จินตนาการของ ‘อานนท์’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

จะฆ่ากันในคุกเลยเหรอ?

            ต้องฟังหูไว้สิบหู

ถ้ารัฐโง่ถึงขนาด สั่งเก็บแกนนำ ๓ นิ้วในคุก ก็ไม่รู้จะพูดไงต่อ

            นอกจากจะด่าว่าปัญญากระบือ

            ครับ…นี่คือลูกไม้ตื้นๆ มองดูก็รู้ว่า หมดหนทางที่จะขอประกันตัวแล้ว

            การฆ่า หรือทำให้ตายในคุก กับคนดัง ใหญ่คับประเทศ อย่าง อานนท์ เพนกวิน รุ้ง ไมค์ โตโต้ โอกาสแทบเป็นศูนย์

            แค่เป็นแผลฟกช้ำหน่อยเดียว รัฐบาลชี้แจงสิบวันยังไม่จบ

            ฉะนั้นอย่าพูดเรื่องตาย ไม่มีหรอก

            เรือนจำไม่ใช่สนามเด็กเล่น สิทธิเสรีภาพไม่ต้องพูดถึง

            ก็ไม่แปลกที่ “อานนท์” จะกลัว แล้วเขียนจดหมายแอบส่งมาภายนอก

                “…เมื่อคืนนี้ (๑๕ มีนาคม) เวลาประมาณ ๒๑.๓๐ น. ได้มีเจ้าหน้าที่เรือนจำพยายามนำตัวไผ่และไมค์ไปควบคุมนอกแดน พวกเราไม่ยอมเพราะเป็นเวลาวิกาล

                จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กลับออกไปจากห้องขัง แล้วกลับมามากกว่าเดิมพร้อมกระบอง เวลา ๒๓.๔๕ น., ๐๐.๑๕ น. และ ๐๒.๓๐ น.

                โดยสองครั้งหลังเจ้าหน้าที่มาพร้อมเจ้าหน้าที่อีกชุดสีน้ำเงินเข้มแต่ไม่ติดป้ายชื่อ แล้วแจ้งว่าจะพาทั้งหมดไปตรวจโควิด พวกเราไม่ยอมเพราะผิดวิสัยที่จะนำผู้ต้องขังออกนอกแดนในเวลาหลังเที่ยงคืน

                ภายใต้ข่าวลือว่าจะมีการส่งคนเข้าไปทำร้ายหมายเอาชีวิตพวกเราในเรือนจำ และเกรงจะเสียชีวิตในเรือนจำเหมือนหมอหยอง และคนอื่นๆ ผมไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเกรงอันตราย ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย…”

            อ่านแล้วคิดตาม…

            จดหมายฉบับนี้เขียนภายใต้ความกลัวและข่าวลือ

            จึงทึกทักเอาว่า จะถูกฆ่า

            พวกนอกคุกก็ไล่งับกันใหญ่

            ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด

            มีคนสั่งฆ่า!

            ดูถูกสติปัญญาคนอื่นมากไปหรือเปล่า

            เพราะแค่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ทั้งหมดนี้อยู่ในคุกอีกไม่รู้กี่ปี ใครจะไปโง่ฆ่าเพื่อสร้างเงื่อนไขให้ม็อบ ๓ นิ้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก

            กรมราชทัณฑ์ เขาชี้แจงละเอียดยิบ

            ….กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว ขอชี้แจงว่าเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ ๑๕ มี.ค. ถึงเช้าวันที่  ๑๖ มี.ค.๒๕๖๔ ภายหลังจากที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับย้ายตัว นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์”, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำราษฎร

            และ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” แกนนำกลุ่ม Wevo  มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี เมื่อเวลาประมาณ ๑๘.๔๐ น. เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจร่างกาย

            ก่อนนำตัวมาคุมขังพร้อมกับผู้ต้องขังคนอื่นอีก ๙ คน ในห้องควบคุมผู้ต้องขังภายในแดนแรกรับ เพื่อแยกกักโรคตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ของกรมราชทัณฑ์

            ต่อมาเวลา ๒๓.๐๐ น. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วย คณะแพทย์และพยาบาลจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้ามาตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ในกลุ่มผู้ต้องขังภายในห้องดังกล่าว ซึ่งมีทั้งสิ้น ๑๖ คน

            แต่มีผู้ต้องขังที่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อเพียง  ๙ คน และไม่ประสงค์ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อ ๗ คน คือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา,  นายปิยรัฐ จงเทพ, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายอานนท์ นำภา  พร้อมพวก

            จึงต้องแยกกลุ่มผู้ต้องขัง ๗ คน ออกจากผู้ต้องขังที่ยินยอมรับการตรวจ เพื่อเป็นการแยกกักกันโรคและสังเกตอาการเพิ่มเติมที่สถานพยาบาล ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙

            ทั้งนี้ ผู้ต้องขังทั้ง ๗ คนดังกล่าว คือ นายอานนท์ พร้อมพวก ได้ปฏิเสธการย้ายที่คุมขังออกจากห้องกักกันโรคเดิม ไปยังสถานพยาบาลโดยอ้างถึงความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องแยกกลุ่มผู้ต้องขังอีกกลุ่มที่ให้ความยินยอมในการตรวจหาเชื้อจำนวน ๙ คนไปคุมขังที่ห้องกักกันโรคห้องอื่นแทน

            และแยกกักตัวผู้ต้องขังใหม่ และรับย้ายทุกคน ออกจากผู้ต้องขังอื่น เป็นเวลาอย่างน้อย ๑๔ วัน โดยขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดตามกฎ ระเบียบ และ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.๒๕๖๐ อย่างเคร่งครัด  ไม่สามารถกระทำการใดโดยพลการได้ อีกทั้งการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นการกระทำความผิดทางอาญา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถกระทำได้อยู่แล้ว….

                ย้ำชัดๆ ด้วยคำสัมภาษณ์ของ “ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์” เลขานุการ รมว.ยุติธรรม

                “มีการพูดคุยว่าทำไมไม่ตรวจตอนเช้า มาตรวจอะไรตอนดึก ซึ่งผู้ต้องขังเข้ามาดึกแล้ว ก็ต้องตรวจตามขั้นตอน

                เพราะในฝั่งธนบุรี เขตบางแค มีการระบาดหนัก

                เป็นความปรารถนาดีของเจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจสุขภาพให้ แต่หากไม่อยากตรวจก็เป็นไปตามสิทธิ เราก็แยกห้องให้

                นี่คือสภาพความเป็นจริง”

            ก็ชัดเจนนะครับ มาจากพื้นที่เสี่ยง เรือนจำพิเศษธนบุรีก็อยู่แถวๆ บางบอน บางแค บ้านน้าเหลิม นั่นแหละครับ

            ถ้าขืนไม่ตรวจ มีโอกาสโควิดกลืนคุกแน่

            นักประชาธิปไตยประสาอะไร ไม่รับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเลย

            สรุปเรื่องมันก็มีอยู่แค่นั้น

            ที่เหลือคือจินตนาการของอานนท์ล้วนๆ

            ทนายก็เอาจินตนาการไปสานต่อให้เป็นความจริง

            ยื่นขอประกันตัวโดยแนบจดหมายของ อานนท์ ขอให้ศาลช่วยชีวิต

            ครับ…มึนไปตามๆ กัน

            วานซืน “เพนกวิน” เพิ่งจะแสดงอิทธิฤทธิ์ ยืนบนเก้าอี้ในห้องพิจารณาคดี ด่าศาลฉอดๆๆๆ

            แค่ข้ามวันขอให้ศาลช่วยชีวิต

            ช่างเหนือจินตนาการจริงๆ

Written By
More from pp
ศาลอาญา อนุญาตปล่อย “ทานตะวัน” ชั่วคราว 1 เดือน วางเงื่อนไขห้ามกระทำการกระทบสถาบันฯ ตั้ง “พิธา” เป็น ผู้กำกับดูเเลปฏิบัติตามเงื่อนไข
26 พฤษภาคม 2565 – ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี...
Read More
0 replies on “จินตนาการของ ‘อานนท์’ – ผักกาดหอม”