7 ก.ค.2563 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากผลกระทบของโควิด-19 วงเงิน 400,000 ล้านบาทว่า ในวันที่ 8 ก.ค. พรุ่งนี้ ครม. จะมีการพิจารณาอนุมัติงบเงินกู้ที่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองฯ มาแล้ว ล็อตแรกประมาณ 80,000 ล้านบาท ขอฝากให้ ครม. พิจารณาด้วยความรอบคอบ ดูให้ละเอียดว่ามีโครงการผ่านการกลั่นกรองมาเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่ อย่างไร
ครม. ควรดูว่า โครงการต่างๆ ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพ และการสร้างงานใหม่ในชุมชนได้ทันที เพื่อให้เม็ดเงินกระจายไปถึงมือชาวบ้านโดยตรงอย่างแท้จริงหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยให้มีแต่โครงการที่เม็ดเงินไปผ่านมือผู้รับเหมาหรือบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ
นอกจากนั้น ครม. ควรดูว่ามีโครงการที่จะไปกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมากน้อยแค่ไหนเพียงใด เพราะขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยที่กระจายอยู่ทั่วประเทศยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการปลดล็อคมากเท่าที่ควร ควรมีการอัดเม็ดเงินลงไปกระตุ้นมากกว่านี้
เงินก้อนแรกจากเงินกู้ 400,000 ล้านบาทที่จะผ่าน ครม. ถือว่าเป็นเงินก้อนสำคัญที่ ครม. ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าเงินกู้จะถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนของประเทศอย่างแท้จริง ไม่ใช่ใช้เงินกู้แบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำตามใจผู้มีอำนาจ ควรใช้ให้ตรงจุดเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ถึงแม้งบเงินกู้ 400,000 ล้านบาทจะกำหนดไว้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม แต่ในสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน งบเงินกู้นี้น่าจะช่วยประคองสถานการณ์ ไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือตามที่มีการคาดการณ์กัน
การพิจารณาของ ครม. ในวันที่ 8 ก.ค. นี้จะเป็นด่านแรกของการใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาท ที่จะพิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นว่าการพิจารณาโครงการต่างๆ เป็นไปด้วยความโปร่งใส คุ้มค่าหรือไม่
เป็นการใช้เงินกู้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หรือเป็นการใช้เงินกู้เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งตามที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้
ถ้า ครม. โดยการนำของนายกรัฐมนตรี สามารถพิจารณาใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทล็อตแรกนี้ไปได้ด้วยดี ไม่มีข้อครหานินทาก็จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อการใช้เงินกู้ที่เหลืออยู่
แต่ถ้า ครม. พิจารณาแบบไม่รอบคอบ ปล่อยให้โครงการที่ไม่สมควรใช้เงินกู้ผ่านออกมาก็จะก่อให้เกิดปัญหาต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล
จึงขอให้ ครม. พิจารณาใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส ก่อให้เกิดผลคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริง