มี “ข่าวดีมาก” และ “ดีน้อย” มาบอก!
“ข่าวดีมาก” คือ…..
ถึงวันนี้ (๒๐ เมย.๖๓) ความมั่นคงทางสาธารณสุขของทั่วโลก ๑๙๕ ประเทศ
ไทย “อันดับ ๑ โลก”!
“ข่าวดีน้อย” คือ
เพราะความเป็นอันดับ ๑ โลก ด้วยฝีมือสาธารณสุขไทย โดยทีม “แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์” รวมทั้ง อสม. และนายกฯ ชื่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ด้วย (เกือบลืม..โทษที..โทษที)
ทำให้ชื่อเสียงไทยสนั่นลั่นโลก!
ความจริง ไทยก็สนั่นด้านเป็น Safe Heaven ในการลงทุนอยู่แล้ว
ตอนนี้ สนั่นขึ้นไปอีกด้าน คือ ด้านเป็นดินแดน “Safe Covid-19”!
เพราะเหตุนี้แหละ ไทยจึง “ทุกขลาภ” กรายๆ ใครต่อใครที่ไปอยู่ต่างประเทศ อยากหนีตายกลับมาเมืองไทยกันทั้งนั้น
ช่วงผ่านมา คนไทยจากนอก กลับเข้ามาแล้วเป็นหมื่นๆ
ตอนนั้น ก็ภาวนากันว่า กลับมาแต่ตัวกับหัวใจเถอะ อย่าเอาเชื้อโควิดติดกลับมาด้วยเลย
แต่รัฐบาลกับทีมสาธารณสุขไทยเราก็สุดเจ๋ง
กลับมาเท่าไหร่ รับได้หมด ต้อนรับขับสู้ บริการที่อยู่-ที่กินคนละ ๑๔ วัน ฟรีหมด เป็นที่ประทับใจ จนหลายๆคน อยากให้กักตัวไปนานๆ
ที่เกรงจะระบาดใหญ่ จากพุ่งแรงวันละกว่าร้อย จนตกใจกันว่า สิ้นเมษา. น่าจะเป็นแสน
แต่ทีมแพทย์เราเจ๋งอย่างว่า …….
เสกพรวดเดียว จากพุ่งขึ้นจนใจหายหมด ค่อยๆ ลดลงเหลือระดับสองหลักแก่ๆ จนขณะนี้ เหลือสองหลักอ่อนๆ โล่งใจไปตามๆ กัน
ขณะที่เราเริ่มโล่ง แต่ที่บ้านอื่น ในยุโรป-สหรัฐ กระทั่งในอาเซียน-เอเชีย กลับทั้งป่วย-ทั้งตายกันโครมๆ จนไม่มีที่จะฝัง
แล้ววันนี้ กระทรวงต่างประเทศ รายงาน…….
กองทัพคนไทย “ล็อตใหม่” จากต่างประเทศ อีกร่วมหมื่น กำลังเรียงคิวกลับเข้ามาอีก
ดีใจจนต้องร้อง…โอย!
เป็นหมื่นคน ต้องหาโรงแรมอีกเป็นหมื่นห้อง อาหารพร้อม ๓ มื้อ ก็ไม่เป็นไร ไทยด้วยกัน “ตัดไม่ตาย-ขายไม่ขาด” อยู่แล้ว
แต่แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแทพย์ ตลอดถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ โดยเฉพาะทหาร “เหล่าเบ๊” นี่ซี
เหงื่อไหลไข่ย้อยอีกแล้ว!
ดี..อาบเหงื่อจะได้หายร้อน แต่ที่มากันเป็นหมื่นคน ล้วนแล้วมาจากถิ่นระบาดหนักนี่ซี
ถ้าเกิดการคัดกรอง “ถี่ลอดตาช้าง-ห่างลอดตาเล็น” ไปซักคน-สองคน
พ่อเจ้า-แม่เจ้าเอ้ย เป็นได้ “เวียนรำวง” กันเหมือนญี่ปุ่น-สิงคโปร์ ที่ริมๆ จะเลิก Lockdown กลับต้อง “ล็อคยาว” กันละทีนี้!
ทีมหมอสู้ๆ เค้านะ
ถ้าทีมหมอไม่สู้ ทีมพวกผม คือชาวบ้าน สู้ก็ตาย-ไม่สู้ก็ตายอยู่แล้ว ฉะนั้น ต้องดันตูดทีมแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์อย่างเดียว!
นี่คือข่าวดีมากและดีน้อยประจำวันนี้ แต่ฟังที่หมอทวีศิลป์ โฆษก “ขวัญใจพ่อยก-แม่ยก” ประกาศเลขที่ออกประจำวัน เมื่อวาน (๒๐ เมย.)
ป่วยใหม่แค่ ๒๗ น้อยสุดตั้งแต่มีมา
หายป่วยแล้ว มากสุด ๑,๙๙๙ ราย ในจำนวนป่วยสะสมทั้งหมด ๒,๗๙๒ ราย
และไม่มีตายเลยติดต่อกันมาเข้าวันที่ ๓!
เป็นนิมิตหมาย ดีมาก ระดับ A ++
สำหรับไทยเรา เมื่อเทียบกับ “รอบบ้าน-รอบโลก” ในดิวิชั่นเดียวกัน ที่เขาต่างคางเหลืองกันตอนนี้
คางส้มไม่มี มีแต่โคส้ม!
ก็นึกย้อนไปปลายปี ๖๒ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ได้สำรวจวิจัยประเทศที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพ ในจำนวน ๑๙๕ ประเทศของโลก
ปรากฏว่า “ไทย” เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียว ถูกจัดอยู่ในอันดับ ๑-๑๐ ของโลก ที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพ โดยอยู่อันดับที่ ๖
และเป็นอันดับ ๑ ในเอเชีย!
การจัดอันดับ เขาวัดจาก ๖ ด้าน คือ ด้านการป้องกันโรค, ด้านขีดสามารถในการตรวจจับโรคและรายงานที่รวดเร็ว, ด้านการตอบโต้ที่รวดเร็ว, ด้านมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง
ที่สำคัญ …….
ด้านมีความมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของประเทศ มีแผนงบประมาณด้านป้องกันควบคุมโรค การดำเนินงานตามแนวปฏิบัติสากล และ “มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านชีวภาพต่ำ”!
บางท่านอาจบอก รู้แล้ว…ของเก่า เอามาเล่าใหม่ทำไม?
มันมีประเด็นจะเล่า คือผมอ่านที่คุณ “Ringside การเมือง” เขาโพสต์ มันน่าสนใจ จะลอกๆ เล่าๆ สืบเนื่องจากเรื่องอันดับโลกให้ฟัง
คุณ Ringside การเมือง ขึ้นไตเติ้ลเป็นประเด็นใหม่ว่า
“ผงาด! ไทยมีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดในกลุ่ม Top10 ประเทศที่มีแนวป้องกันโรคระบาดดีที่สุดในโลก”
หมายความว่า ในรายการ Covid-19 Fight นี้ ไทย ในกลุ่มมั่นคงสุขภาพ ๑-๑๐ โลก
จากอันดับ ๖ ไต่ขึ้นอันดับ ๑ ครองมงกุฎ Covid-19 Fight เป็นแชมป์โลก ด้านป้องกันโรคระบาดเยี่ยม และมียอดผู้ติดเชื้อน้อยสุด ณ ปัจจุบันไปแล้ว!
คุณ Ringside การเมือง เรียงอันดับตามจำนวนป่วยและตาย “มากสุด-ไปน้อยสุด” ณ วันที่ ๒๐ เมย.๖๓ ไว้ดังนี้
๑.สหรัฐฯป่วยสะสม ๗๗๑,๒๓๓ ตาย ๔๑,๑๑๔
๒.อังกฤษ ป่วยสะสม ๑๒๑,๑๗๒ ตาย ๑๖,๐๙๕
๓.แคนาดา ป่วยสะสม ๓๕,๖๓๓ ตาย ๑,๕๖๔
๔.เนเธอร์แลนด์ ป่วยสะสม ๓๒,๘๓๘ ตาย ๓,๖๙๗
๕.สวีเดน ป่วยสะสม ๑๔,๓๘๕ ตาย ๑,๕๔๐
๖.เกาหลีใต้ ป่วยสะสม ๑๐,๖๗๔ ตาย ๒๓๖
๗.เดนมาร์ก ป่วยสะสม ๗,๕๘๐ ตาย ๓๕๕
๘.ออสเตรเลีย ป่วยสะสม ๖,๖๑๒ ตาย ๗๐
๙.ฟินแลนด์ ป่วยสะสม ๓,๗๘๓ ตาย ๙๔
และ….
๑๐.ไทย แชมป์ป้องกันการระบาดยอดเยี่ยม ป่วยสะสมน้อยสุด ๒,๗๙๒ ตายน้อยสุด ๔๗
ประเด็นที่อยากบอก คือ…….
ขอบคุณและซาบซึ้งทีม “แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์” ของไทยเรา
ดูตัวเลขของเขา แล้วย้อนดูของเรา ก็ไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ เพราะตัวเลขนั้น ยืนยัน-รับรองมาตรฐานประเทศและมาตรฐานการสาธารณสุขไทย โดยไม่ต้องพูดอะไรอีก
แต่มีประเด็นน่าใคร่ครวญ ……
ถึงคราวโรคระบาดเกิดจริงๆ ปรากฎว่าประเทศที่ “จอนส์ ฮอปกินส์” ตีตรารับรองความมั่นคงด้านสุขภาพว่าเยี่ยมสุด
เละสุดๆ ไม่เป็นท่า!
ทั้งสหรัฐ-ยุโรป ความจริงมันฟ้องว่า ไม่มีความมั่นคงจริงตามราคาคุยมาตรฐาน “จอนส์ ฮอปกินส์” เลย
สหรัฐฯ ป่วย กำลังทะยานขึ้นหลักล้าน อเมริกันชนเอง กำลังก่อกลียุคเมือง
อยากให้อ่านนี่ คุณ Kiccha Buranond ชื่อนี้ คุ้นๆ หูเมื่อร่วม ๕๐ ปีก่อน โพสต์ไว้ อ่านกันดูนะ
Kiccha Buranond
ผมอยู่อเมริกามา ๕๔ ปี ผ่านอะไรต่อมิอะไรที่อเมริกาผ่านกันไปตลอดระยะเวลานั้น อันรวมทั้ง impeachment หรือมีข้อหาเพื่อปลดประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งถึงสามคน (ในสี่)
ทั้งริชาร์ด นิกสัน บิลล์ คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งสงครามเวียดนามและอิรัค เหตุการณ์ถล่มตึกเวิร์ดเทรด หรือ 9/11 บรรดาพายุมหาศาลระบบรื้อถอนหลังคาบ้าน หรือไฟไหม้ป่าลามปามทีละสามเดือน
ไม่นับการกราดปืนกลยิงคนยิงเด็กตายเป็นระนาว ซึ่งเสมือนมีเกิดขึ้นทุกสองสามเดือน
แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที แต่ในอดีต เมื่อใดที่อเมริกามาถึงจุดวิบัติหนึ่งใด นักการเมืองของทั้งสองพรรคก็จะสมานรวมตัวกันทันที
คือทิ้งเรื่องที่กำลังทะเลาะเบาะแว้งกันทางการเมือง แล้วช่วยประชาชนกันทันที เพราะความสุข/สงบและความปลอดภัยของประชาชนในสถานการณ์นั้นๆ จะต้องเป็นหลักที่ตั้งตรงแข็งแกร่งดั่งเสาหิน ไม่มีการเอียงซ้ายหรือขวา ในเมื่อหลักของการเป็นรัฐบาลของอเมริกันนั้นมีว่า government of the people, by the people, for the people
หรือรัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนเป็นของประชาชน เลือกโดยประชาชน และทำงานให้แก่ประชาชน ไม่ใช่แก่ตัวเอง หรือพรรคของตัวเอง
แต่ในขณะที่อเมริกากำลังประสบสถานการณ์วิกฤตด้วยโควิด ๑๙ มีคนเจ็บและคนตายมากที่สุดในโลก
แต่นายทรัมป์จะต้องเล่นการเมืองให้ได้ จะต้องยุให้รำตำให้รั่วให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หากรัฐไหนช่วยเลือกให้มันขึ้นเป็นป.ธ.น.รัฐนั้นก็จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางมากที่สุด
หากรัฐไหนไม่เลือกมันแล้วมีปากเสียงเถียงกับมันอีกต่างหาก ดั่งนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย รัฐวอชิงตัน ฯลฯ มันก็จะกลั่นแกล้งแสร้งหาเรื่องต่างๆ นานา แล้วยุยงให้ประชาชนออกมาต่อต้าน ผิดถูกอย่างไรมันไม่สน ผลประโยชน์ของมันจะต้องมาก่อนอื่นใด
ทุเรศทุรังมากครับ กล่าวคือตลอด ๕๔ ปีที่ผมอยู่ที่นี่ ผมไม่เคยเห็นสถาบันประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาตกต่ำหรือโสโครกถึงปานนี้
และอย่าลืม …ว่าทั้งหมดนี้ ก็เพราะเงิน เงิน เงิน
และความโง่อย่างเหลือเชื่อ ของคนอเมริกันที่คุณเห็นในภาพ ซึ่งเลือกนายทรัมป์ พากันออกมาต่อต้านอย่างอึงคนึง…ตามคำยุของนายทรัมป์
อันเป็นเรื่องที่น่าอนาถใจเป็นอย่างยิ่งครับ.