นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ว่า
เห็นด้วยที่กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุมเข้มการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ซึ่งจากเดิมมีการเข้มงวดกวดขันอยู่แล้ว แต่ช่วงสถานการณ์ปัจจุบันเห็นด้วยที่จำต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอาเปรียบซ้ำเติมประชาชน ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐด้วย หากอาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 แสวงหากำไรเกินกว่าที่ควรได้ตามปกติ การเพิ่มราคา
ก็จะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อประชาชนด้วย
ในส่วนพี่น้องประชาชนที่ได้เกินทางกลับต่างจังหวัด ก็ต้องตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ความถูกต้องของหัวจ่ายน้ำมัน ที่จะมีผลต่อการเติมว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่
รวมถึงผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ขาย ผู้บริการก็จะต้องติดป้ายแสดงให้เห็นถึงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเพื่อให้ประชาชนได้เห็นราคาก่อนใช้บริการ
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ไปด้วยกัน หากพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถแจ้งไปได้ที่กรมการค้าภายใน สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดก็จะมีความผิด
กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ