โฆษก ตร. เผย ศปม.ปรับแผนการปฏิบัติงานลงพื้นที่ ระบุหลังผ่อนคลายมาตรการ พบภาพรวมการกระทำผิดสูงขึ้น พร้อมขอประชาชนแจ้งข้อมูลหากพบผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ

วันนี้ (10 พ.ค. 63) เวลา 12.00 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.)

ชี้แจงประเด็นด้านความมั่นคง หลังการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

โฆษก ตร. ชี้แจงการวิเคราะห์สถิติหลังการผ่อนคลายมาตรการครบ 7 วัน ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้หารือร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ ในการดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงาน จากเดิมที่มีการตั้งด่านตรวจและมีสายตรวจบางส่วน หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการนั้น ได้เพิ่มสายตรวจร่วม ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กรุงเทพมหานคร และฝ่ายสาธารณสุข ลงสู่พื้นที่ต่าง ๆ ที่มีการผ่อนคลายมากขึ้น รวมทั้งการทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว มีตัวเลขที่น่าสนใจจากการรวบรวมสถิติ ระหว่างเปรียบเทียบ 7 วันก่อนหน้าการผ่อนคลายมาตรการ กับหลังการผ่อนคลายมาตรการ 7 วัน

พบว่า เรื่องการออกนอกเคหสถานช่วงเคอร์ฟิว หรือการรวมกลุ่มมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ หลังจากที่มีการผ่อนคลาย ภาพรวมการกระทำผิดมีสูงขึ้น จากเดิม 7 วันก่อนหน้ามีประมาณ 4,407 คดี หลังวันที่ 3 พ.ค. จนถึงวันที่ 10 พ.ค. เป็น 5,363 คดี เพิ่มขึ้นประมาณ 900 กว่าคดี คิดเป็น ร้อยละ 21 เฉพาะเรื่องของความผิดออกนอกเคหสถานช่วงเคอร์ฟิว เพิ่มขึ้นประมาณ 827 คดี เนื่องจากยังมีพี่น้องประชาชนบางส่วนไม่ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ออกนอกบ้านโดยไม่มีเหตุอันควร

เรื่องการมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่เชื้อโรค จากเดิมประมาณ 664 คดี เพิ่มขึ้นไปเป็น 704 คดี เพิ่มมา 40 คดี ความผิดเรื่องการมั่วสุมในการดื่มสุรานั้นสูงขึ้น จาก 300 เป็น 600 ถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูง เรื่องของการพนัน จำนวนคดีลดลง แต่พบว่า 1 คดี เดิมอาจจะมีคนเล่น 3-4 คน

แต่ระยะหลังๆ พบ 1 คดี มีผู้เล่น 10 หรือ 20 คน และยังมีการมั่วสุมเรื่องอื่นๆ ด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้ตักเตือนกันมาพอสมควรแล้ว ในการทำความผิดประเภทซ้ำซ้อน ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด ด้านการตรวจสถานที่ประกอบการหลายแห่ง หลังจากที่ได้มีการผ่อนคลายมาตรการไปแล้ว พบว่าช่วงวันที่ 3-4 พ.ค. ยังมีผู้ไม่ปฏิบัติตามค่อนข้างมาก ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำและตักเตือนไป และจากการออกตรวจตามจุดต่าง ๆ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดต่าง ๆ เมื่อคืนนี้พบว่าตัวเลขลดลงไปมากพอสมควร

ทั้งนี้ การดำเนินการโดยกฎหมายพิเศษ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นตัวหลัก แต่ละจังหวัดมี พรบ.โรคติดต่อ ในกรุงเทพฯ ดำเนินการโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดดำเนินการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ออกข้อกำหนดตาม พรบ.โรคติดต่อในแต่ละจังหวัด ซึ่งหลักใหญ่ 3 หลัก คือการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ การรักษาระยะห่าง

ขณะที่การรวมกลุ่มนั้นเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง หรือแพทย์ ไปทำหน้าที่จะดูครอบคลุมกันหลายส่วน ส่วนแรก Home Quarantine ปกติเรียบร้อยดี ส่วนที่ 2 เรื่องของสถานประกอบการ หลายแห่งทำดี บางส่วนอาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องปรับปรุง ส่วนที่ 3 เรื่องของการกวดขัน จับกุมมั่วสุม ซึ่งจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคเป็นอย่างมาก  ส่วนการเล่นการพนัน ตั้งวงสุรา นั่งใกล้กัน ถึงจะใส่หน้ากากอนามัยก็จริงแต่ไม่ได้ใส่ตลอดเวลา ต้องมีการพูดคุยต่าง ๆ จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์ได้ทำหน้าที่อย่างดีแล้ว แต่ยังมีประชาชนบางส่วนบกพร่องอยู่

โฆษก ตร. กล่าวถึงการเปิดตลาดนัดจตุจักรเมื่อวานนี้เป็นวันแรกว่า ได้มีการประชุมร่วมมือกันก่อนหน้านี้ และวางมาตรการต่างๆ ไว้ ทุกจุดมีเจ้าหน้าที่ทั้งของกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขต ตำรวจ ทหาร สำนักอนามัย ฝ่ายสาธารณสุข ตรวจก่อนตามระบบ ดูเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์ระหว่างการเดินตามร้านต่าง ๆ โดยทุกร้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อาจจะมีตักเตือนและการแนะนำบ้าง ในเบื้องต้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจ

ในตอนท้าย โฆษก ตร. ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในกรณีพบผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ผู้รับบริการหรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ที่สุด จะเป็นผู้ที่ให้ข้อเท็จจริงที่ดีที่สุด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง 1138 หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปติดตามดำเนินการ

Written By
More from pp
เจ็ทส์ ฟิตเนส จับมือ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สร้างไลฟ์สไตล์สุขภาพดี ตั้งเป้านำร่องกลุ่มเฟรซซี่ ปีละ 1,000 คน
Jetts Fitness โดย ไมค์ แลมป์ ผู้บริหารสูงสุดของ ฟิตเนส แอนด์ ไลฟ์ สไตล์กรุ๊ป ประเทศไทย (FLG) เปิดเผยว่า...
Read More
0 replies on “โฆษก ตร. เผย ศปม.ปรับแผนการปฏิบัติงานลงพื้นที่ ระบุหลังผ่อนคลายมาตรการ พบภาพรวมการกระทำผิดสูงขึ้น พร้อมขอประชาชนแจ้งข้อมูลหากพบผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ”