ผักกาดหอม
คำว่า “การเมือง” อย่าให้เฉียดอะไรเด็ดขาด
เพราะมันจะฉิบหายหมด!
เห็นพรรคเพื่อไทย และพวกฝ่ายแค้นทั้งหลายบอกว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบโทษฐานปล่อยให้โควิดระบาดรอบใหม่
บางคนถึงขนาดบอกว่ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังไร้น้ำยา
ไปไกลถึงขนาด ถ้านายกฯ ชื่อทักษิณ จบไปนานแล้ว
….ถุย…
พ่นกันไปเรื่อย
น้องๆ หนูๆ ๓ นิ้ว มามุงกันหน่อย เผื่อบางคนเกิดไม่ทัน ไม่รู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยบ้าง
ช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดมาสู่ประเทศไทย ระหว่างปี ๒๕๔๖-๒๕๔๗ ในยุครัฐบาลชื่อทักษิณ ชินวัตร มีวิธีการแก้ปัญหาที่สุดอัปยศ
เลือกที่จะปิดข่าว
ตั้งใจไม่ให้ประชาชนรู้ จนกระทั่งมีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นศพแรก ความแตก “ทักษิณ” ต้องลงทุนกินไก่ออกสื่อโชว์ หวังว่าประชาชนจะคลายความวิตกลง
ส่วน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีสาธารณสุขในขณะนั้น นั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ทำอะไรไม่ถูก
แต่มาวันนี้เก่งกันจัง
สถานการณ์ของหวัดนก กับโควิด เทียบกันไม่ได้เลย
โควิดเป็นวิกฤติของโลก การระบาดจากคนสู่คน รวดเร็วรุนแรงกว่าหวัดนกที่ติดจากไก่หลายเท่าตัว จำชื่อ “น้องกัปตัน” เด็กชายวัย ๖ ขวบ ชาวอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ได้หรือเปล่า
๒๖ มกราคม ๒๕๔๗ น้องกัปตันเป็นผู้ป่วยไข้หวัดนกที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นรายแรก
จำได้หรือเปล่า พ่อของน้องกัปตันพูดน้ำตานองหน้า
“…ทำไมรัฐบาลต้องปกปิด ไม่บอกความจริงว่าไก่ตายเพราะไข้หวัดนก จะได้ป้องกันไม่ให้ลูกไปใกล้ชิดกับไก่ ไม่งั้นลูกผมก็คงไม่ตาย
มาถึงตอนนี้ผมไม่อยากเรียกร้องอะไรทั้งนั้น เพราะรัฐบาลรู้ดี เขาพูดอะไร ทำอะไรไปบ้าง เขาเป็นผู้บริหารประเทศ คนเป็นดอกเตอร์ไม่น่าทำแบบนี้ มันไม่คุ้มเลยกับชีวิตคนหนึ่งคน
ถ้าผมขออะไรได้ตอนนี้ ผมก็อยากได้ชีวิตลูกผมคืน…”
ผลของการปกปิดข้อมูล ทำให้เด็กคนหนึ่งต้องตาย
หากน้องกัปตันยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้อายุ ๒๒
ก็…รุ่นราวคราวเดียวกับน้องๆ ม็อบ ๓ นิ้ว
ที่ขุดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้รู้เรื่องราวในอดีตว่า ใครทำอะไรเอาไว้บ้าง
วันนี้นักการเมืองบางคนทำตัวเก่งกาจสามารถ จนเด็กๆ หลงเชื่อยกให้เป็นไอดอล
ก็ดูกันไว้.
