ไทย “แช่งไทย” คือไทย #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

มัน “ตลกปนเศร้า” นะ

เมื่อเห็น “สันดานเดิมแท้” บางนักการเมือง-บางนักวิชาการผู้มีหัวใจสยบยอมต่อระบบทุนตะวันตก!

พลันที่นายกฯ อนุทิน แสดง ๑๑ จุดยืน ให้ทรัมป์ทราบ เช่น

๓.ผมได้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยจะระงับการดำเนินการภายใต้เนื้อหาที่ระบุไว้ในปฏิญญา จนกว่ากัมพูชา จะยอมรับว่าตนมิได้ปฏิบัติตามและได้ละเมิดเงื่อนไขดังกล่าว

และต้องมีคำแถลงขอโทษต่อประชาชนชาวไทยในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ “ภูมะเขือ” ซึ่งได้ทำให้ทหารของไทยได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอวัยวะ

๗.”ผมได้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกชาติเพื่อเสริมสร้างสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน

แต่ในขณะเดียวกัน…..

รัฐบาลไทย ก็ไม่ต้องการ ที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อไป กับเพื่อนบ้าน ที่ไม่มีความจริงใจ และคอยคุกคามอธิปไตยของไทยอยู่ตลอดเวลา” และ

๑๐.ประธานาธิบดีสหรัฐได้ถามผมว่า เรื่องการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยและสหรัฐ มีปัญหาอะไรหรือไม่?

ผมได้เรียนไปว่า “อยากจะขอให้ท่านได้ลดอัตราภาษีให้กับประเทศไทยมากกว่านี้”

ซึ่งท่านได้ตอบมาอย่างอารมณ์ดีว่า “ในอัตรา ๑๙% ที่ไทยได้รับ ถือว่าต่ำมากนะ” ผมก็ได้พูดกับท่านว่า

“หากต่ำจริง ผมคงไม่เดินไปขอท่านที่เกาหลีใต้ให้ลดลงอีก เพราะไทยก็ได้ให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้านกับสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี ขอให้ท่านได้ให้หน้าผมบ้าง”

 ท่านได้ตอบกลับมาว่า “ท่านจะไปคุยกับกัมพูชา” ซึ่งหากกัมพูชาไม่ขัดขวางการถอนทุ่นระเบิดของไทย

แล้วฝ่ายไทยสามารถดำเนินการเร่งถอนทุ่นระเบิดได้อย่างรวดเร็ว ท่านก็จะพิจารณาให้มีการปรับลดภาษีให้มากกว่านี้

ท่านพูดกลับมาในท่วงทำนองเท่าที่ผมจำได้ว่า “If you do the demining works quickly, I’ll consider chopping more percentage for you.”

อาจจะไม่ตรงทุกคำศัพท์ แต่ก็อยู่ในโทนนี้ครับ”

เท่านั้นแหละ…..

ก้อนอิฐ ส้นตีน จากนักการเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และนักวิชาการด้านเศรษฐกิจ ปลิวว่อนใส่นายกฯ

เช่น “ไปพูดท้าทายสหรัฐฯ แบบนั้นจะมีผลเสียต่อไทย” บ้างละ

“ตกลงไทยจะไม่แคร์ภาษีสหรัฐฯ แล้วใช้มั้ย” บ้างละ

ผมว่า บางเรื่อง “อมลิ้นเพื่อชาติ” ไว้ ยังดูเท่กว่า

แต่เมื่อพูด นอกจาก “หมาไม่แดก” แล้ว ยังประจานพรรคตัวเองตอนเป็นรัฐบาลอีกตะหาก

ไหน…ลองบอกซิ!

พิพาทไทย-เขมรครั้งนี้ หมา “ตัวไหน” ก่อเหตุ ไปมีนอก-มีในกับฮุนเซน พอผลประโยชน์ขัดกัน ประเทศชาติ-ประชาชนต้องรับกรรม แล้วตัวมันรับผิดชอบอะไรมั้ย?

แล้วเป็นไง ผลของการพูด “ท้าทายสหรัฐฯ” ของนายกฯ อนุทิน พวกที่กลัว ออกมาจากง่ามตูดทรัมป์ แล้วอ่านนี่ซิ

“นายกฯ อนุทิน” โพสต์เฟซ จากปักกิ่ง เมื่อวาน (๑๖ พ.ย.) ว่า

“นายกฯ อันวาร์ แห่งมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธาน ASEAN ได้โทรศัพท์มาหาผมอีกครั้ง เมื่อช่วงค่ำวาน (15/11/2025)

เนื้อหาสนทนา ได้แจ้งยืนยันกับผมว่า…..

ท่านได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้พูดคุยกับผมแล้วก่อนหน้านี้ 

ท่านประธานาธิบดีทรัมป์ มีความเห็นตรงกันกับจุดยืนของผมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian demining

เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งในปฏิญญาที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกัน

ท่านจึงได้ขอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุด เพราะมีความเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตคนของทั้งสองประเทศ

และประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยืนยันฝากนายกฯ อันวาร์ให้มาแจ้งผมอีกครั้งว่า

“สหรัฐฯ จะไม่นำประเด็นระงับปฏิญญาของไทยมาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้”

ผมยังได้ถามท่านนายกฯ อันวาร์ว่า สามารถโพสต์ข้อความนี้ได้หรือไม่ ท่านตอบว่า “โพสต์เลยอนุทิน”

ท่านก็จะโพสต์ยืนยันจากช่องทางการสื่อสารของท่านเช่นกัน

จึงขอกราบเรียนมายังพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้ เพื่อให้รับทราบโดยทั่วกันนะครับ

อนึ่ง จดหมายจาก “ผู้แทนการค้าสหรัฐ” ที่ระบุเรื่องการหยุดเจรจากับไทย ได้ถูกพิมพ์ขึ้นก่อนที่ผมจะได้คุยโทรศัพท์กับท่านประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน ครับ

ดังนั้น ข้อมูลของผมจึงมีความเป็นปัจจุบันมากกว่าครับ

……………………………..

เมื่อข้อความนี้แพร่ออกไป หลายท่านออกมาโพสต์ทำนองนี้

Thailand FACT Today

สหรัฐฯ “กลับลำ” เหตุใด จึงยุติการกดดันไทย?

คำตอบคือ…เพราะไทยยืนหยัด

จนโลกต้องยอมรับ

เมื่อทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาด เหตุการณ์นี้คือ “เส้นแดง” ที่ไทยยอมไม่ได้

นายกฯ อนุทิน จึงมี “คำสั่งเด็ดขาด”

“ระงับปฏิญญาไทย–กัมพูชาในทันที”

ส่งสัญญาณถึงนานาชาติว่า “ไทยจะไม่ปล่อยให้ชาติใดละเมิดชีวิตทหารไทยโดยไม่รับผิดชอบ”

✦ สหรัฐฯ–มาเลเซีย “ไม่สบายใจ” เพราะอะไร?

ปฏิญญาฉบับนี้…

หนึ่ง อยากใช้เป็นผลงาน “สันติภาพ”

อีกหนึ่ง อยากโชว์บทบาท “นำภูมิภาค”

แต่ไทยไม่ได้เล่นตามเกมของใครทั้งนั้น ไทยยืนยันจุดยืนเดิมอย่างหนักแน่น

“หยุดปฏิญญา” จนกว่ากัมพูชาจะขอโทษและรับผิดชอบ

✦ มีคนปล่อยข่าวปั่น…ว่า “เดี๋ยวโดนภาษีทรัมป์กดดัน”

แต่ระหว่างที่นายกฯ ไทยเดินทางไปภารกิจที่จีน

ไม่มีคำสั่งทบทวนจุดยืนแม้แต่คำเดียว

จนสหรัฐฯ ส่งหนังสือถึง กต.ขู่จะ “ชะลอการเจรจาภาษี” หากไทยไม่กลับเข้าปฏิญญา

รัฐบาลไทยยืนจุดเดิมทันที “ไม่กลับ! ไม่ทบทวน”!

✦ เกมพลิกภายในคืนเดียว

คืนนั้นเอง “อันวาร์–ทรัมป์” โทรตรงถึงนายกฯ อนุทิน

ขอให้ไทยกลับเข้าปฏิญญา ขอให้คงสันติภาพ

ขอให้เดินเกมแบบเดิม

แต่ไทยตอบตรงไป-ตรงมา:

“บอกกัมพูชาให้ขอโทษไทยก่อนและต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสีย ส่วนไทย…จะกู้ทุ่นระเบิดต่อ และกัมพูชาอย่ามาขวาง”

ชัดทุกประโยค ไม่มีสั่น ไม่มีถอย

✦ หลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้น?

“ทรัมป์–อันวาร์” คุยกันใหม่ทันที แล้วภาพก็เปลี่ยนไปทั้งกระดาน

ไม่ถึง 24 ชั่วโมง…อันวาร์โทรหานายกฯ อนุทินอีกครั้ง แจ้งว่า

เขาและทรัมป์ “เห็นด้วย” ที่ไทยเดินหน้ากู้ระเบิด

“ทรัมป์ไม่ใช้ปฏิญญาเป็นเครื่องมือต่อรองภาษีอีกต่อไป”

ไม่มีการบีบไทยให้กลับเข้าปฏิญญา

ไทยเดินหน้าความร่วมมือการค้าและหารือกับนานาชาติได้เต็มกำลัง

โลกไม่ได้กดดันไทย…

โลกกลับ “ต้องยอมรับจุดยืนของไทย”

✦ บทสรุปของสถานการณ์นี้ชัดเจนที่สุด

เพราะไทย “ไม่สั่นไหว”

เพราะไทย “ไม่ถอยแม้ก้าวเดียว”

เพราะไทย “เรียกร้องความยุติธรรม ไม่ใช่ความขัดแย้ง”

ประเทศมหาอำนาจ จึงต้องปรับท่าทีเข้าหาไทย

ไม่ใช่ให้ไทยปรับท่าทีเข้าหาใคร

🇹🇭 ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

ยืนหยัดด้วยศักดิ์ศรี และโลกก็ต้องรับฟัง.

………………………………………

อีกซักรายเป็นไง เป็นการ “เรียกทัวร” ลงนายกฯ

Boongeum Baankok

“เกมพลิก !!!หลังจาก “ลุงอนุหนู” ประกาศยกเลิกปฏิญญาสันติภาพไทย เขมร ก็มีเสียงก่นด่าจากคนไทยด้วยกันว่า

ไม่เป็นมวย เสียเปรียบ

ยิ่งทางอเมริกาและมาเลเซียพยายามเร่งรัดให้ไทยกลับเข้าสู่เวทีเจรจารอบใหม่ ถึงขนาด อเมริกาจะเอาการเจรจาภาษีมาเป็นข้อต่อรอง

ทางไทยก็ยังยืนยันจะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนไทย

ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น ก็ขนทุกอย่างที่บรรทุกได้ ทั้งรถทัวร์ สิบล้อ รถพ่วง รถตู้ รถอีแต๋น มาถล่ม “ลุงอนุหนู” ยับๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ขี้ข้าอเมริกา” บอก…อ่อนชั้นการเมืองต่างประเทศ พาประเทศเสียหาย บลาๆๆๆ

ฝ่ายรัฐบาลก็ยืนยันในหลักการ ไม่ยินยอมให้ใครมาหยามประเทศไทยอีกต่อไป และไม่ได้อยู่เฉยๆ

ก็ดำเนินการอีกด้านหนึ่ง คือหาตลาดใหม่ เพื่อทดแทนหากต้องเสียตลาดอเมริกาไปบ้าง

กระทรวงพานิชย์ นำโดย “ป้าจี” ได้ไปขายสินค้าใหม่ในที่ประชุมเอเปค แล้วมาต่อยอดทำสัญญาขายข้าวให้สิงคโปร์ ๑ แสนตัน

ทางการจีน สั่งซื้อข้าวจากไทยอีก ๕ แสนตัน และยังเร่งเจรจาหาตลาดใหม่จากกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ คือกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นคู่แข่งกับอเมริกาโดยตรง

โดยได้เจรจากับประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างอินเดีย และรัสเซีย เพื่อเปิดตลาดสินค้าไทย

เมื่ออเมริกา เห็นท่าทีไทยที่แข็งกร้าวพร้อมเดินหน้าเจรจากับกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้าม รวมถึงท่าทีของไทยกับจีนที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระราชินี” เสด็จเยือนอย่างเป็นทางการ ได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ ทำเอาท่าทีอเมริกาต้องอ่อนลง

ล่าสุด ได้ให้อันวาร์โทรศัพท์มาบอกลุงอนุหนูว่า

สรุปแล้ว “เอาตามที่ไทยต้องการ” ให้ไทยเร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดอย่างเต็มที่ อเมริกาจะไม่เอาปฏิญญาสันติภาพมาเกี่ยวกับการเจรจาภาษี ให้ไทยดำเนินการตามสมควรเลย

นี่เป็นเพราะการดำเนินนโยบายอย่างชาญฉลาด มั่นคงในหลักการ ไม่ก้มหัวให้ใคร หากจะกระทบต่ออธิปไตยของไทย และดำเนินนโยบายการเมืองระหว่างประเทศแบบสมดุล

ไม่ยึดโยงฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่ง ทำให้มีอำนาจในการต่อรองอยู่ในมือ

อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ การที่ตั้งรัฐมนตรีจาก Technocrats ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยจัดการปัญหาประเทศ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ด้านต่างประเทศ “ลุงสีหศักดิ์” โดดเด่นมากในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ มีบารมีในเวทีโลก

“ป้าจี” เชี่ยวชาญด้านการค้า ก็วางโครงสร้างในอนาคตอย่างชัดเจน ดำเนินการนโยบายอย่างรวดเร็วทันใจ มีประสิทธิภาพ

“ลุงเอกนิติ” เข้ามาคุมการคลัง ก็บริหารภาพรวมได้ดีมาก สภาวะเศรษฐกิจเริ่มนิ่งขึ้น

คงจะบอกว่า “ลุงอนุหนู” ไม่มีความสามารถก็ออกจะใจดำไปหน่อย ระยะเวลาอันจำกัด ทำอะไรได้มากมาย

การเดินแต้มคูก็พอตัว อ่อนนอกแข็งใน มีลูกล่อลูกชน เพราะผู้บริหารที่เก่งคือนำเอาความสามารถของฝ่ายต่างๆ มาผสมผสานให้เข้ากับบริบทขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

ไอ้ผู้บริหารที่คุยว่า “คิดเอง-ทำเอง” แสดงว่า มีบริวารโง่ พึ่งไม่ได้ พอหัวล้ม ก็ไปทั้งกระดาน

อ้อ ฝ่ายรถทัวร์ที่ล่อลุงอนุหนูกันฉ่ำๆ เรื่องนโยบายอเมริกาผิดพลาด ก็กรุณามาเก็บรถทัวร์กลับไปด้วยเด้อ

อย่าอายเลย บางคนออกตัวแรง ถึงกับเบรกล้อฟรีเบย กุขรรม !!!…”

………………………………….

จากพรุ่งนี้ เป็นต้นไป โปรดรอชม “นาฏะดนตรี” เรื่อง

“ตัดหัวเอาเลือดมาล้างตีน” กันได้แล้วครับ ท่านพ่อแม่พี่น้อง!

เปลว สีเงิน

๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
ทีมแพทย์ “ศูนย์วิจัย” จุฬาฯ – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน วัคซีน “Chula Cov19” จะเป็นวัคซีนที่ “ช้าหน่อย แต่ชัวร์” ด้านคุณภาพและความปลอดภัย ในบรรดาวัคซีนโควิด-๑๙ ที่มีอยู่ตอนนี้! ยิ่งกับปัญหา…....
Read More
0 replies on “ไทย “แช่งไทย” คือไทย #เปลวสีเงิน”