อย. – อภัยภูเบศร จับมือพัฒนาระบบฐานข้อมูลการใช้ยากัญชาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ง่ายต่อการใช้งาน ตั้งเป้าผลักดันยากัญชาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติภายในปี 2564 เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยากัญชาที่ปลอดภัย และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง”
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พัฒนาระบบฐานข้อมูลรองรับการบันทึกข้อมูลการใช้ยากัญชาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ และเป็นมิตรกับผู้ใช้ (user friendly) มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็น เพียงพอ สำหรับการเสนอบรรจุตำรับยากัญชาในบัญชียาหลักแห่งชาติให้ได้ภายในปี 2564
โดยตั้งเป้าภายใน 3 เดือนนี้ จะเริ่มทดลองใช้ระบบนี้เพื่อเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ใช้ตำรับยากัญชาแผนไทยและยาสารสกัดกัญชาในการรักษาผู้ป่วย โดยจะมีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานทุกเดือน
ซึ่งหากสามารถผลักดันให้ตำรับยากัญชาขึ้นบัญชียาหลักแห่งชาติได้ จะทำให้ทราบปริมาณความต้องการใช้ยากัญชาที่ชัดเจน เกษตรกรก็จะสามารถวางแผนการปลูกกัญชาให้สามารถป้อนวัตถุดิบกัญชาได้เพียงพอต่อความต้องการ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
เภสัชกรหญิง ดร. สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวต่อไปว่า นอกจากความร่วมมือในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลแล้ว อย. – และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภับภูเบศรยังมีแผนร่วมพัฒนาแชทบอท (chatbot) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข
โดยเริ่มจากการให้ข้อมูลด้านบริการสำหรับผู้ป่วยเพื่อให้สามารถเข้าถึงการบริการและข้อมูลการใช้ยากัญชาที่ถูกต้อง และจะขยายการให้บริการครอบคลุมกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนักวิชาการ ต่อไป
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง อย. และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้ป่วยด้วยกัญชาทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชาที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน อย่างทั่วถึง ส่งเสริมให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีคุณค่าทางการแพทย์ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและประเทศไทย ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง”