22 ตุลาคม 2563 นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมวานนี้ ว่า เป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยตระหนักเลยว่าตนเองเป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องอยู่ในขณะนี้
การบริหารประเทศต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำมาโดยตลอด ด้วยรากฐานเดิมที่ไม่แข็งแรงเมื่อเจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบหนักกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน
อย่างไรก็ดี สิ่งที่รัฐบาลต้องทำเป็นอันดับแรกๆ เพื่อฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติโควิด-19 คือ การกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะการทำให้กลุ่มเกษตรกรซึ่งมีอยู่ราว 38% ของจำนวนประชากรมีกำลังซื้อ แต่ปรากฏว่าภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศต้องเผชิญกับปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะราคาข้าวที่ล่าสุดตกฮวบลงมาเฉลี่ยเหลือเพียงกิโลกรัมละ 6-7 บาท ซึ่งเท่ากับต้นทุนของการทำนา แม้ภาครัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท แต่ก็ยังประสบกับภาวะขาดทุนอยู่ดี
ในขณะที่โครงการประกันรายได้ก็ดำเนินการช้า ไม่ทันกับความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร อีกทั้งนโยบายในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาในเรื่องวิชาการ การลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาพันธุ์ข้าวก็ไม่ชัดเจน
“แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมเป็นการตอกย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สำนึกเลยว่าตนคือศูนย์กลางของปัญหาการเมืองในขณะนี้ และยังล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคาข้าวตกต่ำเป็นประวัติการณ์
ดังนั้นคนที่ควรถอยคือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ประชาชน ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออก แต่หากยังดึงดันจะอยู่ต่อ นอกจากจะเจอการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาแล้ว ระวังจะเจอการชุมนุมของชาวนาเพิ่ม”