สันต์ สะตอแมน
“ในฐานะที่สามารถเป็นกระบอกเสียงได้..
ตอนนี้หาดใหญ่น้ำท่วมเกือบทุกพื้นที่ ชาวบ้านลำบาก ไม่มีอาหารกักตุน ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีน้ำใช้ (การประปางดจ่ายน้ำ) บางพื้นที่ตัดไฟแล้ว ผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยงกำลังเดือดร้อน
บางพื้นที่ท่วมถึงหลังคาบ้าน และมีประกาศว่าจะท่วมสูงขึ้นอีกในเวลา 18.00 น.
ฝากทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือคนหาดใหญ่ทุกๆ พื้นที่ ฝากทุกคนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนหาดใหญ่”
นี่..ดารา-นางเอกสาว “โบว์-เมลดา สุศรี” โพสต์จากที่ไหนก็ไม่ทราบ ที่ว่า “ไม่ทราบ” เพราะก่อนนี้ได้ข่าวว่าเธอบินไปเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษ
จะกลับมาเมืองไทยรึยังก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องขอ “ขอบใจ” แทนพี่น้องชาวใต้ที่เธอได้กรุณาเป็น “กระบอกเสียง” แจ้งข่าวน้ำท่วมหาดใหญ่ให้ได้รับทราบ!
ครับ..ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้
โดยเฉพาะที่ “อำเภอหาดใหญ่” ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.68 ได้ 335 มม. ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี
สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19-21 พ.ย.68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 53 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.)
มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50-2.50 เมตร
และ..จากที่ฝนตกหนักในรอบ 300 ปี ฉะนั้นที่คุณสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ นำข้อความจากเพจพรรคไทยก้าวใหม่ขึ้นโพสต์..
คำถามตรงๆ จาก “คนใต้” การบริหารภัยพิบัติ “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง” รู้ทั้งรู้กันว่าฝนตกหนัก ไม่เตรียมพร้อม ไม่อพยพ รอ “หายนะ” อย่างเดียว
มันทำอะไรกัน (วะ)? นอกจากผลาญภาษี”
พร้อมกับข้อความ.. “ถามตรงๆ จากคนใต้ “น่าเห็นใจที่สุด”
ทีม “พรรคไทยก้าวใหม่” ในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ รายงานชาวบ้านลำบากสุดๆ หนีน้ำไม่ทัน “การแจ้งเตือนไม่มา” ไฟฟ้าดับ เน็ตล่ม ไม่มีที่อยู่ ไม่มีการวางแผน “อพยพ”
ทุกปัจจัย “ต้นเหตุ” รู้อยู่ “คาดการณ์” ได้อยู่ ว่าจะเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วมแน่นอน แต่ทำไมไม่เตรียมการ “รับมือ”
เราเห็นใจ “คนใต้” ที่สุด ไม่ควรจะรับกรรมขนาดนี้ ญาติผมที่หาดใหญ่ โทร.มา.. ทั้งเสียใจ ทั้งแค้นใจ และสูญเสีย!”
ก็..พอจะเข้าใจอารมณ์ได้ และต้องขอขอบคุณกับความรู้สึก “เห็นใจคนใต้ที่สุด” แต่ในขณะที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ-เอกชน
ได้พยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ในท่ามกลางสายฝนที่ไม่มีทีท่าจะหยุดเทนี้นั้น..
การบ่น-ก่นด่า ตำหนิติติงกับการส่งกำลังใจ-ความห่วงใยไปถึงผู้ประสบภัย และจิตอาสาที่ลุยน้ำเสี่ยงตายเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนที่ลอยคอกลางสายน้ำ อย่างไหนสมควรกว่ากัน?
ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณสุชัชวีร์ที่ผมเชียร์ว่าน่าจะกลับไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ ความสามารถ มีบุคลิกน่าศรัทธา-เชื่อถือ
กลับออกมา “เปลือยอารมณ์” ให้ผมเกิดความรู้สึก “เอ๊ะ” ..ที่แท้ก็แค่ “นักการเมือง” ธรรมดาๆ ทั่วไป ที่พร้อมจะฉกฉวยเอาความ “หายนะ” มาใช้เพื่อการเมือง-คะแนนเสียงความนิยม?
ฝนตกหนักในรอบ 300 ปี ซึ่งแม้แต่บ้านเกิดของผม จ.ปัตตานี ที่ร้อยวันพันปี น้ำไม่เคยไหลท่วมเข้าไปในตัวบ้าน..
แต่วานนี้ พี่ชายถ่ายคลิปส่งไลน์ไปให้ดู ก็ให้นึกในใจ..โชคดีที่คุณแม่ไปสวรรค์เสียก่อน (เมื่อปลายปีที่แล้ว) ไม่งั้นคงได้นอนแช่น้ำแหงๆ!
ซึ่งต่อให้คุณสุชัชวีร์ที่มีความรู้ ความสามารถเก่งกาจเหลือหลาย ผมก็เชื่อว่าการบริหารภัยพิบัติในสภาพเช่นนี้จะต้อง “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง”!
ยามนี้..คงไม่ใช่เวลาที่บรรดากูรู-ผู้รอบรู้เรื่องน้ำจะนั่งจิ้มมือถือหรือใช้ปากวิพากษ์วิจารณ์ ติติง เสนอแนะ หรือบ่น-ก่นด่า..
เอาไว้ให้น้ำ (ตา) แห้ง ทุกอย่างกลับมาเข้าที่-เข้าทาง ชาวบ้าน-คนใต้ยิ้มได้-สบายใจแล้ว ถึงตอนนั้น เชิญ “อวดเก่ง-โชว์ฉลาด” กันให้ปากมันไปเลย!
อ้อ..ที่คุณสุชัชวีร์ว่า.. “นี่คือความผิดพลาดร้ายแรงในการบริหารจัดการภัยพิบัติ และทำให้คนหาดใหญ่นับแสนต้องเผชิญชะตากรรม สูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน
บ้าน รถจมน้ำนับร้อยนับพัน มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท (เทียบกับน้ำท่วมใหญ่ปี 2553) ใครจะรับผิดชอบ”? นั้น
อยากรู้..ถามเพื่อ?.
