กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย จับปรับดำเนินคดีผู้ขายสินค้าที่นำโลโก้และชื่อยี่ห้อบุหรี่ดังมาติดแสดงไว้บนสินค้าเพื่อหวังโฆษณาแฝง รวมทั้งพบร้านค้าลักลอบเร่ขายจำหน่ายบุหรี่
นอกจากนี้ยังพบผู้ค้า และประชาชนที่มาเดินเลือกซื้อสินค้าหลายราย สูบบุหรี่ภายในพื้นที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่
ค่ำวันที่ 29 พ.ค.63) นายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ (กคส.) กรมควบคุมโรค พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่ กคส. บูรณาการร่วมกับ สนง.เขตบางเขน และ สน.โคกคราม ลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย จับ ปรับ ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 เพื่อรองรับสถานการณ์การผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19
พบผู้ขายสินค้าที่มีการนำโลโก้และชื่อยี่ห้อบุหรี่ดัง มาติดแสดงไว้บนสินค้าเพื่อหวังโฆษณาแฝง ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 32 วรรค 2 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และตรวจพบร้านค้าลักลอบเร่ขายบุหรี่ซิกาแรตโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดฐานเร่ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ ตามมาตรา 27 ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบผู้ค้า และประชาชนที่มาเดินเลือกซื้อสินค้า รวม 5 ราย สูบบุหรี่ภายในพื้นที่ตลาดซึ่งกฎหมายกำหนดให้พื้นที่ทั้งหมดของตลาดเป็นเขตปลอดบุหรี่ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 42 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดทั้ง 7 ราย ได้ให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง และยินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในทันที
สำหรับการลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมายครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการเชิงรุกภายใต้แนวการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 รองรับสถานการณ์ภายหลังผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมาตรการดังกล่าวคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบ และอยู่ระหว่างมอบหมายสั่งการไปยังคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย
โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงหลักได้แก่ ตลาด และสถานีขนส่งผู้โดยสาร เนื่องจากมีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ค้าลักลอบกระทำผิดกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทั้งการโฆษณาสื่อสารการตลาด และการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อหวังเพิ่มยอดขายบุหรี่
รวมทั้งหากมีการสูบบุหรี่ในพื้นที่ดังกล่าวเท่ากับเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด 19 เนื่องจากควัน หรือละอองไอที่พ่นออกมาอาจมีเชื้อโรคปะปนมาด้วย และที่สำคัญคือขณะที่สูบบุหรี่ ผู้สูบบุหรี่จะไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย
กรมควบคุมโรค จึงขอย้ำเตือนไปยังผู้ค้า ประชาชนผู้สูบบุหรี่ และเจ้าของสถานที่สาธารณะ ในการปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด ซึ่งหากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจพบการโฆษณา สื่อสารการตลาด จัดโปรโมชั่น ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะต่างๆ ผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีทันที ตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 กรณีมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในการปฏิบัติตามกฎหมาย สอบถามได้ที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร. 0-2590-3852