กระทรวงสาธารณสุข เผยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการคณะผู้บริหารที่ลงพื้นที่สมุทรสาคร ผลเป็นลบ แยกกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน พร้อมตรวจซ้ำใน 3-5 วัน ส่วนสถานการณ์ภาพรวมที่สมุทรสาครควบคุมโรคได้แล้ว ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกพบมีภูมิต้านทาน ออกจากที่กักกันแล้ว 3 คน ส่วนผู้ติดเชื้อกลุ่มงานเลี้ยงบิ๊กไบค์ ค้นหาผู้สัมผัสได้เร็ว ผู้ติดเชื้อรวม 20 ราย
28 ธันวาคม 2563 ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด 19 กรณีจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดกระบี่
โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลการตรวจของยืนยันของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พบสารพันธุกรรมไวรัสโควิด 19 ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว โดยมีอาการเจ็บคอ ต้องขอให้กำลังใจท่านที่ติดเชื้อจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักในการควบคุมโรคโควิด 19 ในครั้งนี้
สำหรับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของคณะผู้บริหารที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำกับการทำงานในพื้นที่และการตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผลตรวจเป็นลบ ส่วนผู้บริหารท่านอื่นซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขา อย. อธิบดีทุกกรม และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ผลตรวจยืนยันเป็นลบทุกคน
ทั้งนี้ ผู้บริหารทุกคนได้แยกตัวเอง ไม่ทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มาก ปฏิบัติภารกิจเท่าที่จำเป็น โดยเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ เดินทางโดยรถส่วนบุคคล โดยจะตรวจซ้ำครั้งที่ 2 ใน 3-5 วัน และตรวจเป็นระยะจนครบ 14 วัน ซึ่งมาตรการจะเข้มกว่าคนทั่วไป เพื่อเป็นตัวอย่าง มั่นใจ ห่วงใย ไม่ให้แพร่กระจายไปสู่คนอื่น
สำหรับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ขอให้สังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่คลุกคลีกับคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่หากไม่สบายใจสามารถมารับการตรวจหาเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูรหลังจากนี้อีก 5 วัน
“เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนเราว่าเรามีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ เนื่องจากระยะหลังส่วนใหญ่พบว่าผู้ติดเชื้อมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ อยู่ร่วมในชุมชนและแพร่กระจายเชื้อได้ และขอชื่นชมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
รวมทั้งความร่วมมือในการทำมาตรการกักตัว เว้นระยะห่าง เช่นที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิบัติทันทีที่ทราบว่ามีความเสี่ยง ทำให้คนอื่นๆ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ถ้าทุกคนร่วมมือกัน” นายแพทย์โอภาสกล่าว
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า วันนี้ มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 144 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศอยู่ในกักกันโรคของรัฐ 15 ราย ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ โดย 115 ราย เป็นผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในจังหวัดต่าง ๆ อีก 14 รายเกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร
ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 6,285 ราย หายป่วยแล้ว 4,180 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงอยู่ที่ 60 ราย มีผู้ที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2,045 ราย เกือบทั้งหมดอาการน้อยมาก ผู้ป่วยอาการหนัก 5 ราย
ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศ ณ วันที่ 27 ธันวาคม เวลา 18.00 น. พบผู้ติดเชื้อใน 43 จังหวัด ผู้ติดเชื้อสะสม 454 ราย ระหว่างวันที่ 15-27 ธันวาคม 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดที่จังหวัดสมุทรสาคร รองลงมาคือ กทม. ผู้ติดเชื้อ 94 ราย และ ระยอง 92 ราย
ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีบางจังหวัดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยจังหวัดสมุทรสาครซึ่งพบการระบาดครั้งใหม่ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยลง สำหรับศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว จากการค้นหาเชิงรุก ผลการตรวจ 2,052 ราย พบติดเชื้อ 901 ราย อัตราการติดเชื้อร้อยละ 44 เมื่อวานนี้ (27 ธันวาคม 2563) ผู้ติดเชื้อที่พบกลุ่มแรก ๆ กักตัวครบ 10 วัน และตรวจพบมีภูมิคุ้มกันโควิด 19 จึงได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานที่กักกันโรคจำนวน 3 คน
สำหรับพื้นที่ที่ห่างออกมา ได้แก่ ตลาดทะเลไทย ชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 สะพานปลาสมุทรสาคร และโรงพยาบาลสมุทรสาคร มีอัตราการติดเชื้อที่ต่ำลงตั้งแต่น้อยกว่าร้อยละ 1 จนถึงร้อยละ 13 ส่วนพื้นที่รอบนอก
เช่น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชุมชนบ้านเอื้ออาทร ชุมชนวัดโกรกกราก ตลาดมหาชัยนิเวศน์ มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าร้อยละ 2 ล่าสุดได้ตรวจที่ชุมชนตลาดแม่พ่วงจำนวน 197 ราย พบผู้ติดเชื้อ 11 คน คิดเป็นร้อยละ 16 และสถานที่พักคนชรา จำนวน 30 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันกลุ่มเปราะบางที่เมื่อติดเชื้อจะมีโอกาสป่วยรุนแรงได้ ในภาพรวมตรวจคัดกรองแล้ว 11,847 ราย พบติดเชื้อ 1,367 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.5
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ร่วมงานเลี้ยงที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เดินทางโดยรถจักรยานยนต์จากหลายจังหวัด วันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2563 ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต สงขลา สมุทรสาคร และกทม. ร่วมกับสคร. 11 นครศรีธรรมราช ร่วมกันสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสทั้งคนในครอบครัวและค้นใกล้ชิดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ลดความเสี่ยงพบการติดเชื้อรุ่นต่อไป
รวมพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั้งสิ้น 20 รายใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร 1 ราย, กระบี่ 6 ราย เป็นชายอายุ 35 ปี บุตรชาย ภรรยา และญาติ รวมทั้งเทรนเนอร์และเพื่อนหญิงของเทรนเนอร์, ภูเก็ต 3 ราย เป็นชายอายุ 40 ปี และบุตรชาย 2 คน, สงขลา 2 ราย เป็นชายอายุ 27 ปี เพื่อน และมารดาอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส 1 ราย และกรุงเทพมหานคร 7 ราย เป็นพนักงานบริษัทชายอายุ 41 ปี แพร่เชื้อให้เพื่อนที่ทำงานเดียวกันอีก 4 ราย ภรรยาของเพื่อน 2 ราย
“ขอให้ผู้ที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่มีประมาณ 100 คน เฝ้าระวังสังเกตอาการ รายงานตัวกับหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้าน กรณีที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้รีบไปโรงพยาบาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ แจ้งประวัติการร่วมงาน เพื่อการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว” นพ.โสภณกล่าว