ส.ส. ก้าวไกลรวมตัวเข้ารับฉีดวัคซีนโควิด รณรงค์สร้างความมั่นใจประชาชนมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ลดการระบาด หากภายหลังติดเชื้ออาการก็ไม่หนัก ไม่เป็นภาระระบบสาธารณสุข พลิกฟื้นเศรษฐกิจปากท้องโดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที 16 เมษายน 2564 ณ สถาบันบำราศนราดูร พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล กว่า 14 ชีวิต ได้แก่
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, สมเกียรติ ถนอมสินธุ์, วุฒินันท์ บุญชู, กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี, ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, ธีรัจชัย พันธุมาศ และธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ที่ไม่อยู่ในช่วงกักตัวเพื่อสังเกตอาการและไม่มีความเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 เป็นครั้งเเรก เพื่อเป็นการรณรงค์และป้องกันการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย กล่าวว่า จากการที่ตนติดตามเรื่องนโยบายการบริหารจัดการวัคซีน และติดตามการบริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มาโดยตลอด ณ วันนี้ การฉีดวัคซีน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันเฉพาะตนเองเท่านั้น แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ในการร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้รับการคลี่คลาย ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวัน และทำมาหากินประกอบอาชีพ ได้ใกล้เคียงกับสภาพปกติ
รวมทั้งการไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขเมื่อเกิดการติดเชื้อด้วย เพราะวัคซีนมีผลทำให้ลดความหนักของอาการจากโรคโควิด ดังนั้น ทุกๆ ภาคส่วน ในวันนี้ หากได้รับหมาย หรือได้รับการประชาสัมพันธ์ให้ไปรับการฉีดวัคซีน ควรต้องให้ความร่วมมือด้วยการไปรับการฉีดวัคซีน เพื่อให้การฉีดวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินไปตามแผนที่
ศิริกัญญา ย้ำว่ารัฐบาลยังคงจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนให้เกิดความสมดุล อย่างเร่งด่วน โดยสำรองวัคซีนทางเลือกต่างๆ ให้มีความหลากหลายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากเกิดอุบัติการณ์จากการฉีดวัคซีน ขึ้นกับวัคซีนยี่ห้อใด ที่มีสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และมีความจำเป็นต้องระงับการฉีดวัคซีนยี่ห้อนั้นไว้ก่อน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง
อย่างเช่น กรณีการเชื่อมโยงกับภาวะการเกิดลิ่มเลือด จนทำให้หลายประเทศในยุโรปกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับอายุ (Age Limit) ของผู้รับวัคซีน AstraZeneca หรือในกรณีประเทศเดนมาร์ก ที่ถึงกับยกเลิกการฉีดวัคซีน AstraZeneca ทั้งหมดไปเลย หรือกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าสหภาพยุโรปจะไม่ต่อสัญญากับผู้ผลิตวัคซีนชนิด Viral Vector ซึ่งได้แก่ AstraZeneca และ Johnson & Johnson เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง ประเทศจะได้มีวัคซีนทางเลือกอื่น ในการฉีดให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
“การฉีดวัคซีนในวันนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ในเมื่อวัคซีนที่รัฐบาลมีอยู่ มีกระจุกอยู่เท่านี้ ประชาชนก็จำเป็นต้องฉีด เพราะทั้งในมุมของเราและสังคมโดยรวม การฉีดดีกว่าการไม่ฉีด แต่หากว่ารัฐบาลสามารถกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนที่ดีกว่านี้ มีวัคซีนทางเลือกที่หลากหลายในปริมาณที่สมดุลเพียงพอ ความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนที่ประชาชนต้องแบกรับก็จะลดลง ประชาชนก็จะมีโอกาสได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่สูงขึ้น ในขณะที่รัฐบาลก็จะสามารถบริหารการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับอุปัทวเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมั่นใจ”
โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นและไลน์ “หมอพร้อม” ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพื่อลงคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน พรรคก้าวไกลจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ทุกท่านไปลงทะเบียนและเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อพลิกฟื้นประเทศกลับสู่ภาวะปกติ