กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รายงานผลสำรวจเฝ้าระวังสถานการณ์พฤติกรรมสุขภาพ 3 อ. อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ 2 ส. งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา แนววิถีชีวิตใหม่ New Normal ช่วงการระบาดของโรควิด-19 พบประชาชนสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย ดื่มสุราสังสรรค์ และหลังออกกำลังกายไม่อาบน้ำเมื่อถึงบ้าน
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ในช่วงสถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ประชาชนสามารถยึด หลัก 3 อ. 2 ส. ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยกองสุขศึกษา แนะนำให้ปฏิบัติตาม 3 อ. คือ
อ.ที่ 1 คือ อาหาร เช่น การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง รับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย มีผักและผลไม้ทุกมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และไขมันสูง ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง เลือกซื้ออาหารสด สะอาด และล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุงอาหารทุกครั้ง
อ. ที่ 2 คือ ออกกำลังกาย เช่น ไม่ควรสวมหน้ากาก ขณะออกกำลังกาย ควรเว้นระยะห่างขณะออกกำลังกายจากผู้อื่น อย่างน้อย 2 เมตร รักษาความสะอาดอุปกรณ์กีฬาและของใช้ส่วนตัว และหลังออกกำลังกายควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน
อ. ที่ 3 คือ อารมณ์ เข้าใจกับสถานการณ์ตามความเป็นจริง มีเวลาพักผ่อน ฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และใช้ชีวิตไม่เครียด 2 ส. คือ การงดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา พฤติกรรมตามหลัก 3 อ. 2 ส. เป็นวิธีการที่ปฏิบัติได้โดยทั่วไปที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ในช่วงของสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ตามแนววิถีชีวิตใหม่ New Normal
นายชาญยุทธ พรหมประพัฒน์ ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวว่า จากการสำรวจรายงาน ผลการเฝ้าระวังสถานการณ์ พฤติกรรมสุขภาพ 3อ. 2ส. แนววิถีชีวิตใหม่ (New normal) ของประชาชน (ข้อมูลวันที่ 19 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2563) จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 473 คน พบว่าระดับพฤติกรรมสุขภาพ 3 อ. 2 ส. อยู่ในระดับดี
ด้านพฤติกรรมที่ประชาชนปฏิบัติตัว 3 อ. 2 ส. ได้ดีสูงสุด 3 อันดับแรก คือ เข้าใจสถานการณ์ตามความเป็นจริง มองเห็นโอกาสดีที่เกิดขึ้น เช่น มีเวลาพักผ่อน ฟื้นฟูสุขภาพ ได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ร้อยละ 100 รองลงมา คือ เลือกซื้ออาหารสด สะอาด และล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุงอาหารทุกครั้งร้อยละ 98.9 และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ไม่เครียด ร้อยละ 98.5
ส่วนพฤติกรรมที่ประชาชนปฏิบัติได้ไม่ถูกต้อง 3 อันดับแรก คือ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะออกกำลังกาย มีผู้ปฏิบัติร้อยละ 41.4 รองลงมา คือ ร่วมสังสรรค์ ดื่มสุรา มีผู้ปฏิบัติร้อยละ 19 และหลังออกกำลังกาย เมื่อกลับถึงบ้านไม่อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที มีผู้ปฏิบัติร้อยละ14
ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนดูแลตัวเอง ไม่ควรสวมหน้ากาก ขณะออกกำลังกาย ไม่สังสรรค์ด้วยการดื่มสุราร่วมกัน เพราะมีความใกล้ชิด และอาจใช้แก้วเดียวกันในการดื่ม รวมถึงเมื่อถึงบ้านควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคของท่านและครอบครัว