เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในภาคเกษตรที่รัฐอิสราเอลภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (TIC)” สร้างรายได้ต่อหัวเดือนละ 48,073 บาท
โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โดย ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญกับการจัดส่งแรงงานแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งในปี 2564 ประเทศไทยมีเป้าหมายจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ 100,000 คน โดยในแต่ละปีจะมีรายได้ส่งกลับประเทศกว่า 140,000 ล้านบาท
จากการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้ต้องชะลอการจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ จนถึงปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลง เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรการต่างๆ ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้
และในวันนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จัดส่งแรงงานไทย จำนวน 264 คน เป็นชาย 257 คน หญิง 7 คน เดินทางไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers:TIC)” และเตรียมทยอยเดินทางภายในสิ้นปีนี้อีกกว่า 800 คน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ทั้งสิ้น 2,000 คน
นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ให้ความสำคัญกับการส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากถือว่าแรงงานที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ เป็นผู้นำรายได้เข้าสู่ประเทศ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมทั้งยังสามารถนำทักษะประสบการณ์การทำงานที่ได้กลับมาพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทั่วโลกพบความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยิ่งย้ำให้เห็นว่าแรงงานไทยมีทักษะเป็นที่ต้องการ รวมทั้งประเทศไทยมีนโยบายการบริหารจัดการโรคโควิด-19 เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ
นางธิวัลรัตน์ กล่าวกับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปอิสราเอลว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฝากความห่วงใยมายังแรงงานไทยทุกคนที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล โดยขอให้ศึกษากฎหมายวัฒนธรรมประเพณีของประเทศอิสราเอล ที่สำคัญให้หลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อบายมุข เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เสียงานได้ เนื่องจากกฎหมายของประเทศอิสราเอลมีการลงโทษที่รุนแรง
นอกจากนี้ ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาพัฒนาประเทศ รู้จักเก็บออมเพื่อนำรายได้ส่งกลับให้ครอบครับ รวมทั้งให้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับการสงเคราะห์และช่วยเหลือเมื่อประสบปัญหาในต่างประเทศ ตามอัตราที่กองทุนฯ กำหนด และเน้นย้ำให้แรงงานไทยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 อีกด้วย ทั้งนี้รัฐบาลอิสราเอลได้แจ้งความต้องการให้แรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตร จำนวน 2,000 คน
โดยกรมการจัดหางานได้เริ่มจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรฯตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีแรงงานเดินทางไปแล้ว จำนวน 858 คน และวันนี้จะมีแรงงานเดินทางไปอีก 264 คน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำพิเศษ สายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY 082 ออกเดินทางจากประเทศไทยเวลา 09.20 น. และมีกำหนดถึงปลายทางกรุงเทลอาวีฟเวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น และเตรียมทยอยเดินทางไปอีกในวันที่ 17 และ 24 ธันวาคม 2563 ประมาณ 800 คน
สำหรับโครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) มีระยะเวลาการจ้างงาน 2 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการต่ออายุใบอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติของนายจ้างและวีซ่าการทำงาน ตามข้อกำหนดของกฎหมายรัฐอิสราเอล โดยคนหางานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 48,073 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น)
ทั้งนี้ ผู้สนใจเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน