เปลว สีเงิน
มีคนถามผม “เกาะคุก” อยู่ที่ไหน?
มันมีหลายคุกนะ
อยากรู้คุกไหนล่ะ ถ้าคุกลาดยาวหรือ “เรือนจำคลองเปรม” ก็อยู่ที่ถนนงามวงศ์วาน แถวๆ สี่แยกพงษ์เพชร
อยากไป แต่ไปไม่ถูก ถาม “แก๊งสามนิ้ว” “เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์-อานนท์” ดูได้
ถ้าคุกบางขวาง จากงามวงศ์วาน ยาวไปทางแคลายแถวท่าน้ำนนทบุรี เลาะๆ ไปตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดี๋ยวก็เจอ “คุก”
แต่ถ้าหมายถึง “หมู่เกาะคุก” เขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ที่มีข่าวว่า “ธนาธร” และ “สกุลธร” น้องชาย
เอาเรือยอร์ช ที่สองคนถือหุ้น ๔๐% ไปจดทะเบียนที่นั่นเพื่อหลบหรือไม่หลบภาษีก็ไม่รู้เจตนาเขา
เพราะหมู่เกาะคุก ก็เหมือนหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ไอร์แลนด์ ที่ทักษิณแอบไปตั้งบริษัทไว้ซื้อหุ้นชิน จนเป็นตำนาน “ซุกหุ้น” บรรลือโลกนั่นแหละ
หมู่เกาะคุก มีนโยบายเป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษีและเป็นแหล่งฟอกเงินที่ระบบไม่เปิดให้ตรวจสอบได้
บรรดาเศรษฐีทั้งโกงแล้วรวย และรวยแล้วก็ยังโกงจากทั่วโลก จึงนิยมไปใช้บริการ
ทีนี้ รู้แล้วใช้มั้ยว่า “หมู่เกาะคุก” อยู่ไหน ชื่อมันถูกโฉลกกับธนาธร-สกุลธรดีจังเลย เพราะอย่างนี้กระมัง จึงดั้นด้นไปตีทะเบียนกันถึงโน่น!
เป็นงานหนักของ “พี่ศรี” อีกแล้ว เห็นว่าจะไปร้องป.ป.ช.ให้สอบเจ้าของเรือยอร์ชว่า ปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือไม่?
เพราะตอนเป็นสส. ธนาธรยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้ บอกมีเรือยอร์ชเฉยๆ แต่ไม่แจ้งรายละเอียดอะไรเลย คือไม่ระบุถึงลำนี้
ถ้าไม่เกิดไฟไหม้ Silvretta แล้วมีคนไปคุ้ยประวัติเรือ โลกก็คงไม่รู้ว่า ๒ ตี๋ตระกูลจึง มีส่วนเป็นเจ้าของ
พุทธศาสนสุภาษิตมีว่า……
“นัตถิ โลเก รโห นามะ ปาปกัมมัง ปกุพฺพโต” ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก
เป็นอย่างนั้นจริงๆ พูดแล้วนึกถึง “ที่ลับของผู้ทำบาปกรรม” อีก ๒ คดี ซึ่งทอดยาวสู่เส้นทาง “เกาะคุก” ของทอน
คือคดีที่……
กกต.แจ้งความตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับทอนเป็นคดีอาญา เมื่อมีค.๖๓
กรณีขณะยื่นสมัครสส.พรรคอนาคตใหม่ ยังถือหุ้นวี-ลัคมีเดียอยู่ ผิดตามพรป.เลือกตั้ง
คือเมื่อรู้อยู่ว่า “ไม่มีคุณสมบัติ” สมัครรับเลือกตั้งส.ส. แต่ธนาธรยังใช้สิทธิลงสมัคร จึงผิดตามมาตรา ๑๕๑ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ๖๑
มาตรานี้ โทษคุก ตั้ง ๑-๑๐ ปีเชียวนะ!
และอีกคดี คือ…..
กรณีทอน “หัวหน้าพรรค” ปล่อยเงินกู้ “พรรคอนาคตใหม่” ๑๙๑.๒ ล้านบาท
ศาลรัฐธรรมนูญชี้ ผิดตามมาตรา ๖๖ ประกอบมาตรา ๗๒ ของพรป.พรรคการเมือง ๒๕๖๐ “ยุบพรรค” เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว
ในทางอาญา การทำเช่นนั้น มีความผิดฐานบริจาคเงินเกิน ๑๐ ล้านบาทแก่พรรค คือเกินกว่าที่ มาตรา ๖๖ วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ๒๕๖๐ กำหนด
ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.มีมติให้ สำนักงานกกต.แจ้งความดำเนินคดีอาญากับทอน
โดยกกต.ไปแจ้งความกับตำรวจสน.ทุ่งสองห้องแล้วตั้งแต่ ตค.๖๓
ตามมาตรา ๑๒๔ จะมีโทษคุกไม่เกิน ๕ ปี ปรับไม่เกิน ๑แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
นี่….
ต้องบอกว่า กราฟเส้นทางโคจรวาระกรรมของสามนิ้วตัวพ่อ พุ่งสู่ “เกาะคุก” โดดเด่น-สวยงาม น่าอิจฉาเหลือเกิน!
พูดถึง ๒ คดีนี้ นึกถึงผบ.ตร.คนใหม่ขึ้นมาได้
ท่านชื่ออะไรนะ ทั้งลืม-ทั้งจำไม่ได้ เพราะตั้งผบ.ตร.คนเก่าเกษียณไป ไม่เคยเห็นหน้าผบ.ตร.คนใหม่ ในท้องตลาดเลย
ฝากไว้นิดครับ ท่านช่วยไปเอาไม้ไปแยงตูดผู้กำกับทุ่งสองห้องและพนักงานสอบสวนผู้ทำคดีให้หน่อย
คดีแรก จะครบปี คดีที่สอง เข้าเดือนที่ ๓ แต่ไม่ได้ข่าวคราวว่าคดีไปถึงไหน สำนวนเสร็จแล้ว ส่งอัยการพิจารณาตรวจสอบแล้ว
หรือยังร้อยกรองมาลาไปเรื่อยๆ จนปริ่มๆ “จะขาดอายุความ” ก็โยนกลองกัน ระหว่างพนักงานสอบสวน กับพนักงานอัยการ เหมือนบางข้อหาของคดี “บอส เรดบูล”
ผมเคยถามกกต.บางท่านถึงความคืบหน้า ท่านไม่ตอบด้วยภาษาพูด แต่ตอบด้วยภาษากาย
ขนาดระดับกกต.ยังหน่าย…….
แล้วท่านผบ.ตร.ลองคิดซิครับ ว่าตำรวจทำคดีนี้แบบอาหารสดหรืออาหารแช่แข็ง?
ยุบสภา “เลือกตั้ง” ใหม่อีกรอบ หรือไม่ยุบ รัฐบาลอยู่จนครบเทอม เลือกตั้งปี ๖๖
คดีจากปี ๖๒ ทั้งสองคดี จากตำรวจจะถึงอัยการ และจากอัยการจะถึงศาลมั้ย?
ประเทศไทย ที่ข้าราชการประจำ-ข้าราชการการเมืองทุกคนมีหน้าที่ แต่กว่าร้อยละ ๖๐-๗๐ ไม่เคยมีความรับผิดชอบตามหน้าที่เลย!
อย่างเมื่อวาน (๒๕ ธค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์
กรณีชาวบ้านที่สมุทรสาคร คัดค้านสร้างโรงพยาบาลสนาม รักษาอาการโควิดแรงงานต่างด้าว พลเอกอนุพงษ์ ตอบหน้าตาเฉย
“เรื่องนี้เป็นของทางสาธารณสุข”!?
และอีกตอน ท่านบอกว่า…..
“สำหรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง และไม่มีใครยืนยันว่า “แรงงานผิดกฎหมาย” มีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งทั่วประเทศมีจำนวน ๓-๔ แสนคน
แต่เป็นตัวเลขที่เขาประเมินกัน
ซึ่งผมและคนที่พูดก็ไม่มีฐานที่มาของตัวเลข แต่เป็นการประมาณการ
แต่เมื่อประกาศให้ลงทะเบียบแล้วจะมีจำนวนเท่าไหร่ เมื่อทั้งหมดอยู่ในระบบต่อไปก็จะบังคับใช้กฎหมายได้เต็มที่”
ฟังแล้ว ต้องร้องในใจ………
“นี่กูมีรัฐมนตรีมหาดไทย” คนเดิม-คนเดียว “มาร่วม ๗ ปีได้อย่างไร?”ทเพราะอำนาจหน้าที่มหาดไทย หลักๆ มีว่า
บำบัดทุกข์บำรุงสุข, รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน, อำนวยความเป็นธรรมให้สังคม, ส่งเสริมและพัฒนาการเมืองการปกครอง
พัฒนาการบริหารราชการส่วนภูมิภาค, การปกครองท้องที่, การส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและพัฒนาชุมชน, การทะเบียนราษฎร
ความมั่นคงภายใน, กิจการสาธารณภัย, การพัฒนาเมือง และฯลฯ
ดูท่า รัฐมนตรีคนนี้ จะลืม!?
โควิดระบาด ชาวบ้านค้านไม่ให้ตั้งโรงพยาบาลสนามใกล้ชุมชนเขา รัฐมนตรีมหาดไทยตอบหน้าตาเฉย “เป็นเรื่องของสาธารณสุข”!
แถมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมีเท่าไหร่ บอก “ไม่ทราบ”
ลำพังตัวเองไม่ทราบก็อึ้งอยู่แล้ว ท่านยังใช้คำว่า
“ยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง”!!!
เฮ้อ….
อยากเรียนท่านรัฐมนตรีอุดมศึกษาฯ “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” อย่าเพิ่งทำยานอวกาศไปดวงจันทร์เลยครับ
แรงงานต่างชาติ ทั้ง “เถื่อน-ไม่เถื่อน” จะยึดประเทศไทยอยู่รอมมะร่อ
ระดับรัฐมนตรีมหาดไทยท่าน “ไม่ทราบ-ไม่รู้” ว่าต่างชาติที่ลอบเข้ามาผิดกฎหมายคลั่กประเทศมีเท่าไหร่
หันมาพัฒนาคุณภาพและวิสัยทัศน์พวกข้าราชการและนักการเมืองก่อนดีมั้ย?
ปัญหาโควิด มันคือปัญหาระดับชาติ ขนาดจ่อคอหอยยังเกี่ยงหน้าที่มึง ไม่ใช่หน้าที่กู
แล้วอะไร-ตอนไหนล่ะครับ ที่รัฐมนตรีอนุพงษ์คิดว่า นี่งานมหาดไทย?
“งานเป็น-งานตาย” ต้องตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาโควิด พูดได้ไง “เรื่องนี้เป็นของทางสาธารณสุข”?
จังหวัด….
“ผู้ว่าราชการจังหวัด” มีอำนาจหน้าที่เต็ม ท่านกับปลัดฯ มหาดไทย เป็นผู้แต่งตั้งแต่ละผู้ว่าฯมิใช่หรือ?
ผู้ว่าฯ คือเจ้าเมือง…..
คนเป็นเจ้าเมือง โดยหน้าที่ ต้องคลุกคลีกับชาวบ้านแต่ละพื้นที่ จนมีความคุ้นเคยกันพอสมควร
หมายความว่า ผู้ว่าฯ กับชาวบ้าน ต้องไม่เป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน มีอะไรพูดจากันรู้เรื่องตามประสาพ่อเมืองกับลูกเมือง
ในภาวะที่ผู้ว่าฯ เป็นผบ.พื้นที่ มีอำนาจตามพรก.ฉุกเฉินในพื้นที่ เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมโรค และเป็นทั้งพ่อเมือง
จะสร้างโรงพยาบาลสนาม ไม่ใช่เพื่อแรงงานต่างชาติ แต่เพื่อคนทั้งจังหวัด-ทั้งประเทศ ลูกเมืองกลัว…ต่อต้าน ไม่ยอมให้สร้าง พูดจาให้เข้าใจกันไม่ได้
มันแสดงถึงอะไร?
“พ่อเมือง” ปกครองเมือง ไม่ได้ใจ “ลูกเมือง” เลย แสดงว่าเข้าไม่ถึงปรัชญาบริหารและปกครองของ “พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” เลย
พูดชัดๆ คือ “ห่างเหิน” กัน จนพ่อเมืองไม่อยู่ในใจชาวบ้านที่จะพูดจากันได้
ความจริงก็น่าเห็นใจอยู่……..
พลเอกอนุพงษ์ ท่านเป็นเทพ เหาะลงมาเป็นนักการเมือง ในเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทย
ไม่เคยลงเลือกตั้ง จึงมีแต่วิสัยทัศน์ “ขุนศึก-ศักดินา” เต็มตัว ไม่เข้าใจคำว่า “พื้นที่และชาวบ้าน” ฟังท่านพูดเมื่อวานแล้ว เห็นชัด ไม่มีอะไรที่มหาดไทยจะรับรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคมรวมร่วมกันเลย
ปัญหาโควิดที่มหาชัยกับแรงงานข้ามชาติเถื่อน สรุปตามท่านพูด ล้วนเป็นเรื่องหน่วยงานอื่นทั้งสิ้น ไม่สาธารณสุข ก็กระทรวงแรงงาน
ยุบกระทรวงมหาดไทยทิ้งซะ ดีมั้ยจ๊ะ?
