ผักกาดหอม
เอาใจยากจริงๆ
นักการเมืองถนัดพูดเอาหล่อกันทั้งนั้น
หลายครั้งลืมไปว่าตัวเองเคยพูดอะไรไว้
พูดใหม่กลายเป็นลิ้นพัน ย้อนแย้งไปหมด
ครับ….พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขวัญใจแม่ยกค่ายสีส้ม ไม่เห็นด้วยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะซื้อวัคซีนโควิดฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง
อ้างว่าจะกลายเป็นมือใครยาวสาวได้สาวเอา
ต่างคนต่างใช้งบเพื่อซื้อวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่
ไม่ทราบใช้พื้นฐาน ปัจจัยอะไรคิด ถึงได้คำตอบออกมาแบบนั้น
ต้องการให้รัฐบาลเป็นผู้จัดการปัญหาแต่เพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือ
หรือต้องการเห็นรัฐบาลล่มสลาย เพราะแก้ปัญหาโควิดไม่ได้
ประมาณว่าขอให้ฉิบหายจะด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่
มันเป็นเรื่องสิ้นคิดครับ
นักการเมืองที่ออกมาพูดอย่างหล่อทุกเวทีว่า รักประชาธิปไตยยิ่งกว่าชีวิต ต้องการเห็นการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น
ให้ท้องถิ่นตัดสินใจเอง ทั้งด้านการเมืองและงบประมาณ
แล้วทำไมค้านล่ะ
ตามไปดูนโยบายการกระจายของพรรคก้าวไกลกันหน่อย
…พรรคก้าวไกลจะผลักดันให้มีการรับรองความเป็น ‘รัฐเดี่ยวแบบกระจายอำนาจ’ และหลักการพื้นฐานด้านการกระจายอำนาจอื่นไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น หลักองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะในพื้นที่เป็นหลักทั่วไป
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภทต้องมาจากการเลือกตั้ง
ยืนยันหลักการผู้บริหารท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรงในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ
จะผลักดันการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณและบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการออกแบบและจัดเก็บภาษีเองเพิ่มขึ้น
มีระบบเกลี่ยงบประมาณเพื่อความเป็นธรรมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ระดับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไม่เท่ากัน
ผลักดันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้น
เพิ่มอำนาจประชาชนตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้การถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่นโดยประชาชนง่ายขึ้น
จัดให้มีการตั้งสภาพลเมืองในท้องถิ่น
บังคับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของรัฐในระดับที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย….
เขียนด้วยมือลบด้วยตีน!
การให้ท้องถิ่นตัดสินใจซื้อวัคซีนฉีดประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง เป็นการตอกย้ำความจำเป็นในการกระจายอำนาจด้วยซ้ำ
ถ้าใจไม่ริษยา ควรจะเปิดกว้าง
นี่คือการโชว์ศักยภาพของท้องถิ่น
แน่นอนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งมีศักยภาพด้านงบประมาณไม่เท่ากัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้
แต่ปัญหาที่ต้องคุยกันคือ รัฐบาลควรจะอุดหนุนงบประมาณองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่มีงบประมาณไม่เพียงพออย่างไร
ไม่ใช่ลดบทบาทท้องถิ่น
หรืออยากเห็นท้องถิ่นแบมือขออยู่ร่ำไป
ฐานข้อมูลประชาชนไม่ใช่เรื่องลึกลับ รัฐบาลกลาง และท้องถิ่นล้วนมีอยู่ในมือ มันไม่ใช่เรื่องยากในการทำให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง
ท้องถิ่นไหนเงินไม่พอ รัฐบาลก็เติมลงไป
หรือรัฐบาลกลางจัดสรรแทน
มันมีสารพัดวิธี
แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยการบอกว่า กลัวใครมือยาวสาวได้สาวเอา ก็อย่ามาเรียกร้องกระจายอำนาจให้เหม็นขี้ฟันเลยครับ
เรื่องที่ควรทำไม่ทำ ไอ้เรื่องที่ไม่ควรทำก็จะทำ
เปิดหน้าชกกันเต็มพิกัดแล้ว
ปิยบุตรชง ก้าวไกลรับลูก
เปิดสภาฯ เมื่อไหร่ เสนอเลิก ม.๑๑๒
ถ้าจะบอกว่านี่คืออีกความพยายามในการเปิดทางนำไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์คงไม่ผิดนัก
ปิยบุตร และพรรคก้าวไกล รู้อยู่แล้วว่า ในโซเชียล ๓ นิ้วเวลานี้ ๙๙% คือเนื้อหาเกี่ยวกับการล้มล้างสถาบันทั้งสิ้น
ฉะนั้นจะปฏิเสธว่าข้อเสนอเลิก ม.๑๑๒ ไม่เกี่ยวกับการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ได้หรือ?
สภาฯ เปิดมาก้าวไกลจะเสนอกฎหมายอะไรบ้าง
ตามที่ “ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล นำเสนอด้วยความภาคภูมิใจ ก็มีตามนี้
จะยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา ๑๑๒
ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๖๐
และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘
อ้างว่า เพื่อคุ้มครองและประกันเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนตามหลักการขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย
มองเป็นอื่นไม่ได้เลย…
นี่คือการเปิดทางให้ม็อบ ๓ นิ้ว โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยรับผิดชอบทางกฎหมายน้อยที่สุด
เปิดทางให้การชุมนุมทำได้ง่ายขึ้น
“ปิยบุตร” บอกว่า เมื่อครั้งตั้งพรรคอนาคตใหม่ยอม “กลืนเลือด” ตัดสินใจขัดแย้งกับมโนธรรมสำนึก ด้วยการประกาศว่า ไม่มีนโยบายแก้ ๑๑๒ เป็น “ตราบาป” ที่ฝังในจิตใจ เป็น “แผลเป็น” ในชีวิตทางการเมือง
ครับ…ไม่อะไรชัดไปกว่านี้แล้ว
หวังว่า “ปิยบุตร” จะถือธงนำหน้า “กวิ้น-ไมค์-รุ้ง-อานนท์”
ชวน “ธนาธร-ช่อ” มาด้วยให้ครบทีม
สร้างตราบาปกันอีกครั้ง.