แค่ปัญหาสิวทั่วไป ก็ทำเอาหลายคนหนักอกหนักใจกันมากพอแล้ว แต่ถ้าเจอปัญหาหลุมสิวด้วย ก็ยิ่งทำให้เกิดความเครียดความกังวล เพราะเป็นปัญหาที่เครื่องสำอางค์ก็ช่วยกลบให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการผ่าตัดหลุมสิวจึงเป็นคำตอบหนึ่งของการแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นได้
แพทย์หญิงชนิกา กุลภัทราภา แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่าหลุมสิวเกิดจากการที่สิวอักเสบ มีการหลั่งสารเอนไซม์ออกมาทำลายคอลลาเจนบริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบุ๋มลงไป หรืออีกกรณีคือเกิดจากการเป็นสิวหรือแผลเป็นบริเวณที่เดิมซ้ำ ๆ เกิดเป็นพังผืดใต้แผล ประกอบกับมีการทำลายคอลลาเจนร่วมด้วย จึงทำให้พังผืดดึงรั้งหลุมสิวให้ลึกลงไปอีก
โดยประเภทของหลุมสิวแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- Ice pick scar เป็นหลุมสิวที่มีปากแคบขนาดไม่กว้างแต่ลึก
- Boxcar scar เป็นหลุมสิวปากและก้นกว้าง อาจตื้นหรือลึก ลักษณะเหลี่ยม มีขอบเขตชัดเจน
- Rolling scar หลุมสิวลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะตื้น ปากกว้าง ขอบโค้งลงไป คล้ายคลื่น
การผ่าตัดหลุมสิว เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิว โดยจะใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก ประมาณ 2 – 3 มิลลิเมตร ตัดบริเวณรอยโรคที่เป็นหลุมสิว จากนั้นแพทย์จะทำการดึงขอบ 2 ข้างที่เป็นผิวปกติมาเย็บติดกัน โดยหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์คนไข้จะต้องมาตัดไหมที่เย็บแผล ซึ่งหลังจากตัดไหมแล้วจะเป็นรอยเส้นตรง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนรอยเส้นตรงจะเริ่มดีขึ้น
ทั้งนี้ การรักษาด้วยวิธีผ่าตัดหลุมสิวเป็นวิธีการสร้างแผลใหม่ ซึ่งเวลาที่ผิวเกิดการบาดเจ็บหรือมีแผลใหม่และทำลายพังผืดก็จะมีการกระตุ้นคอลลาเจนไปในตัวอยู่แล้ว
สำหรับการผ่าตัดหลุมสิว เหมาะกับการรักษาหลุมสิวชนิด Ice pix scar ที่เป็นมานาน และหลุมสิวชนิด Boxcar scar แต่ขนาดขอบไม่ควรกว้างเกิน 3 มิลลิเมตร เพราะขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้มีรอยเย็บค่อนข้างใหญ่ และเสี่ยงต่อการเกิดแผลหลังการผ่าตัดไม่สวยตามมาได้
หลังการผ่าตัดหลุมสิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดประมาณ 2 สัปดาห์และห้ามโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน พอหลังตัดไหมแล้ว แนะนำว่ายังไม่ควรแต่งหน้าในบริเวณที่เพิ่งทำการตัดไหมออกเพราะว่าผิวกำลังฟื้นฟู หากแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไปกดทับ ก็จะเกิดสิวอุดตันและอักเสบขึ้นมาได้อีก
“การป้องกันการเกิดหลุมสิวที่ดีที่สุด คือการดูแลผิวหน้าไม่ให้เป็นสิวเรื้อรัง และไม่ควรแกะบีบสิวจนเกิดการอักเสบ หรือทานวิตามินเสริม เช่น วิตามินซี และ ซิงค์ เพื่อช่วยสร้างคอลลาเจนและลดโอกาสการเกิดหลุมสิวได้ หากเพิ่งมีหลุมสิว ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อรักษา จะทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีกว่า และอย่าลืมว่าสิวและสิวอักเสบควรหายแล้ว หรือเป็นน้อยมาก ก่อนที่จะมารักษาหลุมสิวนะคะ ” พญ.ชนิกากล่าว
พญ.ชนิกา กุลภัทราภา
แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม
รพ.เวชธานี