบพี่หนูหริ่งกับม็อบรีเดมดู

                แล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง ก็ลองไล่สเต็ปไปดูค่ะ หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ จะมีผลอะไรบ้าง ถ้าไม่นับผลบวกจากเชื้อโควิด…”

            ต้องยกนิ้วให้ครับ

            บอกตรงๆ ผมยังอธิบายกรณีนี้ให้ดีเท่า โบว์ อธิบายไม่ได้ สังคมต้องการคนแบบนี้ครับ

            การชุมนุมไล่รัฐบาล การแสดงออกเพราะความเห็นต่าง เป็นเรื่องสุดแสนจะธรรมดาในสังคมประชาธิปไตย

            แต่ทุกเรื่องมันจะมีบริบทของมันเอง

            ผมเองไม่ได้เห็นด้วยกับโบว์ทุกเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ค้านไปทุกเรื่องเช่นกัน

            ถ้าจะเป็นศัตรู ก็เป็นศัตรูที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน

            ผมรู้สึกแปลกใจกับบรรดาแกนนำสามนิ้วที่พากันแบน foodpanda หลังบริษัท foodpanda ให้พนักงานของตัวเองออก เพราะวางเพลิงที่สาธารณะ

            ผมยังไม่เห็นว่า บริษัท foodpanda ผิดอะไรกับแถลงการณ์ที่ออกมาระบุว่า มีนโยบายต่อต้านความรุนแรงและการก่อการร้ายทุกรูปแบบ

            ว่ากันตามเหตุผล ข้อเท็จจริง แกนนำสามนิ้วควรจะเป็นฝ่ายถูกตำหนิอย่างรุนแรงมากกว่า

            เพราะสาเหตุการแบน foodpanda อ้างแค่ว่า “น้องไปชุมนุม ผิดอะไร” ไม่ยอมพูดถึงการ “เผา”

            ไปชุมนุมเกิน ๕ คนวันนี้ ละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  แต่ในสังคมประชาธิปไตยพออนุโลมได้

            แต่ที่ผิดเต็มๆ คือ ไปเผา ไปสร้างความรุนแรง

            หรือพยายามจะสร้างวาทกรรม “เผาไปเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” ขึ้นมาใหม่

            ถามว่า แกนนำสามนิ้วรู้หรือเปล่าว่ามีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ 

            รู้กันทุกคนแหละครับ แต่ก็ยังไปราวี foodpanda

            ก็ลักษณะเดียวกันกับการเที่ยวไประรานให้ ดารา นักร้อง Call out

            ใครไม่ Call out ก็พาทัวร์ไปลง

            เมื่อวันอาทิตย์ใครร่วมชุมนุมบ้าง

            กลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) กลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่ ขบวนการริมสระ คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง (DemHope) เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ราษฎรมูเตลู กลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย สหภาพคนทำงาน สหภาพไรเดอร์ SUPPORTER THAILAND

            แกนนำเท่าที่ปรากฏในข่าว มีดังนี้

            น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์

            น.ส.พริม มณีโชติ

            นายธัชพงศ์ แกดำ

            ศูนย์กลางบัญชาการอยู่ที่ ไอ้โม่ง ในเพจเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH)

            แม้จะบอกว่ายุติชุมนุมแล้ว แต่ม็อบอารมณ์ค้างไม่ยอมเลิก คงเอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้

            เพราะอ้างมาแบบนี้หลายรอบแล้ว

            ขอให้โชคดีแคล้วคลาดจากคุกและโควิด.

Written By
More from pp
“พุทธิพงษ์” จัดระเบียบสายสื่อสารลงดิน ชูกรุงเทพฯมหานครอัจฉริยะ
วันที่ 16 ธันวาคม 2563- นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงตรวจพื้นที่มอบนโยบายจัดระเบียบสายสื่อสารของ บมจ.ทีโอที
Read More
0 replies on “ม็อบบ่อนทำลาย-ผักกาดหอม”