วันชี้ชะตา “กำนันสุเทพ” -เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

วันนี้ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
เส้นทางประเทศ….
เดินทางมาถึง “จุดตัด” หรือ “จุดเปลี่ยน” อีกครั้ง ซึ่งก็สุดแต่เรียก
เรื่องแรกที่ต้องบันทึก “วัคซีนโควิด-๑๙” ที่รัฐบาลจัดหา มาถึงไทย “เป็นปฐมเที่ยว” ๑๐ โมงเช้า นี้ ที่สุวรรณภูมิ
เป็นวัคซีนซิโนแวค ๒๐๐,๐๐๐ โดส
วัคซีนแอสตราเซนเนกา ๑๑๗,๐๐๐ โดส

ขั้นตอนต่อไป…
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (ศบค.) ทำหน้าที่กระจายตามกลุ่มเป้าหมาย

๓ แสนกว่าโดสนี้ อยู่ในขั้น “เรียกน้ำย่อย”
ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดหรือพูดมากให้เป็นที่รำคาญไป ใจเย็นๆ เมนคอร์ส จะค่อยๆทยอยลำเลียงมาเต็มโต๊ะ รวมกว่า ๖๐ ล้านโดส

ก็อ่านเมนูให้เสียวแขนไปพลางๆ ก่อนได้จึ๊กนะ
ช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.๖๔
“ซิโนแวค” ๒ ล้านโดส จะทยอยมา ต่อจาก ๒ แสน โดส วันนี้ ตามตารางเวลา ดังนี้
มีนา.๖๔ จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ โดส
เมษา.๖๔ มาอีก ๑,๐๐๐,๐๐๐ โดส
“แอสตราเซนเนกา”๒๖ ล้าน โดส ก็จะไล่หลังมาติดๆ

มิย.๖๔ จำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐ โดส
กรกฏา.๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ โดส
สิงหา.๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ โดส
นี่เป็น ๒๖ ล้านโดส ที่สั่งตอนแรก ส่วนอีก ๓๕ ล้านโดส ที่สั่งเพิ่มเติม บริษัท แอสตราเซเนกา จัดตารางส่ง ดังนี้
กันยา.๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ โดส
ตุลา.๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ โดส
พฤศจิกา.๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ โดส และ
ธันวา.๖๔ จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ โดส

เบ็ดเสร็จ ตีซะว่าคนละ ๒ เข็ม ก็ได้ฉีดกันครึ่งประเทศ แค่นี้ก็เหลือแหล่แล้ว
เมื่อคนครึ่งประเทศไม่มีเชื้อแพร่ คนต่างประเทศที่เดินทางมาก็ฉีดแล้ว คนที่ไม่ได้ฉีดอีกครึ่ง เชื้อที่ไหนจะมาระบาดใส่ได้ล่ะ!
ถ้ากลัวน้อยหน้า เอ็งได้ฉีด ข้าไม่ได้ฉีด ก็อย่าเพิ่งตีกัน ตกปลายปี วัคซีนจะบานตะไท

ทั้งสยามไบโอไซเอนซ์ เมื่อผลิตครบออร์เดอร์แล้ว จะผลิตให้ไทยฉีด ครบรายหัว-รายคน อาบด้วยก็ยังไหว ฉะนั้น อย่าดรามากันจนเลอะ

ถึงฉีดแล้วก็อย่าชะล่าใจว่าโควิดติดไม่ได้ ผมว่านะ ถ้าจะให้ปลอดภัย ทั้งฉีด-ไม่ฉีด ไปไหนๆ สวมหน้ากากอนามัยชัวร์ ๙๙%
ปี ๖๕ โน่นแหละ ค่อยลั้นลากันให้หายจุกอก ส่วนปี ๖๔ นี้ เอากันพอหายคันก็พอ
เรื่องโควิด ฉีดประเทศใด-ประเทศหนึ่ง ไม่มีความหมาย ต้องได้ฉีดเหมือนๆ กันทั้งโลก อย่างน้อยก็ครึ่งโลก อานิสงส์ถึงจะครอบจักรวาล

สมมติฉีดประเทศเดียว ประเทศอื่นยังไม่ได้ฉีด หรือฉีด แต่การระบาดในประเทศนั้นๆ ยังแรงอยู่
ก็ยังไปมาหาสู่กันไม่ได้ บ่มิไก๊อยู่ดี

ทั้งในภาพกว้าง หมายถึง “กำลังซื้อ” ก็ยังไม่มี หรือมี แต่ยังอ่อนแอ การมีวัคซีน ก็ยังไม่ส่งผลทางเศรษฐกิจ

ฉะนั้น การเชียร์เรื่องวัคซีน ต้องเชียร์ให้มี-ให้ฉีดทั้งโลก แบบนั้น จะเกิดอานิสงส์มากที่สุด โดยเฉพาะไทยเรา

อย่าลืมว่า รายได้หลักของเรามาจาก ๒ ทาง คือสินค้าส่งออก และการท่องเที่ยว
ตอนนี้ ส่งออกเริ่มฟื้น
แต่การท่องเที่ยวยังตายสนิท ท่องเที่ยวนี่ นอกจากสร้างรายได้มหาศาลแล้ว ยังเป็นธุรกิจอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบทางตรงทุกหย่อมหญ้าด้วย

ก่อนมีโควิด เราบูมมาก ปี ๖๑ หลั่งไหลมาร่วม ๔๐ ล้านคน เม็ดเงินจากท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากคนต่างชาติ กว่า ๓ ล้านล้านบาท สูงอันดับ ๔ ของโลก
แล้วมันก็หายวับไปกับตา กว่า ๓ ล้านล้านนั้น จะกลับมา ก็ฝากหวังไว้ที่วัคซีนโดยตรง

บ้านเรา ระบาดแบบจิ๋มจุ๋ม นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้อยู่แล้ว เขาจึงไม่กลัวที่จะเข้ามาไทย
เราตะหากที่กลัวเขา!

เพราะเขาติดโควิดกันเป็นงาน-เป็นการเหลือเกิน ดังนั้น ลุ้นให้เขาได้ฉีดกันมากๆ มีภูมิคุ้มกันกันแล้ว จะได้เดินทางมาฉลองชีวิตใหม่ที่ไทย “เมืองฟ้าอมร” มากๆ

อีกเรื่องที่ต้องลุ้นวันนี้ มีผลใน “เส้นทางสายเปลี่ยน” ทางการบ้าน-การเมืองมาก
คือ ตอน ๙ โมเช้า ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา ๗๐๔
ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดี “กบฎ กปปส.” ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับคณะ รวม ๓๙ คน เป็นจำเลย

๓๙ คน มีใครบ้าง เชิญตรวจหวย….

๑.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

๒.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย

๓.นายชุมพล จุลใส

๔.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

๕.นายอิสสระ สมชัย

๖.นายวิทยา แก้วภราดัย

๗.นายถาวร เสนเนียม

๘.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

๙.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

๑๐. นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก

๑๑.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ

๑๒.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

๑๓.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์

๑๔.นายถนอม อ่อนเกตุพล

๑๕.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข

๑๖.นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ

๑๗.นายสาธิต เซกัล

๑๘.นางสาวรังสิมา รอดรัศมี

๑๙.พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี

๒๐.พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ

๒๑.นายแก้วสรร อติโพธิ

๒๒.นายไพบูลย์ นิติตะวัน

๒๓.นายถวิล เปลี่ยนศรี

๒๔.เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์

๒๕. นายมั่นแม้น กะการดี

๒๖.นายคมสัน ทองศิริ

๒๗.พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์

๒๘.นายพิภพ ธงไชย

๒๙.นายสาวิทย์ แก้วหวาน

๓๐.นายสุริยะใส กตะศิลา

๓๑. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด

๓๒.นายสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์

๓๓.นายสำราญ รอดเพชร

๓๔.นายอมร อมรรัตนานนท์

๓๕.นายพิเชฐ พัฒนโชติ

๓๖.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ

๓๗.นายกิตติชัย ใสสะอาด

๓๘.นางทยา ทีปสุวรรณ และ

๓๙.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ครับ ๗ ปีที่รอคอย แห่งการตัดสิน…..
คดีประวัติศาสตร์ อันไม่ปรากฏที่ไหนมาก่อน ว่าจะมีมวลมหาประชาชนมากกว่า ๕ ล้านคนออกมาขับไล่รัฐบาลพร้อมๆ กัน
อย่างที่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระหว่าง ๒๓ พย.๒๕๕๖ จนถึง ๑ พค.๒๕๕๗

อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อ ๒๔ มค.๖๑
ในความผิดฐาน
ร่วมกันเป็นกบฎ, ก่อการร้าย, ล้มล้างระบอบปกครอง, มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และอื่นๆ

ก็เช้านี้ ที่ ๒๔ กุมภา.นี่แหละ จะได้ทราบว่าคำตัดสินจะออกมาแบบใด?
คำตัดสินจะชี้ชะตาอนาคตรัฐมนตรี สส.และข้าราชการการเมืองหลายคน

ถ้าผิด….
ถึงแม้ศาลชั้นต้น ตามกฎหมายใหม่ ต้องพ้นสภาพทันที ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐(๗)!

ฉะนั้น ต้องลุ้น แม้กับตัวกำนันสุเทพเองก็เถอะ จากคำตัดสินวันนี้ ประหนึ่ง “ชี้เป็น-ชี้ตาย” ทางการเมือง
ถ้าผิด จบการเมืองตลอดชีวิต
ถ้าไม่ผิด กำนันสุเทพ เท่ากับพ้นคำสาปตัวเอง ควรกลับสู่สนามการเมือง

ให้ประชาชนตัดสินอีกครั้ง ว่าจะเอา-ไม่เอา ผ่านสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป
วันนี้ ไม่มีอะไรคุย นอกจากลุ้น!

 

Written By
More from plew
วางบิล “ทวงหนี้” ปฏิรูป
เปลว สีเงิน ปัญหาตอนนี้….. บางเรื่องมันเป็นผลของกรรมที่นายกฯสั่งสมไว้เอง แล้วจะโทษใครล่ะ? เช่น เรื่องตำรวจและมหาดไทย เรื่องราวมันฟ้องว่า สังคมไป ประชาชนไป แต่คนในระบบ…ไม่ (ยอม)...
Read More
0 replies on “วันชี้ชะตา “กำนันสุเทพ” -เปลว สีเงิน”