พล.อ.ประวิตร สั่งประเมินและรับมือกับภัยคุกคามทางทะเลที่กระทบผลประโยชน์ชาติ จาก COVID-19 ย้ำการมีส่วนร่วมสำคัญยิ่ง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รองนรม. เปิดเผยว่า เมื่อ 24 ก.ย. 63  เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ครั้งที่ 2/63 ณ สมช. ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์ภัยคุกคามทางทะเลที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติและเตรียมแผนรองรับอย่างเป็นระบบ

ที่ประชุมรับทราบ สรุปการประเมินสถานการณ์ทางทะเล ที่มีผลกระทบหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 พบว่า ภาพรวมสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเลตึงเครียดขึ้น มีการเผชิญหน้าระหว่างประเทศทางทะเลมากขึ้น ระบบการปฏิบัติการความมั่นคงทางทะเลถูกลดขีดความสามารถลง จากการงด เลื่อนหรือยกเลิกกิจกรรมความร่วมมือทางทะเล
ซึ่งองค์กรและหน่วยงานทางทะเลระหว่างประเทศ ได้กำหนดมาตรการเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดตามมาอย่างต่อเนื่อง พบการลักลอบเข้าเมืองทางทะเลของกลุ่มชาวโรฮีนยาจากบังคลาเทศไปยังมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังพบอัตราการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือสูงขึ้น ขณะที่การปฎิบัติการช่วยเหลือทางทะเลมีความยากลำบากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศไม่อนุญาตให้เรือที่พบผู้ติดเชื้อเข้าเทียบท่า
ในขณะเดียวกัน ผลกระทบเศรษฐกิจทางทะเล พบการทำประมงผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น จากการระดมทรัพยากรทางทะเลของประเทศต่างๆ ซึ่งแรงงานภาคประมงผิดกฎหมาย ที่ไม่ผ่านการคัดกรองยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด การท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่งหดตัวลง การขนส่งสินค้าทางทะเลลดลง การผลิตน้ำมันดิบลดลง ด้านทรัพยากรทางทะเลสมบูรณ์ขึ้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง แต่พบปริมาณขยะทางทะเลมีเพิ่มขึ้น จากขยะทางการแพทย์และขยะพลาสติกที่เกิดจากการบริการอาหารจานด่วน
นอกจากนั้นได้รับทราบ การขับเคลื่อนแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลที่ผ่านมา (ปี 58-64) มุ่งบูรณาการเชื่อมโยงให้สอดรับกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนสำคัญของประเทศและนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญของรัฐบาล รวมทั้งสถานการณ์และภัยคุกคามทางทะเล โดยมีโครงการและกิจกรรมต่างๆและมีการวัดผลสัมฤทธิ์สะท้อนความสำเร็จในแต่ละปีงบประมาณ โดยการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ( ศรชล.)
สำคัญที่ผ่านมา ได้รักษาษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ด้วยการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศและกฏหมายระหว่างประเทศ โดยยึดหลักมนุษยธรรม ทั้งการนำเข้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายเข้าในราชอาณาจักร การทำประมงผิดกฎหมาย การควบคุมป้องกัน COVID-19 และคัดกรองประชาชนและชาวประมงกว่า 624,500 คน รวมทั้งการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการจัดระเบียบประมงชายฝั่ง เป็นต้น


ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา แนวทางการจัดทำแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลฉบับใหม่ ปี 66-70 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570 ) โดยให้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ รวมทั้งภัยคุกคามในเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาคและประเทศไทย ร่วมกับการติดตามและประเมินผลการดำเนินการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลที่ผ่านมา
โดยให้ตรวจสอบและรวบรวมประเด็นทางทะเลในยุทธศาสตร์ชาติและแผนระดับชาติให้มีบูรณาการเชื่อมโยงกัน พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ทั้งนี้ให้จัดตั้งกลไกเพื่อจัดทำร่างแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลฉบับใหม่ให้ครอบคลุมทุกมิติ
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ขับเคลื่อนงานตามแผนงานให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ( ศรชล.) ประสานการทำงานร่วมกับ กอ.รมน.ในพื้นที่ทางบก ทั้งการแก้ปัญหาเร่งด่วนและการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต และให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ในภาคประมงมากขึ้น
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการควบคู่กับการเสริมสร้างองค์ความรู้และศึกษารูปแบบการจัดตั้งองค์กรจัดการความรู้ทางทะเล กระจายให้ความรู้กับท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมกันรับผิดชอบของทุกภาคส่วนให้มากที่สุด รวมทั้งให้นำผลจากข้อเสนอแนะทางวิชาการไปใช้ประโยชน์ ในการประเมินผลการบริหารจัดการผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล ที่เน้นความยั่งยืนเป็นสำคัญ
Written By
More from pp
“ทิพานัน” แจ้งข่าวดีผู้ประกอบการ SMEs ท่องเที่ยวเมืองรอง “พล.อ.ประยุทธ์” ปลดล็อกอาคารลักษณะพิเศษ บังกะโล ตู้คอนเทนเนอร์ แพ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม
“ทิพานัน” แจ้งข่าวดีผู้ประกอบการ SMEs ท่องเที่ยวเมืองรอง “พล.อ.ประยุทธ์” ปลดล็อกอาคารลักษณะพิเศษ บังกะโล ตู้คอนเทนเนอร์ แพ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม
Read More
0 replies on “พล.อ.ประวิตร สั่งประเมินและรับมือกับภัยคุกคามทางทะเลที่กระทบผลประโยชน์ชาติ จาก COVID-19 ย้ำการมีส่วนร่วมสำคัญยิ่ง”