ทั่วโลกร่วมยินดี ผลการวิจัยพบว่ายาฉีด “คาโบทิกราเวียร์” ที่ประเทศไทยร่วมวิจัย ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ผลดีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง

วันนี้ (19 พฤษภาคม 2563) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโครงการวิจัยทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อที่สามารถออกฤทธิ์ได้นานกว่าสองเดือน ภายใต้ชื่อโครงการ HPTN 083 ได้ทำการศึกษาเพื่อตอบคำถามว่า การใช้ยาต้านไวรัสคาโบทิกราเวียร์ ชนิดฉีด 1 ครั้งทุก 8 สัปดาห์ จะสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสองได้อย่างน้อยเท่ากับวิธีการกินยาต้านไวรัสทีดีเอฟ/เอฟทีซี (TDF/FTC)

ซึ่งประกอบด้วยยาต้านไวรัสสองชนิด ได้แก่ ยาเอ็มทริซิทาบีนและยาทีโนโฟเวียร์ ไดโซพรอกซิล ฟูมาเรต วันละ 1 เม็ด หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ยาต้านไวรัสป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ หรือเพร็พ (PrEP) หรือไม่

ซึ่งโครงการวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ภายใต้เครือข่ายการวิจัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV Prevention Trial Network; HPTN) โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 4,570 คน จากสถาบันการวิจัยชั้นนำ 43 แห่งใน 7 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ไทย บราซิล เปรู เวียดนาม อาร์เจนตินา และแอฟริกาใต้

โดยจากข้อมูลเบื้องต้นที่มีการแถลงเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในวันที่ 18 พฤษภาคม 63 ที่ผ่านมา พบว่า ยาฉีดคาโบทิกราเวียร์สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง ได้มากกว่ายากินทีดีเอฟ/เอฟทีซี กว่า 3 เท่า หรือ 69% โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในโครงการรวม 50 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อฯ ในกลุ่มยากินทีดีเอฟ/เอฟทีซีจำนวน 38 ราย (คิดเป็นอุบัติการณ์การติดเชื้อใหม่ 1.21%) และพบผู้ติดเชื้อฯ ในกลุ่มฉีดยาคาโบทิกราเวียร์ จำนวน 12 ราย (คิดเป็นอุบัติการณ์ 0.38%)

อย่างไรก็ตาม ทั้งยาฉีดคาโบทิกราเวียร์ และยากินทีดีเอฟ/เอฟทีซี นับได้ว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้สูงมาก และยังมีความปลอดภัยสูงมากเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ยาฉีดคาโบทิกราเวียร์เป็นยาที่ออกฤทธิ์ระยะยาว สามารถฉีดทุก 8 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับยากินทีดีเอฟ/เอฟทีซี ชนิดเม็ดที่ต้องไม่ลืมที่จะรับประทานติดต่อกันทุกวัน เพื่อให้ได้ผลสูงสุดในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

จึงน่าจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมที่สำคัญอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานยาเม็ด หรือมักจะลืมกินยาบ่อยๆ หรือผู้ที่มีอาการข้างเคียงจากยาที่อาจมีผลต่อไตจากการใช้ยากินทีดีเอฟ/เอฟทีซี ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการป้องกันเอชไอวีที่สำคัญในการช่วยยุติปัญหาเอชไอวีและเอดส์ให้ได้ ภายในปี ค.ศ. 2030 ต่อไป

สำหรับประเทศไทย มีสถาบันวิจัยชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย, คลินิกชุมชนสีลม @ทรอปเมด ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข และคลินิกพิมาน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมวิจัยในโครงการ HPTN 083 โดยได้รับอาสาสมัครชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง เข้าร่วมโครงการ รวม 553 ราย จากจำนวนทั้งหมด 4,570 ราย ซึ่งจะได้มีการแจ้งรายละเอียดและผลวิจัยให้ผู้ร่วมวิจัยต่อไป

นายแพทย์สุวรรณชัย ร่วมแสดงความยินดีว่า นับเป็นความก้าวหน้าอีกครั้งหนึ่งที่ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมที่สำคัญในการศึกษาวิจัยเพื่อหาวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นับตั้งแต่โครงการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกด้วยยาต้านไวรัส โครงการวัคซีนป้องกันเอชไอวี RV144 โครงการ HPTN 052 โครงการ iPrEx จนมาถึงโครงการ HPTN 083 ในวันนี้

ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณอย่างยิ่ง ในความเสียสละ ความทุ่มเท และความร่วมมือร่วมใจ ของอาสาสมัครชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสองชาวไทยทุกท่าน รวมถึงทีมนักวิจัยไทยและสหรัฐอเมริกาจากสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาพัฒนาทางเลือกใหม่ในการป้องกันเอชไอวีด้วยยาฉีดคาโบทิกราเวียร์ให้ประชาชนทั่วโลกรวมทั้งชาวไทย

จากนี้พวกเรายังคงต้องทำงานหนักกันต่อไปในอนาคต เพื่อเพิ่มทางเลือกในการป้องกันเอชไอวี โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถเลือกใช้ยาฉีดหรือยากิน หรือวิธีการป้องกันอื่นๆ ตามความถนัดหรือความชอบที่เหมาะสมกับแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันคนไทยสามารถเข้าถึงยากินได้แล้ว และน่าจะสามารถเข้าถึงยาฉีดตัวใหม่นี้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถมุ่งสู่เป้าหมายการยุติปัญหาเอชไอวีในปี พ.ศ. 2573 หรือ ค.ศ.2030 ในที่สุด

Written By
More from pp
ปตท. เปิดตัว New Horizons เกมพลังงานรูปแบบใหม่ ฝีมือคนไทย เสริมสร้างการเรียนรู้ ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงาน
ปตท. เปิดตัว New Horizons เกมพลังงานรูปแบบใหม่ ฝีมือคนไทย เสริมสร้างการเรียนรู้ ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงาน ผ่านภารกิจสำรวจและผลิตพลังงานประเภทต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง ที่จำลองธุรกิจพลังงาน  ในรูปแบบ Edutainment พร้อมให้ทุกคนร่วมผจญภัยด้วยกัน 16...
Read More
0 replies on “ทั่วโลกร่วมยินดี ผลการวิจัยพบว่ายาฉีด “คาโบทิกราเวียร์” ที่ประเทศไทยร่วมวิจัย ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ผลดีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง”