27 พ.ย.63-ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ประชาชนติดตามผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีอาศัยในบ้านพักทหาร เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อาศัยบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักทางราชการทหาร บ้านนี้เป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.ประยุทธ์ และครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเกษียณอายุราชการมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2557 และไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพักอาศัยให้ทางราชการ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา คิดเป็นมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. กำหนดเอาไว้
ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายรับประโยชน์ใดจากหน่วยงานราชการ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ และยังเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินของศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เป็นเหตุทำให้ความเป็น นายกฯ และ รมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ
ผศ.ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า การอ้างว่าการพักอยู่ในค่ายทหารมีความปลอดภัยกว่านั้นฟังไม่ขึ้น เพราะนายกฯท่านอื่นก็พักอาศัยอยู่บ้านพักของตัวเองได้ ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากสื่อหลายแห่งว่า ในปี 2555 ทบ. ได้มีการทำเรื่องเปลี่ยนสภาพ บ้านพักสวัสดิการให้เป็นบ้านพักรับรอง ซึ่งเป็นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในกองทัพบก
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกรณีคดีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ปมลูกจ้าง-ค่าตอบแทน ที่จัดรายการชิมไปบ่นไป และรายการยกโขยงหกโมงเช้า และถูกตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งไป ตรงนี้เป็นบรรทัดฐาน จึงขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้และร่วมฟังผลคำวินิจฉัยที่จะออกมาพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่างกระจ่างชัดยิ่งขึ้น