สตาร์ฟิช ดิจิทัล ยกให้อมิเลียเป็นตัวเลือกแห่งแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่สามารถสนทนาและจัดการระบบได้อย่างอัตโนมัติ
นิวยอร์ก – 7 พฤษภาคม 2564 – ในวันนี้ อมิเลีย (Amelia) ภายใต้บริษัทไอพีซอฟต์ (IPsoft) ผู้ให้บริการอิสระชั้นนำรายใหญ่ที่สุดในตลาดปัญญาประดิษฐ์สำหรับองค์กร ประกาศจับมือกับสตาร์ฟิช ดิจิทัล (Starfish Digital) บริษัทแนวหน้าด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และการบูรณาการเชิงดิจิทัลที่จะมาช่วยให้การทำธุรกรรมข้อมูลของคุณเป็นไปอย่างอัตโนมัติผ่านการผสานรวมระบบการทำงานแบบ B2B โดยทางสตาร์ฟิชได้เลือกใช้พนักงานดิจิทัลชั้นนำในตลาดอย่างอมิเลีย ในการให้บริการและพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับลูกค้าทางการเงินที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งทางบริษัทยังจะให้อมิเลียช่วยในเรื่องของการจัดสรรรายการเทคโนโลยีเพื่อให้การช่วยเหลือลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น
“สตาร์ฟิช ดิจิทัล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่โต้ตอบที่ชาญฉลาดที่สุดในตลาดอย่างอมิเลีย” แพทริก ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์ฟิช ดิจิทัล กล่าว “การทำงานร่วมกันนี้จะทำให้เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทต่าง ๆ ได้ด้วยการยกระดับการพัฒนาด้านดิจิทัลผ่านการออกแบบซอฟต์แวร์ภายใต้สถาปัตยกรรมระบบ”
“กลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันทางการเงินล้วนมีความต้องการที่จะสามารถทำธุรกรรมกับทางธนาคารได้ตลอดเวลาไม่ว่าจากที่ใดก็ตามผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ของพวกเขา” แพทริกเสริม “ความสามารถในการสื่อสารของอมิเลีย ควบคู่กับเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยซึ่งสามารถปรับใช้ได้อย่างมีไดนามิก รวมถึงช่วยป้องกันการล้มเหลวของเครือข่ายและสามารถคาดการณ์ได้ จะช่วยเติมเต็มความต้องการของตลาดในแง่ของโซลูชันทางการเงินแบบดิจิทัลที่มีความล้ำสมัยจากการรังสรรค์ของผู้เชี่ยวชาญ”
“เมื่อพูดถึงในเรื่องของกลยุทธ์นั้น หนึ่งในเหตุผลอันน่าสนใจที่เราตัดสินใจเลือกอมิเลียก็คือ ความสามารถในการใช้ภาษาได้หลากหลายของเธอ” แซลลี คลาก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของสตาร์ฟิช ดิจิทัล กล่าว สำหรับลูกค้าในประเทศต่าง ๆ อย่างประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซียนั้น ภาษาท้องถิ่นมีความสำคัญเป็นอย่างมากและ คอลเซ็นเตอร์เสมือนจริงหรือ Intelligent Virtual Agents (IVA) จะสามารถช่วยพลิกโฉมการให้บริการด่านแรกผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติ และเมื่อเรานำเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ร่วมด้วยแล้ว การบูรณาการในครั้งนี้จะถือเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับผลิตภัณฑ์และการบริการ”
“เรามีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ทำงานร่วมกับสตาร์ฟิช ดิจิทัล และช่วยให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายตาม พันธกิจในการให้บริการโซลูชันทางเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัยแก่ลูกค้า” ชีตัน ดูเบ ซีอีโอของอมิเลียกล่าว “อมิเลียมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเธอได้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มสมรรถนะ ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และไม่ซับซ้อน นอกจากนี้เรายังพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวเคียงคู่ไปกับสตาร์ฟิชเพื่อทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมา”
“สตาร์ฟิช ดิจิทัล รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ “ว่าจ้าง” อมิเลียให้มาเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ประจำบริษัทและได้ทำงานร่วมกับเธออย่างใกล้ชิด” แดน ชอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของสตาร์ฟิช ดิจิทัล กล่าว “สตาร์ฟิช ดิจิทัล เน้นในเรื่องของการให้บริการการเชื่อมต่อแบบ B2B และการผสานรวมเทคโนโลยีผ่านการพัฒนาซอฟต์แวร์ เราช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง Digital Rails และนำเสนอบริการที่จำเป็น อันจะช่วยให้การเชื่อมต่อและการผสานรวมเทคโนโลยีแบบ B2B นั้นเป็นไปอย่างอัตโนมัติ รวมถึงเป็นกำลังสำคัญในการเร่งยกระดับขีดความสามารถทางธุรกิจของลูกค้าทุกราย”
สตาร์ฟิชได้ว่าจ้างอมิเลียมาเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ประจำองค์กรอย่างเป็นอย่างการ ซึ่งเธอจะทำหน้าที่เป็นผู้สื่อสารด่านแรกให้กับลูกค้าเจ้าสำคัญผ่านช่องทางที่หลากหลาย ให้การดูแลลูกค้า และช่วยเหลือด้านการทำงานของระบบหลังบ้าน ความสามารถในการพูดคุยได้หลากหลายภาษาและความเชี่ยวชาญในการสื่อสารของอมิเลียจะทำให้สตาร์ฟิช ดิจิทัล สามารถโต้ตอบกับลูกค้าแต่ละรายได้ผ่านภาษาของพวกเขา นอกจากนี้ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีขั้นสูงยังจะช่วยให้สตาร์ฟิช ดิจิทัล สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและรองรับลูกค้าได้จำนวนมากโดยไม่จำเป็นต้องว่าจ้างพนักงานเพิ่มเติม
ในขั้นแรกนี้ สตาร์ฟิชมุ่งเป้าไปที่ตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 650 ล้านคน โดยมีแผนจะขยายการให้บริการไปทั่วโลกในเฟสต่อไป ประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ถือเป็นตลาดอันดับต้น ๆ ของสตาร์ฟิช เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ในสองประเทศนี้ได้หันมาให้ความสำคัญกับระบบดิจิทัลภายในองค์กรหลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ สตาร์ฟิชได้ว่าจ้างอมิเลียเนื่องจากคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการระบาด อันจะทำให้มีผู้ให้บริการทางการเงินแบบใหม่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค สถาบันเหล่านี้จะให้ความสำคัญในการทำการตลาดที่สอดรับความต้องการของผู้บริโภคอย่างเต็มที่ การมีบทบาทในระบบนิเวศธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง และกระแสในการสร้างแพลตฟอร์มแบบเชื่อมโยง ทั้งนี้ ลูกค้าจะสามารถพูดคุยกับอมิเลียได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป