สันติ อิ่มใจจิตต์
นักชิมรุ่นเก่าๆ ที่ชื่นชอบอาหารไทยโบราณแบบชาวบ้านแท้ๆ โดยเฉพาะคออาหารป่าจะต้องรู้จักร้านนัดพบ อยู่ที่หน้าตลาดจังหวัดนนทบุรีได้เป็นอย่างดี เพราะที่ร้านนี้มีอาหารป่าแท้ๆ ตั้งแต่ เก้ง กวาง หมูป่า แย้ ตะพาบน้ำ งูเห่า ฯลฯ
โดยเฉพาะดีงูเห่าเอามาดองแล้วบีบใส่เหล้ากระดกลงคอกรึบๆ ว่ากันว่าทำให้สร้างพลัง แต่พอมีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและมีการอนุรักษ์ธรรมชาติ อาหารป่าที่ผิดกฎหมายทางร้านก็เลิกขาย แต่ก็ยังมีบางเมนูที่ได้ดัดแปลงจากเดิม
เช่น ผัดเผ็ดงูเห่าก็ใช้กระดูกอ่อนของหมูแทน ทำให้มีรสชาติอร่อยกว่าด้วยซ้ำไป
ผู้ก่อตั้งร้านคือ คุณวีระ และ คุณปราณี จรดล เปิดร้านนัดพบมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 จนถึงรุ่นปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3
ได้ย้ายร้านจากที่เดิมมาอยู่ที่ปัจจุบันโดยมี คุณรัชสิทธิ์ สุขชุ่ม ที่เรียนจบธุรกิจร้านอาหารจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเป็นผู้บริหารร้าน แต่ก็มีคุณยายคือ คุณปราณี และคุณแม่คือ คุณณิชานันท์ คอยช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนบรรดาแม่ครัวฝีมือจัดจ้านแบบชาวบ้านแท้ๆ ก็อยู่ด้วยกันอย่างครบครัน เพราะเป็นพี่ๆ น้องๆ กันทั้งนั้น
จอดรถแล้วเดินเข้าไปภายในร้านจะพบการคัดกรองไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีถุงมือให้ใส่จับภาชนะ เห็นตู้กระจกใส่แกง ใส่ผัดต่างๆ ที่ทำออกมาใหม่ๆ ลานตาไปหมด ทำให้ต้องกลืนน้ำลายหลายครั้ง เพราะแต่ละอย่างน่ากินไปเสียทั้งนั้น
อาหารที่นี่จะเป็นแบบให้ช่วยตัวเอง สั่งอาหารอะไรพนักงานก็จะตักใส่ถาดให้เรายกไปชำระเงิน โดยมีป้ายบอกราคาให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอาหารที่ใส่จานแต่ละสีมีราคาเท่าใด ส่วนน้ำดื่ม น้ำแข็ง ฟรีครับ
อาหารกินเล่นๆ ที่ขอแนะนำให้สั่งมาชิม ก็เช่น
หมูสะเต๊ะ ที่นี่จะเป็นหมูสะเต๊ะแบบชาวบ้านแท้ๆ เป็นสูตรของทางร้านโดยเฉพาะ จะไม่แล่ให้เนื้อหมูบางติดไม้เหมือนบางร้าน ที่นี่จะเป็นเนื้อหมูเต็มชิ้น หมักแล้วย่างจนสุกพอดี ยกออกมาพร้อมน้ำจิ้มและอาจาดที่ทำใหม่ๆ รสชาติอร่อย เต็มปากเต็มคำ ที่ไม่น่าเชื่อเลย คือ ขายเพียงไม้ละ 8 บาท เท่านั้น
อาหารเด่นเป็นที่รู้จักกันดี ลูกค้าประจำมาถึงต้องสั่งจนขายดีอันดับ 1 แม้กระทั่งตัวของผมเอง ถ้ามีใครพูดถึงร้านนัดพบ ก็ต้องบอกทันทีว่า ปลาดุกทอดกรอบผัดพริก ที่ทางร้านเรียกว่า ปลาดุกนัดพบ อร่อยเป็นที่สุด
ซึ่ง คุณณิชานันท์ หรือ คุณอ้อย ทายาทรุ่นที่ 2 ได้เล่าให้ฟังว่าช่วงนี้บางครั้งก็มีบางครั้งก็ไม่มี เพราะต้องใช้แต่ปลาดุกท้องนาเท่านั้น และต้องเลือกแต่ปลาดุกตัวเล็กๆ ขนาด 6 ตัว กิโล เอามาทำความสะอาด ตัดหัวตัดหางทิ้ง ปลาดุก 5 กิโล เหลือไม่ถึงครึ่ง เอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วทอดให้กรอบเตรียมไว้ ตั้งกระทะปรุงพริกให้ได้สามรส
คือ หวาน เค็ม เผ็ด แล้วเอาปลาดุกลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว ปลาดุกจะกรอบนานกินได้ทั้งตัวรวมทั้งก้าง กินกับข้าวก็อร่อย ยิ่งกินเป็นกับแกล้มก็จะอร่อยเป็นอย่างยิ่ง ขอแนะนำว่า ขากลับซื้อกลับไปไว้กินที่บ้านจะได้อาหารอร่อยๆ อีกหลายมื้อครับ
สำหรับผู้ที่ชอบเนื้อก็ไม่น่าจะพลาด แกงเขียวหวานเนื้อ เพราะที่ร้านนัดพบนี้ แม่ครัวจะโขลกพริกแกงเอง ทั้งพริกแกงเผ็ด พริกแกงส้ม ทำสดๆ ใหม่ๆ โดยแม่ครัวจะนำเนื้อไปหั่นบางๆ แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิจนเนื้อนุ่ม นำไปแกงได้รสชาติเหมือนกับที่คุณแม่ผมเคยทำให้กินไม่ผิดเพี้ยนเลย
ผู้ที่ชื่นชอบน้ำพริก ขอแนะนำให้สั่ง น้ำพริกกระท้อน มาชิม เพราะเป็นน้ำพริกที่มีเฉพาะหน้านี้เท่านั้น จะมีรสหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ถ้าชอบเผ็ดมากก็กินกับแกล้มพริกขี้หนูสดๆ บวกกับแตงกวาสดๆ กรอบๆ และผักสดตามฤดูกาลอร่อยมากครับ
ยังมีเมนูอาหารแบบชาวบ้านโบราณอร่อยๆ อีกมากมายหลายอย่าง เพราะแต่ละวันคุณปราณีจะทำอาหารสดๆ ออกมาไม่ต่ำกว่า 35 อย่าง เช่น ผัดสายบัว ก็ไม่น่าพลาด หรือ แกงจืดกระดูกหมู หัวไชเท้า หัวไชโป๊ว สมัยนี้ก็แทบจะหากินไม่ได้แล้ว
ถ้าชอบ ก๋วยเตี๋ยว ที่ร้านนัดพบมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อพริกกะเหรี่ยงสูตรจากจังหวัดเพชรบุรี ที่ไม่เหมือนทั่วๆ ไป น้ำซุปเข้มข้น หอม เผ็ดลึก แต่รสชาติอร่อยมากครับ
อย่ามัวหลงระเริงกับของคาวจนอิ่มนะครับ ของหวานที่นี่หารสชาติอย่างนี้กินไม่ได้ง่ายๆ นัก เช่น ข้าวตอกข้าวเม่าน้ำกะทิ และมาเมืองนนท์ทั้งทีไม่ชิมข้าวเหนียวทุเรียนก็จะผิดไป อร่อยมากครับจนไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร รับประกันว่าจะอิ่มจนแทบลุกไม่ขึ้นอย่างผมครับ
อิ่มอร่อย ซื้อแกงซื้อน้ำพริกกลับบ้านแล้ว อย่าลืมเดินรอบๆ ร้าน จะเห็นป้ายต่างๆ ที่นักชิมเขียนให้ความนิยมไว้ มีทั้ง เชลล์ชวนชิม หมึกแดงไกด์ ฯลฯ และถ้าได้พบคุณปราณีผู้ก่อตั้งร้านที่มีอายุย่างเข้า 78 ปี นั่งขายทุเรียน ซึ่งในอดีตเคยได้รับรางวัลชนะเลิศทุเรียนนนท์มาแล้ว สอบถามคุยเรื่องเก่าๆ ก็จะได้ความรู้เรื่องในอดีตอีกมากครับ
ที่สำคัญร้านได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง มีบริการเดลิเวอรี่ให้สั่งจาก Lineman และ Robinhood ด้วย
สำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติของเนื้ออร่อยๆ คุณณิชานันท์มีลูกชายมาเปิดร้านขายเนื้อรมควันชื่อร้าน Pit Master เปิดขายให้ได้ชิมเฉพาะวันพุธ, วันศุกร์-อาทิตย์ เท่านั้นครับ
ชื่อร้าน นัดพบ
เจ้าของ คุณปราณี จรดล
สถานที่ ถนนพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี จากสะพานพระราม 7 ขับรถวิ่งตามถนนพิบูลสงครามไปเมืองนนทบุรี เลยโค้งวัดเขมาภริตารามไม่ไกลนัก จะพบร้านอยู่ริมถนนต้นซ้ายมือ มีที่จอดรถกว้างขวาง เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ เวลา 7.00-15.00 น. โทรศัพท์ 0-2525-2699