กรมอุทยานแห่งชาติฯ เชิญชวนประชาชนปลูกต้นไม้ “วันต้นไม้ประจำปีของชาติ” เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ย้ำยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิด – 19
6 พ.ค.63 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายจงคล้าย วรพงศธร นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งและต้นยางนาเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องใน “วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2563” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ณ บริเวณอาคารสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 กำหนดให้วันวิสาขบูชาของทุกปี เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งในปีนี้วันต้นไม้ประจำปีของชาติตรงกับวันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2563 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเชิญชวนประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้ที่บ้านของตนเอง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งการปลูกต้นไม้เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ และเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติ เพื่อร่วมถวายเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชาอีกด้วย
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ทั่วประเทศ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และแม้ว่าในปีนี้การจัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ จะไม่ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนงดเว้นการจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้จะปลูกภายในบริเวณที่อยู่อาศัยของตนเองหรือพื้นที่ใกล้เคียง ก็ตามแต่ความสะดวกและเหมาะสม”
ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายฟื้นฟูสภาพป่าในประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 เพื่อให้มีต้นไม้ยืนต้นในประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกและเผาทำลายป่า ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ไขโดยเร็ว จึงมีนโยบายในการปลูกต้นไม้เพิ่มหลายล้านต้น และเชิญชวนประชาชนปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตนเอง เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการปลูกต้นไม้มีค่า สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ประกันได้และเป็นสมบัติให้กับครอบครัวได้อีกด้วย