เปลว สีเงิน
นายกฯ นี่…
แสดงว่า “เล่นสนุ๊ก” เป็น
หลังจากถูก “ธนาธร-ปิยบุตร” วางสนุ๊กให้ตามแก้ตลอด เกม “ล้มสถาบัน” มา ๒-๓ เดือน
ใช้จังหวะตอนขบวนการ ๓ นิ้วคราบนักเรียน-นักศึกษาออกลาย “ถ่อย-เถื่อน” หยาบกร้านผิดวิสัยคน จนต้องถามกันว่า
นี่หรือ “อาจารย์-นักศึกษาและกลุ่มคน ซึ่งเมื่อล้มสถาบันไปแล้ว จะมาเป็นคนนำประเทศในอนาคต?”
ประชาชนทั้งหลายซึ่ง “วางเฉย” แต่แรก
เริ่มแสดงอาการรังเกียจด้วย “ยอมรับไม่ได้” ให้เห็นมากขึ้น จน ๒-๓ วันมานี้ ……..
“ใจภักดิ์สั่งมา” พากันสวมเสื้อเหลืองออกมารวมตัวให้ปรากฏตามสถานที่ตางๆ ทั่วทั้งประเทศ
นอกจากเป็นสัญญานเตือนสาวก “ลัทธิชังชาติ” ที่ “ธนาธร-ปิยบุตร” เป็นศาสดาว่า “พวกกูไม่เอามึง” แล้ว
ยังเป็นสัญลักษณ์ ยืนยันถึง……
“ประเทศไทย” กับ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ต้องอยู่คู่กันตลอดไป ใครจะแบ่งแยกออกจากกันไปไม่ได้เด็ดขาด!
นี่……
เมื่อ “ธนาธร-ปิยบุตร” แทงพลาด เซ็นจูรีเบรกที่หวังพังทลายเช่นนี้
ถึงตานายกฯ ออกจากมุม ไม่ผลีผลาม ใช้จังหวะนั้น จ่อคิวตูดขาว สาวนิ่มๆ เนิบๆ
“วางสนุ๊ก” กลับ
แทงขาวไปไว้หลังดำ ให้ ๒ ศาสดา “ลัทธิล้มเจ้า” เป็นฝ่ายแก้เกมบ้าง
แถลงการณ์ค่ำวานซืน (๒๑ ตค.๖๓) นั่นแหละ “สนุ๊กนายกฯ” วางได้มิดหรือไม่ ก็ลองพิจารณากันดู
“วันนี้ ผมมาพูดกับทุกท่าน เป็นช่วงเวลาที่ผมหวังว่า ในอนาคต เมื่อเรามองย้อนกลับมาที่ช่วงเวลานี้ เราจะสามารถพูดได้ว่า
นี่คือ ช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนได้ ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง สละความรู้สึกส่วนตัว ความต้องการส่วนตัวบางอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ
……………………
“ทุกสิ่งที่ผมทำ ผมคำนึงถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศเสมอ คนส่วนใหญ่ที่นิ่งเงียบ ที่กำลังพยายามทำมาหากินอย่างหนัก หาเลี้ยงปากท้องของตัวเองและครอบครัว
ผมต้องบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
…………………….
“เราไม่สามารถบริหารประเทศตามเสียงประท้วงหรือความต้องการของผู้ประท้วงกลุ่มต่างๆ ทุกกลุ่มประท้วงได้
แม้ผมจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมได้ยินเสียงความต้องการของผู้ประท้วงก็ตาม”
……………………
“ในเวลานี้ เราต้องถอยกันคนละก้าว เพื่อออกห่างจากทางที่จะนำไปสู่ปากเหว เส้นทางที่จะพาประเทศไทยของเราค่อย ๆตกลงไปสู่หายนะ และสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมจะเริ่มเกิดขึ้นมากขึ้นๆ
การใช้อารมณ์ความรู้สึกนำ ก็จะยิ่งสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่ร้อนมากยิ่งขึ้น และการใช้ความรุนแรง จะยิ่งนำมาซึ่งความรุนแรงที่มากกว่าเดิม
สิ่งเหล่านี้ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ได้สอนเรามาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตอนจบของทุกครั้ง ก็คือ ความเสียหาย ที่ทิ้งไว้กับประเทศ”
……………………….
“เราจะไม่สามารถได้มาซึ่งสังคมแบบที่เราต้องการ ด้วยการใช้คีมเหล็กขนาดใหญ่ ตีใส่กัน
หรือด้วยการทำลายเศรษฐกิจ การหาเลี้ยงปากท้องของคนไทยด้วยกัน
หรือด้วยการโจมตีสถาบันอันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของคนไทย
ขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถได้มาซึ่งสังคมแบบที่เราต้องการ ด้วยการขอคืนพื้นที่ ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ด้วยเช่นเดียวกัน”
………………..
“วิธีเดียว ที่เราจะได้ทางออกของปัญหา ที่จะยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทั้งสำหรับประชาชนที่ออกมาอยู่บนท้องถนน และสำหรับประชาชนอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่ได้ออกมา
คือ การพูดคุยกัน ทำงานด้วยกัน ผ่านระบบ และกระบวนการของรัฐสภา”
มิด-ไม่มิด…..
“ทอน-ปิยบุตร” จะแทงตรง แทงลอด แทงชิ่ง-กี่ชิ่ง จะเอาขาวไปกิ๊กแดงให้กลิ้งลงหลุมเข้าเบรกใหม่ได้หรือไม่ จากวันนี้เป็นต้นไป ดูกันไปช็อตต่อช็อต
สนุ๊ก “ถอยคนละก้าว” น่าจะเกิดเหลี่ยมในมุมเหลื่อม อย่างน้อย ต้อง ๓ ชิ่ง ที่ธนาธร-ปิยบุตร จะแทงแก้
-ประกาศยกเลิก พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง เรียบร้อยแล้ว
-เปิดรัฐสภา ให้ “สส.-สว.” ถกกัน ๒๖-๒๗ ตค.นี้แล้ว
-ซอมบี้สาวก “ลัทธิชังชาติ” ได้ประกันตามฐานานุรูปแล้ว
-รัฐไม่หลงกลยั่วให้เกิดปะทะเพื่อลากต่างชาติเข้าแทรก
-“ทั่วประเทศ” พร้อมออกมารุมกระทืบ “ซอมบี้ ๓ นิ้ว” แล้ว
เออ….ดูๆไป
มันมากกว่า ๓ ชิ่งนะ ที่เจ้าลัทธิชังชาติต้องแทงให้เนี๊ยบ อย่าให้ขาวกิ๊กดำก่อนถึงแดงได้เชียว ไม่งั้น กิโยตินแทนแป้นประธานาธิบดี
ชักซอยคิวเป๋ๆ แล้วไงล่ะ แหกปากร้องให้เปิดรัฐสภาวิสามัญ เพื่อพูดจาหาทางออก พอรัฐบาลเขาเปิดให้
ออกลายเกเร!
“ฝ่ายค้าน” ใต้ลัทธิชังชาติ จะขอใช้เวทีรัฐสภาจวกเรื่องสถาบัน
การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๕๖ ที่จะตั้่งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ ได้คืบเอาศอก จะแก้หมวด ๑ หมวด ๒ ว่าด้วยความเป็นราชอาณาจักรไทยและ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ด้วย
ถ้าไม่โอเค.พวกเขา “อาจจะ” ไม่ร่วมประชุม!
แบบนี้ ตามสเป็ก “หนังเหี้ยแท้รับประกันที่ลาย” แต่สังคมชาติไทย ยอมรับแต่ลายหนังจระเข้ ส่วนลายหนังเหี้ย รับไม่ได้
สนุ๊กนายกฯ น่าจะแก้ยากพอควร
เห็นเมื่อวาน (๒๒ ตค.) ทั้งธนาธรและปิยบุตร ออกอาการเอาสีข้างเข้าถู
ไม่ลื่นไหล เหมือนตอนเป็นฝ่ายวางสนุ๊ก ที่จิ้มพรวด..จิ้มพรวด
ออกคีย์เวิร์ดให้เอาไปปั่นแฮชแท็ก ส่งรหัสนัดหมาย วันนี้-เวลานี้ จะไปชู ๓ นิ้วกันจุดไหน ปิดสถานีรถไฟฟ้าไหน จะให้ไปฉีก ไปฉีด ไปชูป้าย หมิ่นหยามสถาบันกันลีลาไหน?
เรียกว่าออกแคมเปญทำการตลาด “ล้มเจ้า” ในแต่ละวัน “เข้าเบรก” ลื่นไหล มันมือ
พอถูกสนุ๊กบ้าง หงุดหงิด
แบบนี้ ซอมบี้ ๓ นิ้ว ต้องระวัง อาจถูกเร่งเครื่อง “สั่งไปตาย” สังเวยเกม “สร้างสถานการณ์” ใช้เป็น “เงื่อนไขใหม่” ในทางต่อเกม “ล่มชาติ-ล่มสถาบัน” ของเขา
แต่ผมไม่หวังได้เห็นการ “ได้สติ-ได้สำนึก” จากสาวกลัทธิ ๓ นิ้ว จากกลุ่ม “นักวิชาการ-อาจารย์-นักศึกษา”
พวกนี้ มีการศึกษา “อะไรผิด-อะไรถูก” ผู้อยู่ในเส้นทางบัณฑิต พึงรู้โดยวิสัย
นั่นคือ ที่เขาทำ ไม่ใช่ไม่รู้ หากแต่ “เจตนา-จงใจ” ทำ!
บัณฑิต “ลายลอก” เป็นอันธพาล จึงเป็นภาพ “น่าขัน-น่าสมเพช” ต่อสายตาตลาดมหาประชาชนตอนนี้
ถ้าจริงใจที่ว่าเพื่อแก้ปัญหาประเทศให้ดีขึ้น ก็ตอนนี้ นายกฯ “ผมยอมถอย” ให้มาหาทางแก้ด้วยกันแล้วไง?
ผิดแผนใช่มั้ย จะถอย-จะถองไม่สน ให้นายกฯ “ลาออก” ลูกเดียว ถึงขั้นส่งซอมบี้บุกทำเนียบกลางค่ำ-กลางคืน เขียนหนังสือลาออกไปให้นายกฯ เซ็นต์
บ้าหรือดี บัณฑิตหรืออันธพาล สิ่งที่ทำคือตอบในตัว
ความผิดนายกฯ ตามหนังสือให้เซ็นลาออก ลีลาหมาป่ากล่าวหาลูกแกะ ผมจะแกะตามคำมาให้ดู เป็นเช่นนี้
-ใช้อำนาจบาตรใหญ่
-ซื้อสิทธิขายเสียง บังคับขู่เข็ญ
-ร่างรัฐธรรมนูญโจร
-ต่อรองผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่
-ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นคนข้ออ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทีนี้ มาดูชาวบ้าน “มองนายกฯ” บ้าง ผมลอกจากที่คุณ “สันติ ประจญ” โพสต์โซเชียลมีเดียมาให้พิจารณากัน
“สันติ ประจญ”
ข้อดีลุงตู่ตามนี้ อ่านเอา จากคนอีสานชาวนา ครับ
อย่ามาคอมเมนท์ด่าผมว่า ภาษีมึงภาษีกูนะ กูจุดธูปกลับหัวสาปมึงนะ
ข้อดีลุงตู่
ช่วย…ชาวนาไร่ละพัน
ช่วย…เด็กแรกเกิดคนละ ๖๐๐ บาท
ช่วย…เงินคนพิการ ๑,๐๐๐ บาท
คนแก่ ชรา เยียวยา โควิด หมื่นห้า บัตรคนจน
เจ้าลัทธิ “ทอน-ปิยบุตร”…..
แก้สนุ๊กช็อตนี้ให้ดีนะ อย่าให้คิวทิ่มเข้ารูตูดตัวเองได้เชียว!