เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ในการประชุมสภา นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1พรรคพลังประชารัฐตั้งกระทู้ถามเรื่องการผลักดันให้ป่าฮาลาบาลาเป็นมรดกโลก ซึ่งป่าฮาลาบาลาตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อจังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และประเทศมาเลเซีย เป็นป่าดิบชื้น 1 ใน 3 ป่าฝนเขตร้อนที่มีอยู่ในโลก และได้รับการขนานนามว่า อเมซอนแห่งอาเซียน ในบริเวณผืนป่ามีชนเผ่าพื้นเมือง เงาะป่าซาไก อาศัยอยู่ ปัจจุบันเหลืออยู่ 8 กลุ่ม รวม 500 คน และยังมีนกเงือก กระทิง อาศัยอยู่ จึงอยากทราบว่ารัฐบาลมีแผนเสนอให้ผืนป่าฮาลาบาลาเป็นมรดกโลกหรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ ส.ส.อาดิลัน ยังได้สอบถามเรื่องนโยบายการปราบปรามผู้บุกรุกทำลายผืนป่าในประเทศไทย โดยยกตัวอย่างอำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีข้อพิพาทขึ้นศาล ชาวบ้านบุกรุกที่ดินผู้มีเอกสารสิทธิ์ แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่า จึงอยากทราบว่าจะมีการตรวจสอบ และทวงคืนผืนป่าอย่างไร
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวตอบกระทู้ว่า ปัจจุบันเรามีมรดกโลกทางธรรมชาติอยู่ 2 แห่งแล้ว และกำลังผลักดันผืนป่าแก่งกระจาน และแหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีอยู่ โดยขั้นตอนการพิจารณาเป็นมรดกโลกมีเงื่อนไขอยู่ประมาณ 10 ข้อ ซึ่งเป็นคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล เช่น เรื่องวัฒนธรรมและธรรมชาติ รวมทั้งการอนุรักษ์ความหลากหลาย ความสมบูรณ์อันเป็นหนึ่งเดียว
มาตรการในการป้องกันและการบริหารจัดการแหล่งที่จะเสนอเป็นมรดกโลก โดยการพิจารณาเอกสารของแต่ละแหล่งจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 ปี จากนั้นจะนำเสนอไปยังคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งใช้เวลาพอสมควร โดยการพิจารณาเป็นมรดกโลกจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี
อย่างไรก็ตามทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราเฝ้าดูและเตรียมการมานานแล้วที่จะเสนอให้เป็นมรดกโลก รวมทั้งเสนอให้เป็นมรดกอาเซียนข้ามแดนด้วย โดยประเทศไทยมีมรดกอาเซียน 6 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา กลุ่มป่าแก่งกระจาย หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิรัน อ่าวพังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม
ถ้ากลุ่มป่าฮาลาบาลา ได้เป็นมรดกอาเซียนข้ามแดนจะเป็นมรดกอาเซียนข้ามแดน แห่งแรกของอาเซียน โดยทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำลังเร่งดำเนินงานและจะทำให้เสร็จโดยเร็ว
