จากกรณี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2563 เวลา 08.10 น. เกิดเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองครูขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง รักษาความปลอดภัย แก่ครูบริเวณถนนสายชนบท บ้านปะกาลือสง หมู่ที่ 6 ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4305 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลหนองจิก จังหวัดปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง คือ อาสาสมัครทหารพราน เอมลุคมาน หะยีแส อายุ 23 ปี
และในเวลาไล่เลี่ยกัน ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส บริเวณหัวสะพานบ้านกาลิซา หมู่ที่ 2 ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส คนร้ายได้ลอบวางระเบิด ชุดคุ้มครองครู แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ กองร้อยทหารพรานที่ 4508 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อภายหลังประกอบด้วย สิบโท บึงกาฬ หารสาร อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ, อาสาสมัครทหารพราน รุสมาน นาเดวี อายุ 32 ปี และ อาสาสมัครทหารพราน ฐิติพงศ์ ยอดทอง อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะ จังหวัดนราธิวาส
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และพิสูจน์หลักฐาน ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบในพื้นที่ เพื่อค้นหาหลักฐาน และตรวจสอบวัตถุพยาน
พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนเต็มรูปแบบวันแรก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ได้มีการคาดการณ์ไว้แล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาเหตุการณ์ต่างๆ เงียบพอสมควร ซึ่งก็ได้สั่งการให้ทุกฝ่าย ดูแลเฝ้าระวังไว้แล้ว โดยชุดคุ้มครองครูถือเป็นชุดตั้งรับที่ทำหน้าที่ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษา และจุดที่คนร้ายก่อเหตุเป็นจุดเส้นทางบังคับ เช่น ทางโค้ง หรือคอสะพาน ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงมักคอยอาศัยจังหวะก่อเหตุเสมอ
จากนี้ไปได้สั่งให้หน่วยได้ปฏิบัติการเชิงรุก จรยุทธ์เต็มรูปแบบกดดันคนร้ายไม่ให้หลบซ่อนตามพื้นที่ป่าเขาหรือบ้านของผู้ให้การสนับสนุนได้ ยืนยันว่าจะต้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ทำร้ายประชาชน และกระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มแข็งและเด็ดขาด ในส่วนของผู้ที่พร้อมจะเข้ามาพูดคุยเพื่อสร้างความสันติสุข เราก็พร้อมจะดูแลอยู่แล้ว เพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ ขอให้พี่น้องประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมั่นใจในแนวทางแก้ไขปัญหาที่ทำร่วมกันอยู่ตอนนี
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยดูแลด้านสิทธิกำลังพลอย่างเต็มที่และเร่งด่วน และขอให้ความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากพบเห็นบุคคลที่ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งไปยังหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร.06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
