ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“พัฒนาบุคลิกการไม่พูด”..
เนี่ย..ถ้าคุณพี่ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ คอลัมน์นิสต์ประจำไทยโพสต์ทุกวันอาทิตย์ จะได้หยิบมาสานต่อก่อตั้งเป็น “ชมรม” หรือ “สมาคม” ตามที่เคยคิดเอาไว้นานนมขึ้นมาอีกครั้ง
ผมคนหนึ่งล่ะที่ขอสมัครเป็นสมาชิก (ถ้าค่าธรรมเนียมไม่แพงเกินไป) ด้วยคิดเอาว่าอาจจะพอทำให้ได้พัฒนาบุคลิกที่พูดมาก พูดจนเพื่อนไม่คบ พี่เกลียดหน้าขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย
เอาน่าคุณพี่..มาลองตั้ง “สมาคมพัฒนาบุคลิกการไม่พูด” กัน มันทันยุค-ร่วมสมัยอยู่นะ ก็อย่างที่คุณพี่ชัชรินทร์ได้ทิ้งท้ายในบทความนั่นแหละ..
“ด้วยเหตุเพราะโลกยุคนี้-สมัยนี้ ต่างฝ่ายต่างหันไปเน้นในการเสริมสร้าง อัตตา ของแต่ละคน แต่ละตัว แต่ละฝ่าย หรือต่างพยายามพูดแล้ว-พูดเล่า โพสต์แล้ว-โพสต์เล่า หนักซะยิ่งกว่า ผีเจาะปาก ยิ่งเข้าไปทุกที
โดยสิ่งที่พูดๆ ออกมานั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า อารมณ์-ความรู้สึก แห่ง ตัวกู-ของกู ที่ได้รับการ ปรุงแต่ง ไปตามความชอบ-ความชัง ความรัก-ความเกลียด
จนกลายเป็นความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง ไปจนได้…นั่นแล…”
ว่าแต่จะเอาใครเป็นประธานเป็นนายกดีล่ะ เพราะเท่าที่กวาดสายตาแลไปทั่วพาราแทบจะมองหาคนเหมาะสมไม่เห็น ด้วยแต่ละคนจะหนักไปทาง “ผีเจาะปาก” แทบทั้งเพ!
ยิ่งพวกนักการเมืองด้วยแล้ว ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ล้วนแต่ปากยื่น-ปากยาว ซ้ำบางคนพูดไร้สาระ พูดพร่ำเพรื่อ พูดโกหก-ตอแหล พูดสร้างความขัดแย้งได้ทุกวัน
อย่างห้วงนี้ที่โควิด-19 กำลังระบาด มีคนป่วย-ตายวันละหลายชีวิต แทนที่นักการเมืองจะ “ร่วมมือ-ร่วมใจ-ร่วมสมอง” ช่วยกันคิดแก้ปัญหาด้วยบรรยากาศสร้างสรรค์เป็นมิตร..
กลับโหมเล่นเกมการเมืองเสมือนหนึ่งเห็นตรงหน้า “โอกาสมาแล้ว” ต้องเร่งคว่ำรัฐบาล-พล.อ.ประยุทธ์ให้สำเร็จในช่วงโควิดนี้แหละ!
ขอโทษ..นักการเมืองเขาคิดกันได้แค่นี้จริงๆ!
เออ..แต่นี่จะคิดเห็นประการใดก็ขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคน สำหรับผมแค่เห็นโปรยข่าวผู้จัดการออนไลน์..
“พนักงานสอบสวนสั่งปรับ 500 บาท พระหนุ่มหื่นกามชักเจ้าโลกโชว์สาวทางสื่อโซเชียล ขณะเจ้าคณะอำเภอพยุห์สั่งตักเตือนและให้อยู่ปริวาสกรรม 9 คืน 10 วัน
เนื่องจากเห็นว่ากำลังเรียนหนังสือ เป็นความผิดครั้งแรกและยังไม่ได้เสพกาม”
ก็..หมดเรี่ยว-หมดแรงที่จะอ่านรายละเอียดของข่าวต่อไปได้ และเพราะอย่างนี้ผมจึงอยากเข้าอบรม “พัฒนาบุคลิกการไม่พูด” ไงล่ะ?
พระชักเจ้าโลกโชว์สาว..เจ้าคณะอำเภอแค่ตักเตือนเนื่องจากกำลังเรียนหนังสือ เป็นความผิดครั้งแรก
แล้วถ้าพรุ่งนี้-มะรืน พระชักฯ อีก เจ้าคณะก็จะเตือน บอกกำลังเรียน เป็นความผิดครั้งที่สอง-ครั้งที่สาม งั้นสรุปว่าพฤติกรรมอย่างนี้..
ยังจะให้ชาวพุทธกราบ-ใส่บาตรอยู่อีกหรือหลวงพ่อ?