สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทย วันที่ 12 สิงหาคม 2563

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา 1 ราย, อินเดีย 1 ราย, อียิปต์ 3 ราย)

เข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้และรัฐกำหนด

มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 6 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,169 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.43 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 129 ราย หรือร้อยละ 3.84 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,356 ราย

สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เดินทางมาจาก

สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 50 ปี สัญชาติอเมริกัน อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 (วันที่ 13 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร

อินเดีย 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 18 ปี สัญชาติไทย อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 วันที่ 10 สิงหาคม 2563 (วันที่ 11 ของการกักตัว) เริ่มป่วยวันที่ 3 สิงหาคม 2563  ด้วยอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย

อียิปต์ 3 ราย เป็นเพศชาย อายุ 23, 24 และ 29 ปี สัญชาติไทย อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 30 กรกฎาคม 2563  เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในจังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 วันที่ 10 สิงหาคม 2563 (วันที่ 11 ของการกักตัว) ทั้ง 3 รายไม่มีอาการ โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 6 ราย

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่รับเชื้อในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มีข่าวรายงานการระบาดครั้งใหม่ ในหลายประเทศที่เคยควบคุมโรคได้ดีมาก่อน เช่น ประเทศเวียดนาม นิวซีแลนด์

ดังนั้น ทุกภาคส่วนยังต้องเข้มงวดในมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการกักตัวและตรวจหาเชื้อ โดยเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก และตรวจด้วยวิธี RT-PCR  ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด 19 เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ให้กับผู้คนในประเทศ

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือขณะนี้เริ่มพบหลายสถานที่และกิจการหย่อนมาตรการป้องกันโรค เช่น ปล่อยให้ผู้ใช้บริการเบียดเสียดใกล้ชิด และไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า นับเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วนไม่ได้ลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแพลตฟอร์ม/แอปพลิเคชันไทยชนะ ซึ่งหากมีผู้ติดเชื้ออยู่ในสถานที่เข้าใช้บริการก็จะยากต่อการนำผู้สัมผัสเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังอาการ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรหากประชาชนยังคงเข้มมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ พยายามเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ สำหรับองค์กร สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้หลายวิธี เช่น

การให้พนักงานทำงานที่บ้าน เหลื่อมเวลาทำงาน คัดกรองไข้และอาการป่วยก่อนเข้าพื้นที่ รวมถึงให้พนักงานที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด หยุดงานอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และรีบไปรับการรักษา

หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันโดยเริ่มจากจุดเล็กๆ คือคน และขยายสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม จะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัย สามารถป้องกัน และจำกัดการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ หากพบผู้ติดเชื้อในประเทศอีกครั้ง


Written By
More from pp
“ศ.ดร.นฤมล” ควง “ชวน ชูจันทร์” ลุยเขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน ชู “ป๊อป นิธิ” ทางเลือกพร้อมดูแลปชช.สานต่อตลิ่งชันโมเดลเน้นท่องเที่ยวชุมชน – ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย 360 องศา ดูแลสุขภาพให้ ปชช.เชิงรุก
9 พฤษภาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม. ร่วมกับ...
Read More
0 replies on “สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทย วันที่ 12 สิงหาคม 2563”