ดำรง พุฒตาล
ผมคิดไม่ตกและฟันธงไม่ได้ว่า ระหว่างคนญี่ปุ่น กับ โควิด 19 ใครที่ สอนให้ผมประหยัดและเก็บออม
หลายปีมาแล้ว ท่านกงสุลใหญ่ ณ สถานกงสุลไทยกรุงโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ได้เชิญผมไปร่วมงานที่โอซาก้า โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแลและให้ความสะดวกผมตลอดที่อยู่ในเมืองนี้ผมถามผู้ดูแลผมว่า จริงหรือไม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องเงินไม่สะพัดทำให้เศรษฐกิจฝืดเครื่องทั้งทั้งที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกประเทศหนึ่ง
ท่านผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจตอบผมว่าเป็นความจริงและรัฐบาลขณะนั้นที่มี นาย อาเบะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็กำลังหาวิธีที่จะรณรงค์ให้คนญี่ปุ่นได้ออกมาใช้เงินจับจ่ายใช้สอย
ผมถามว่าทำไมชาวญี่ปุ่นจึงไม่ยอมใช้เงิน จนทำให้การเงินของประเทศฝืดเคือง ซึ่งได้คำตอบที่น่าสนใจมากคือ.. ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ พายุใต้ฝุ่น น้ำท่วมรุนแรง ซึ่งนำความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตผู้คนต้องประสบกับความเดือดร้อนและยากไร้อยู่เนืองๆ เกือบทุกปี
ภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นต้องประสบนั้นอาจจะไม่ถึงกับปิดประเทศ แต่เวลาเกิดขึ้นแล้วมันยิ่งกว่าการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์เป็นหลายเท่าทั้งผู้คนล้มตายสูญหายทั้งบ้านช่องและอาคาร พังทลายจนผู้คนไร้ที่อยู่ อาหารก็ขาดแคลน
คนญี่ปุ่นจึงมีประสบการณ์ว่าจะต้องมีเงินเอาไว้แก้สถานการณ์ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน นี่เองคือเหตุผลที่คนญี่ปุ่นไม่จับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือย เมื่อหาเงินได้ก็จะประหยัดและเก็บออมเอาไว้เป็นเงินก้อนพร้อมที่จะใช้สอยในยามยากที่เดือดร้อนอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ก็คือสรุปได้ว่าเมื่อพบกับความเดือดร้อนคนญี่ปุ่นก็ยังมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนอยู่ในธนาคาร
ผมจึงนำประเด็นนี้มาบอกลูกบอกหลานของผมว่าโควิด 19 ได้ทำให้ลูกหลานต้องลำบากต้องหยุดงานต้องอยู่กับบ้านซึ่งบางคนเดือดร้อนมากเพราะขาดเงินที่เคยหาได้ในยามปกติ
“โควิด19 นั้นหนักกว่าภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นได้เผชิญมาและเราก็กำลังเผชิญกับมัน”
หากสิ้นโควิด-19 และเราได้กลับไปสู่สถานการณ์ปกติ ก็ขอแนะนำให้ลูกหลานของผมได้ประหยัดและอดออม ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกในอนาคต ผมไม่บังอาจแนะนำผู้อื่นขอแนะนำเฉพาะลูกหลานของผมเท่านั้นนะครับ